นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด วัย 53 ปี แถลงเมื่อวันจันทร์ (6 มกราคม) ว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยม และนายกรัฐมนตรี เมื่อพรรคสามารถสรรหาหัวหน้าพรรคใหม่ได้แล้ว และรัฐสภาจะปิดสมัยประชุมจนกว่าจะมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีนิยมคนใหม่ในวันที่ 24 มีนาคม
เขาบอกด้วยว่า “ประเทศนี้ควรได้ตัวเลือกที่แท้จริงสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป และชัดเจนแล้วว่า หากผมยังต้องต่อสู้กับศึกภายใน ผมไม่อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเลือกตั้งใหม่”
นอกจากนี้เขากล่าวว่า สิ่งเดียวที่เขาเสียใจ คือ ไม่สามารถแก้ไขกระบวนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะทำให้ประชาชนสามารถลงคะแนนให้ตัวเลือกอันดับ 2 และ 3 ได้ในบัตรเลือกตั้งเดียวกัน ก่อนที่การเลือกตั้งทั่วไปจะจัดขึ้นในปลายปีนี้
ทรูโดเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยมมานาน 11 ปี และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมานาน 9 ปี เขากำลังเผชิญวิกฤตมากมายตั้งแต่คำขู่ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่จะขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจากแคนาดา, การลาออกของคริสเตีย ฟรีแลนด์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง ที่เป็นพันธมิตรยาวนานของเขาเมื่อเดือนธันวาคมเนื่องจากความขัดแย้งด้านนโยบาย และผลสำรวจคะแนนนิยมของเขาที่ย่ำแย่ลง
เขาถูกมองว่าตัดสินใจลาออกก่อนที่จะถูกบีบให้ออก ในขณะที่มีแนวโน้มว่า เขาจะประสบความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงเดือนตุลาคม และผลสำรวจคะแนนนิยมเมื่อปลายปี 2567 พบว่า ทรูโดมีคะแนนนิยมตกต่ำที่สุด โดยมีเพียง 22% ที่พอใจผลการทำงานของเขา
ทรูโดเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยมในปี 2558 และผลักดันนโยบายในประเด็นก้าวหน้าหลายเรื่อง ทั้งการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ, ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชนพิ้นเมืองในอดีต รวมทั้งส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ โดยในคณะรัฐมนตรีมีผู้หญิงมากถึง 50% และการออกกฎหมายที่อนุญาตให้เสพกัญชาเพื่อนันทนาการได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ในระยะหลังเขาเผชิญกระแสความไม่พอใจต่อสภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องค่าครองชีพพุ่งสูง
ส่วนตัวเต็งที่อาจได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยม ที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีทั้ง มาร์ค คาร์นีย์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา, เมลานี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศ และคริสเตีย ฟรีแลนด์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี