ศาลยุติธรรมจัดโครงการพิธีกรมืออาชีพ ส่งภารกิจถึง ปชช.

เมื่อวันที่ 24 มี.ค..2568 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกา ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการพิธีกรมืออาชีพ ของกองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์

สำนักงานศาลยุติธรรม  กล่าวถึงโครงการพิธีกรมืออาชีพ ที่สำนักงานศาลยุติธรรมจัดขึ้นว่า โครงการนี้สืบเนื่องจากนโยบายของ นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกาที่ต้องการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้วยการเสริมสร้างหลักสูตร การศึกษาอบรม ให้สอดคล้องกับบริบทของสังคม เพื่อให้ส่งเสริมและพัฒนาการประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้เยาวชนและประชาชน เข้าใจ  เข้าถึงกระบวนการทางศาลและสิทธิของตนตามกฏหมาย  นายธีรทัย เจริญวงศ์เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม จึงได้มอบหมายให้มีการดำเนินโครงการนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพของการทำงานของสำนักงานศาลยุติธรรม ในด้านการประชาสัมพันธ์ ที่จะต้องนำข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่งต่อไปยังประชาชนให้ได้มากที่สุด และชัดเจนที่สุด จนสามารถสร้างความเข้าใจ เกิดภาพลักษณ์ที่ดี จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการพิธีกรมืออาชีพ

นอกจากนี้ กองและสำนักต่างๆในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรม จะมีการจัดโครงการหรือจัดกิจกรรมซึ่งมีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมด้วยเป็นประจำ จึงมีบุคลากรที่ต้องทำหน้าที่เป็นพิธีกรในโครงการต่างๆนอกเหนือจากงานประจำอยู่ทุกหน่วยงาน ดังนั้น หากบุคคลเหล่านี้มีทักษะทางด้านนี้ นอกจากจะทำให้โครงการหรือกิจกรรมต่างๆดำเนินการอย่างราบรื่นแล้วยังทำให้การสื่อสารถึงประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น อีกทั้ง จะได้มีบุคลากรทางด้านนี้เพิ่มจำนวนมากขึ้นโดยผู้ที่มาอบรมจะเป็นผู้ที่รับการคัดเลือกจากผู้อำนวยการ แต่ละกองสำนักของสำนักงานศาลยุติธรรมรวมทั้งสิ้น 51 คน

สำหรับวิทยากรที่เชิญมาเราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากวิทยากรที่เป็นพิธีมืออาชีพไม่ว่าจะเป็นพิธีกรหรือผู้ประกาศข่าวจริงๆ อย่างเช่น คุณธีรวัฒน์ หรือยอร์ช ชูรัตน์ ผู้ประกาศข่าวจากเนชั่นทีวี ซึ่งเป็นคนที่ใช้ภาษาไทยที่ชัดเจน เเละมีบุคลิกภาพ รวมถึงการใช้น้ำเสียงและการออกเสียงที่ดี และมีประสบการณ์อย่างมากมาถ่ายทอดให้กับบุคลากรของเราที่ได้ เข้าร่วมโครงการ ซึ่งบุคลากรของเรา

ก็ได้ประสบการณ์จากคุณยอร์ชเป็นอย่างยิ่ง 

ส่วนอีกคนก็คือพิธีกรนักแสดงชื่อดังอย่างคุณสมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ หรือเสนาลิง ซึ่งเป็นพิธีกรที่มากความสามารถและมีประสบการณ์จริงๆไม่ว่าจะเป็นพิธีกรเดี่ยวหรือพิธีกรคู่ก็นำความรู้ประสบการณ์ส่วนตัวมาถ่ายทอดให้บุคลากรของสำนักงานศาลยุติธรรม

อย่างน้อยที่สุดภายหลังจากการ

อบรม บุคลากรเมื่อได้ฝึกทักษะในเรื่องของการสื่อสาร การเป็นพิธีกร รวมถึงบุคลิกภาพของพิธีกรแล้ว ไม่ว่าต่อไปจะได้จับไมค์หรือไม่ แต่ทักษะเหล่านี้จะช่วยในเรื่องของการสื่อสารกับบุคคลอื่นได้ดีขึ้นและเมื่อทักษะการสื่อสารของบุคลากรศาลยุติธรรมดีขึ้น ย่อมช่วยทำให้ข้อมูลข่าวสารของศาลยุติธรรมไปสู่ประชาชนเป็นไปโดยง่ายและประชาชนสามารถเข้าใจได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน