svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตัวแทนคนทำธุรกิจ “ดิไอคอน” ยื่น อสส.ให้สอบพยาน 4 พันปาก ปัดเตะถ่วงทำสำนวน

ถ้าไม่ฟ้องก็ต้องปล่อย! ตัวแทนคนทำธุรกิจ “ดิไอคอน” ยื่น อสส.ให้สอบพยาน 4 พันปาก ปัดเตะถ่วงทำสำนวนให้ 18 บอส รอดคุก จากเงื่อนไขครบฝากขัง ขณะที่ อสส.ยันพรุ่งนี้รู้สั่งฟ้อง 18 บอสหรือไม่

7 มกราคม 2568 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ กลุ่มผู้ที่ทำธุรกิจกับบริษัทดิไอคอน กว่า 200 คน ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอให้สอบปากคำเพิ่มเติม เข้าไปในสำนวนคดีดิไอคอนกรุ๊ป ในฐานะพยานฝั่งของดิไอคนกรุ๊ป โดย น.ส.ปราณิชพัชร์ ตัวแทนของกลุ่ม บอกว่า ก่อนหน้านี้เคยยื่นเรื่องมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 โดยต้องการให้อัยการสั่งหน่วยงานที่รับผิดชอบ สอบปากคำเพิ่มเติม รวมกว่า 4,000 รายชื่อ เนื่องจากที่ผ่านมา ยังไม่มีการเรียกสอบปากคำเพิ่มเติม

นอกจากนี้ยัง ได้ยื่นเอกสาร 200 กว่ารายชื่อถึงอัยการสูงสุด เพื่อแสดงความประสงค์ต้องการถอนแจ้งความในคดี เพราะตรวจสอบพบว่า คำให้การไม่ตรงตามข้อเท็จจริง มีการก็อบปี้คำให้การในลักษณะการทำสำเนาที่เหมือนกัน ส่วนที่ดีเอสไอยืนยันว่า ไม่สามารถถอนแจ้งความได้นั้น พวกตนทราบดีว่าเป็นอาญาแผ่นดิน จึงเรียกร้องให้สอบปากคำเพิ่มเติม และมองว่า คนที่ทำสำนวนให้เป็นสำเนา ต้องรับผิดชอบด้วย

อีกทั้งในวันนี้ ต้องการยื่นหนังสือ ติดตามทวงถามกรณีที่ถูกอายัดบัญชี หลังเคยไปยื่นทวงถามที่ บช.ก., ดีเอสไอ , กระทรวงยุติธรรม และ รัฐสภา แต่ไม่มีความชัดเจน ทุกวันนี้กลุ่มผู้ที่ทำธุรกิจได้รับผลกระทบ จากการถูกอายัดบัญชี มีหนี้สินเพิ่มโดยไม่จำเป็น เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ และมองว่าหน่วยงานต่างๆ ที่ไปทวงถาม มีการโยนกันไปมาอย่างเดียว
ตัวแทนคนทำธุรกิจ “ดิไอคอน” ยื่น อสส.ให้สอบพยาน 4 พันปาก ปัดเตะถ่วงทำสำนวน
 

ส่วนกรณีที่วันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) จะครบฝากขัง 7 ฝาก และอัยการจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ จะทำให้การยื่นหนังสือนี้ทันหรือไม่นั้น ตัวแทนดิไอคอนกรุ๊ป บอกว่า การมายื่นหนังสือวันนี้ก็เพื่อให้อัยการสูงสุด นำเอกสารเข้าสำนวน และอยากจะให้ขยายเวลาออกไป เพื่อเรียกฝั่งดิไอคอนกรุ๊ปกว่า 4,000 รายชื่อ มาให้ปากคำเพิ่มเติม จนกว่าจะครบ หาก อสส.ไม่เรียกสอบและมีคำสั่งทางคดีในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) ทางกลุ่มก็จะยื่นหนังสื่อเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป

