3 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ( 2 ม.ค.68) เวลา 19.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่บ้านโชคอำนวย ต.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ หลังได้รับแจ้ง พ.ต.ท. จักรกริช รังพงษ์ สารวัตรใหญ่ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรถาวร พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สายสิงห์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ถาวร และชุดสืบสวน จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณข้างโอ่งน้ำ ใกล้กระท่อมหลังบ้าน พบกองเลือดที่พื้นดิน จากการสอบถามญาติทราบว่า ผู้ที่ถูกยิงชื่อ นายวิรา ดามงคล หรือ แอร์ อายุ 60 ปี หน่วยกู้ชีพได้นำส่ง รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึง เนื่องจากอาการสาหัส ต่อมาได้รับแจ้งว่านายวิรา เสียชีวิตที่ รพ.
จากการตรวจสอบสภาพศพ เบื้องต้น พบมีรอยกระสุนลูกปลายที่บริเวณหน้าอก และท้องรวม 5 รู ซึ่งทาง รพ.ได้ส่งศพไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์
ทั้งนี้ จากการสอบถามทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุยิงนายวิรา เสียชีวิต คือ นายพัทธดนย์ เนาวะบุตร หรือนุ อายุ 53 ปี เป็นเพื่อนบ้านกัน บ้านอยู่ติดกับหลังบ้านของผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบก็พบนายพัทธดนย์ นั่งอยู่โต๊ะหน้าบ้านด้วยอาการมึนเมา และพบปืนลูกซอง 1 กระบอกคาดว่าเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายพัทธดนย์ ก็ยอมรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุยิงนายวิรา จริงเพราะมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายพัทธดนย์ ไปควบคุมไว้ที่ห้องขัง สภ.ถาวร เพราะยังมีอาการมึนเมาพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง รอให้ส่างเมาทางพนักงานสอบสวนจึงจะสอบปากคำอีกครั้ง
สำหรับประวัตินายพัทธดนย์ (มือยิง) เคยถูกจับคดียิงปืนขึ้นฟ้า เมื่อเดือนมีนาคมปี 2566 ที่ผ่านมา
สอบถามนางน้ำอ้อย แสงดาว อายุ 48 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ที่ผ่านมานายพัทธดนย์ ซึ่งบ้านอยู่ติดกัน จะชอบเมาโวยวายและพูดจาหาเรื่องสามีเป็นประจำ แต่สามีก็ไม่สนใจ และไม่เคยตอบโต้เพราะรู้นิสัย และไม่อยากมีปัญหา แต่วันนี้ลูกหลานซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มาเยี่ยมพ่อแม่ ก็ได้ซื้อเนื้อย่าง มากินสังสรรค์ส่งท้ายปีใหม่กับพ่อแม่ก่อนจะกลับไปทำงานกรุงเทพฯ พอสามีก่อไฟเพื่อให้ลูกกินเนื้อย่างเสร็จ ก็เดินไปนั่งดื่มกินที่กระท่อมหลังบ้านกับเพื่อนของสามีอีกคน ส่วนตนเอง และลูกหลานก็กินกันที่หน้าบ้าน ไม่นานก็ได้ยินเสียงนายพัทธดนย์ เพื่อนบ้านตะโกนโวยวายด่าสามี ก็ไม่รู้ว่าเขาไม่พอใจอะไร
แต่ครั้งนี้สามีอาจจะเห็นว่าลูกหลานอยู่ด้วย จึงด่ากลับทั้งที่ที่ผ่านมาไม่เคยโต้กลับเลย จนมีปากเสียงทะเลาะกัน ตนจึงเดินไปห้ามแต่ก็ไม่หยุด จึงพูดไปว่างั้นก็ต่อยกันไปเลยจะได้จบ แล้วก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน สักพักเสียงเงียบไปก็คิดว่าคงหยุดทะเลาะกันแล้ว แต่ไม่นานกลับได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก็คิดว่าเขายิงปืนขึ้นฟ้า เพราะเขาเคยยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่สามีหลายครั้ง แต่พอเดินไปดูกลับพบสามีนอนหายใจรวยรินกับพื้นแล้ว ก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กรีดร้อง ขอให้เอาผิดตามกฎหมายถึงที่สุด
ด้านนางสาวน้ำฝน สุอารีย์ อายุ 27 ปี ลูกสะใภ้ผู้ตาย เล่าว่า วันนี้ลูกหลานตั้งใจกินส่งท้ายก่อนจะกลับไปทำงานกรุงเทพฯ ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดขึ้น พวกตนก็กินสังสรรค์กับครอบครัวปกติ แต่อีกฝ่ายเมาแล้วมาหาเรื่องพ่อสามี จนพ่อสามีทนไม่ไหวก็ด่ากลับ ทำให้อีกฝ่ายโมโหไปหยิบปืนมายิงพ่อสามี มองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ทั้งที่เป็นฝ่ายด่าเขาก่อน แต่พอพ่อสามีด่ากลับบ้าง ก็ทนไม่ได้ถึงกับไปเอาปืนมายิงจนเสียชีวิต ก็อยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด
ด้านนายสิทธิชัย อายุ 21 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่า ผู้ตายเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่ผู้ก่อเหตุเป็นคนเลือดร้อนชอบหาเรื่องเวลาเมาก็จะโวยวาย ที่ผ่านมา ทราบว่าเวลาทั้งคู่ทะเลาะกันผู้ก่อเหตุก็จะชอบเอาปืนออกมาขู่ ยิงขึ้นฟ้าบ้าง จนเคยถูกตำรวจจับกุมมาแล้ว ส่วนครั้งนี้ ตอนแรกที่ตนได้ยินเสียงปืนก็คิดว่าเขาคงจะยิงขึ้นฟ้าเหมือนที่ผ่านมา แต่พอแม่ขี่รถไปดู เพราะได้ยินเสียงกรีดร้อง กลับพบว่ามีการยิงกัน
จากนั้นทีมข่าวได้ไปสอบถามนางก้อย อายุ 58 ปี (ภรรยาผู้ก่อเหตุ) บอกว่า สามีเป็นคนอารมณ์ร้อน ดื่มเหล้าเป็นประจำ เวลาที่สามีดื่มเหล้าตนก็จะไม่ยุ่ง จะเข้าไปอยู่ในห้องเพราะรู้นิสัยสามีถึงจะห้ามหรือพูดอะไรเขาก็ไม่ฟัง เช่นวันนี้ตนก็เห็นแล้วว่าสามีเมาก็เข้าไปอยู่ในห้อง ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกัน ก็คิดว่าคงเมาแล้วทะเลาะกันก็ไม่ออกมาดู กระทั่งได้ยินเสียงปืนแล้วสามีถือปืนเดินมาบอกตนที่บ้านว่า “กูยิงมันตายแล้ว” ตนก็ตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกฎหมาย