รัฐบาลฟิลิปปินส์สั่งปิดโรงเรียนของรัฐและหน่วยงานราชการ ยกเว้นหน่วยงานที่ต้องบรรเทาภัยพิบัติทั่วเกาะลูซอน ที่เป็นเกาะหลักของประเทศ เพื่อปกป้องชีวิตประชาชนหลายคน ขณะพายุโซนร้อนจ่ามีกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้
พายุอยู่ห่างจากเมืองคาซิกูรันในจังหวัดออโรรา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือราว 200 กม. และมีความเร็วลมต่อเนื่อง 85 กม./ชม. และความเร็วลมกระโชก 105 กม./ชม. และคาดว่า พายุจะมีความรุนแรงมากขึ้น ก่อนจะขึ้นฝั่งในคืนวันพุธ (23 ตุลาคม) หรือเช้ามืดวันพฤหัสบดี (24 ตุลาคม)
ชาวบ้านหลายพันคนอพยพออกจากบ้านเรือนไปยังศูนย์พักพิงฉุกเฉินในหลายจังหวัดใกล้เคียงล้ว และมีการยกระดับคำเตือนภัยพายุครอบคลุมในกว่า 20 จังหวัดทางภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งรวมถึงกรุงมะนิลา ที่มีประชากรอาศัยหนาแน่น
อิทธิพลของพายุทำให้เกิดฝนตกหนักในภูมิภาคไบคอลเมื่อวันอังคาร ทำให้ประชาชนต้องอพยพ หลังเกิดน้ำท่วมสูงถึงหลังคาบ้าน แม่น้ำเอ่อล้น และทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และจังหวัดอัลเบย์มีปริมาณฝนตกช่วง 24 ชม.เท่ากับปริมาณฝนเกือบ 2 เดือน
หน่วยยามฝั่งเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนออกจากหลายหมู่บ้านที่ประสบน้ำท่วมในหลายจังหวัดทางภาคตะวันออกตั้งแต่วันอังคาร แต่ทางการท้องถิ่น บอกว่า มีเรือกู้ภัยและเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่เพียงพอ
จังหวัดคามาริเนส ซูร์ ต้องการมีเรือกู้ภัยเกือบ 50 ลำ แต่ต้องการเกือบ 200 ลำ เนื่องจากได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านจำนวนมาก และจังหวัดเกซอน ที่อยู่ใกล้เคียงมีน้ำท่วมสูงถึง 3 เมตรในบางพื้นที่ และชาวบ้านอย่างน้อย 8,000 คนได้รับการอพยพจากพื้นที่ลุ่มต่ำ
ขณะที่ผู้โดยสารและพนักงานขนส่งสินค้าหลายพันคนติดค้างอยู่ตามท่าเรือหลายแห่ง หลังจากหน่วยยามฝั่งสั่งระงับการให้บริการเรือข้ามฟากระหว่างเกาะ และห้ามเรือประมงออกนอกชายฝั่งเนื่องจากทะเลมีคลื่นแรง