ส่วนที่มองว่า การยื่นหนังสือเป็นการประวิงเวลาเพื่อให้ 18 บอสออกมาจากเรือนจำ ตัวแทนดิไอคอนกรุ๊ป ระบุว่า  ทางกลุ่มฯคงไม่ได้ก้าวล่วงการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการและศาล แต่ในฐานะประชาชนอยากให้รับฟังเสียงของประชาชนกลุ่มนี้ด้วย


อสส.เตรียมประชุม ก่อนมีความเห็นสั่งฟ้องคดีดิไอคอนกรุ๊ปหรือไม่

ขณะที่ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้ทางอัยการฝ่ายคดีพิเศษ จะมีการประชุม ก่อนจะมีการแถลงเกี่ยวกับคดีของดิไอคอนกรุ๊ป ในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) ว่า จะมีความเห็นควรสั่งฟ้องหรือไม่ ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะครบ 7 ผัด ฝากขังของ 18 บอส ส่วนจะมีการขยายเวลาฝากขังหรือไม่ ยังไม่มีรายงานเรื่องนี้ ย้ำว่า กรณีที่ผู้เสียหายบางส่วนทยอยถอนแจ้งความนั้น ไม่ส่งผลต่อสำนวนคดี
ตัวแทนคนทำธุรกิจ “ดิไอคอน” ยื่น อสส.ให้สอบพยาน 4 พันปาก ปัดเตะถ่วงทำสำนวน

“เคนโด้” ยื่นตรวจสอบมรรยาท “ทนายวิฑูรย์” เรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน
 

วันเดียวกัน ที่สภาทนายความฯ นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ “เคนโด้” เจ้าของเพจเคนโด้ช่วยด้วย นำตัวแทนผู้เสียหายจากบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป มายื่นตรวจสอบมรรยาททนายความของ “นายวิฑูรย์ เก่งงาน” ทนายของ บอสพอล พร้อมระบุ เตรียมที่จะเปิดพยานหลักฐานใหม่ ที่ยืนยันว่า สิ่งที่ ทนายวิฑูรย์ พูดที่ผ่านมาไม่เป็นความจริง

เคนโด้ กล่าวว่า ผู้เสียหายที่มาวันหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากนับหมื่นราย โดยที่ผ่านมา ทนายวิฑูรย์ ให้ข่าวเพียงแค่ฝ่ายเดียวมาโดยตลอด  เพื่อข่มขู่ผู้เสียหาย ไม่มีโอกาสได้พูดความจริง และเกิดความหวาดกลัวว่า จะถูกดำเนินคดี และปลุกปั่นให้ผู้เสียหายถอนการแจ้งความ นอกจากนี้ ยังยุยงให้หน่วยงานด้านยุติธรรมที่รับผิดชอบคดี นำข้อมูลผู้เสียหายมามอบให้ทนายความ เพื่อแจ้งความกลับผู้เสียหาย จึงมองว่าพฤติกรรมดังกล่าว เป็นการใช้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวและถอนแจ้งความ ตนจึงพาผู้เสียหายมายื่นเอาผิดมรรยาททนายความกับทนายวิฑูรย์

เคนโด้ กล่าวอีกว่า ทนายวิฑูรย์ยังรับงานออกมาพูด เคยออกมาพูดเพื่อดิสเครดิตตนว่า ตนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งดิไอคอน ก่อให้เกิดความเสียหายกับตนและครอบครัว ตนจึงตัดสินใจที่จะฟ้องร้องกับทนายวิฑูรย์ในข้อหาหมิ่นประมาทฯ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรียกแพ่งค่าเสียหาย 50 ล้านบาท นอกจากนี้ ตนจะฟ้องทะลุกำแพงเรือนจำ กับบอสพอลในข้อหาละเมิดตามกฎหมาย PDPA รวมทั้งเรียกแพ่งค่าเสียหาย 50 ล้านบาท  กับบอสพอลเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ เคนโด้ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ เงินที่ ทนายวิฑูรย์ได้รับว่ามาจากไหน และถูกต้องหรือไม่อีกด้วย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
ตัวแทนคนทำธุรกิจ “ดิไอคอน” ยื่น อสส.ให้สอบพยาน 4 พันปาก ปัดเตะถ่วงทำสำนวน