สำนักงานพยากรณ์อากาศกลางของไต้หวัน รายงานว่า เมื่อเวลา 15.15 น. ของวันพุธ (30 ตุลาคม) พายุไต้ฝุ่น “กองเร็ย” อยู่ห่างจากแหลมเอ๋อหลวนปี๋ ทางตอนใต้สุดของไต้หวัน ราว 410 กม. โดยมีความเร็วลมต่อเนื่อง 190 กม./ชม. และความเร็วลมกระโชก 234 กม./ชม. และพายุจะขึ้นฝั่งในเขตไถตง ที่มีประชากรอาศัยเบาบางทางชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ในวันพฤหัสบดี นอกจากนี้พายุมีรัศมีกว้างถึง 320 กม. ซึ่งจะทำให้เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกใหญ่ที่สุดที่มีรัศมีเกิน 300 กม. พัดขึ้นฝั่งไต้หวันในรอบ 28 ปี
ทางการประกาศเตือนภัยพายุทางบก ขณะที่คาดว่า พายุอาจอ่อนกำลังเล็กน้อยก่อนพัดขึ้นฝั่ง แต่อิทธิพลของพายุจะทำให้เกิดฝนตกวัดได้ 1.2 เมตร ในแถบภูเขาทางภาคตะวันออก มีกระแสลมรุนแรงในพื้นที่ชายฝั่ง และอาจเกิดคลื่นสูงถึง 8 เมตร นอกจากนี้อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน สตอร์มเซิร์จ และมีความเสี่ยงเกิดดินถล่ม
ทางการสั่งระงับการบริการของเรือข้ามฟาก ปิดอุทยานแห่งชาติ และปิดพื้นที่ริมแม่น้ำในบริเวณกรุงไทเป เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายจากพายุ ขณะที่ชาวประมงงดออกจากฝั่งและเร่งผูกเรือที่จอดเทียบท่าให้แน่นหนา นอกจากนี้สถานศึกษาและธุรกิจต่าง ๆ ปิดทำการ
หน่วยฉุกเฉินกว่า 6,000 คน เตรียมรับมือกับภัยพิบัติ และกองทัพเตรียมจัดกำลงทหารเกือบ 36,000 นายเพื่อให้ความช่วยเหลือในภารกิจกู้ภัยและบรรเทาทุกข์
ขณะเดียวกันหลายเมืองแถบชายฝั่งทางภาคใต้ของจีนเผชิญกำลังลมแรงและฝนตกเนื่องจากอิทธิพลของพายุกองเร็ยแล้ว ในขณะที่มณฑลไห่หนานทางใต้สุดยังคงมีฝนตกตั้งแต่วันเสาร์ สืบเนื่องจากพายุไต้ฝุ่น “จ่ามี” ที่อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชั่นหลังขึ้นฝั่งที่เวียดนามในเช้าวันอาทิตย์
ส่วนพายุไต้ฝุ่นกองเร็ย คาดว่า จะมุ่งหน้าสู่มณฑลฝูเจี้ยน และมณฑลเจ้อเจียงของจีน หลังพายุขึ้นฝั่งในไต้หวัน และสองมณฑลดังกล่าวสั่งเรือประมงงดออกจากฝั่ง และเรือข้ามฟากงดให้บริการ และหน่วยกู้ภัยเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำท่วมและภัยพิบัติอื่น ๆ สืบเนื่องจากพายุ
ขณะที่ในหลายจังหวัดทางภาคเหนือของฟิลิปปินส์ต้องสั่งให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง ขณะพายุกองเร็ยเคลื่อนตัวเข้าใกล้จังหวัดคากายัน ทางภาคเหนือของประเทศ แต่คาดว่า จะพัดเฉียดใกล้จังหวัดบาตาเนส ทางตอนเหนือสุด ก่อนไปขึ้นฝั่งไต้หวัน ฟิลิปปินส์ยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูความเสียหายจากพายุโซนร้อน “จ่ามี” ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายรวมอย่างน้อย 182 ราย และผู้ประสบภัยกว่า 300,000 คน ยังอยู่ในศูนย์พักพิง