4 ธันวาคม 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) แถลงการจับกุม 1. นายอดิเรก อายุ 29 ปี 2. น.ส.จรรยา หรือ กุ้ง อายุ 37 ปี 3. น.ส.รจนา หรือ รจ อายุ 41 ปี 4. นายโอฬาร อายุ 43 ปี 5. นายธนกฤต อายุ 64 ปี 6.นายไฮไซ หรือ คิม อายุ 41 7.นางสุกัญญา หรือ เจ๊หมวย อายุ 64 ปี 8. น.ส.สุภาภรณ์ หรือ ออม อายุ 48 ปี
ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง, ฉ้อโกงโดยได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”
โดยสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้จำนวนมาก ทั้งเงินสด บ้านและที่ดิน รวมถึงรถหรู รวมถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดถูกจับกุมได้จากบ้านพักในพื้นที่ จ.ปทุมธานี, จ.สมุทรสาคร และ กรุงเทพมหานคร จำนวน 5 แห่ง
สำหรับพฤติการณ์ ด้วยกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้รับหนังสือร้องทุกข์ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามหนังสือ กรมการจัดหางาน ที่ รง. 0302.2/213261 ลง 16 ก.ย. 67 เรื่อง ขอความร่วมมือดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืน พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฯ ตามที่กรมการจัดหางานได้รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหาย
จากการสืบสวนมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า กลุ่มผู้ต้องหากระทำการเป็นขบวนการหลอกลวง เริ่มหลอกลวงประชาชนทั่วไป ตั้งแต่ประมาณปลายเดือน ธ.ค. 66 - ก.ค. 67 ( ประมาณ 10 เดือน ) โดยได้ร่วมกันสมคบคิดไตร่ตรองและตระเตรียมการไว้ก่อนหน้าการกระทำดังกล่าว โดยวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำตลอดเรื่อยมา
ผู้ต้องหากลุ่มแรกจะทำหน้าที่จดทะเบียนบริษัท บังหน้าว่าเป็นบริษัทจัดหางาน เพื่อส่งแรงงานไปทำงานที่ต่างประเทศ จากนั้นผู้ต้องหาอีกกลุ่มจะทำการหว่านล้อม และหลอกลวงประชาชนทั่วไปว่า สามารถยื่นขอวีซ่าและจัดหางานที่ประเทศนิวซีแลนด์ให้ได้ เนื่องจากได้รับสิทธิ (โควตา) จากนายจ้างที่ประเทศนิวซีแลนด์ ให้หาคนไปทำงานประเภทงานเกษตร งานช่างตกแต่ง โรงงานขนมปัง ซึ่งนายจ้างและงานทั้งหมดไม่มีอยู่จริง
โดยจะมีการตระเตรียมนัดประชุมวางแผนหลอกลวงผู้เสียหาย ที่บ้านพักของผู้ต้องหาในพื้นที่กรุงเทพฯ และอาคารพาณิชย์ฯ ในพื้นที่ สุขุมวิทซอย 13 โดยผู้ต้องหาจะนัดหมายให้ผู้เสียหายมาทำเอกสารตามวันและเวลาต่างๆ ที่ผู้ต้องหานัดหมาย ซึ่งจะมีการสร้างความน่าเชื่อถือโดยการหลอกลวงว่า เคยมีผู้สมัครแล้วได้ไปทำงานได้จริง
นอกจากนี้จากการตรวจสอบเอกสาร ยังพบเอกสารที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น มีการหลอกลวงผู้เสียหายว่า ได้รับวีซ่าประเภทถาวร และมีการเรียกเก็บเงินค่าบริการเกินราคามาตรฐานบริษัทจัดหางานทั่วไป โดยไม่ได้มีเจตนาจัดหางานให้ผู้เสียหายทั้ง 13 คน ไปทำงานที่ประเทศนิวซีแลนด์ได้จริง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการหลอกลวงผู้เสียหายโดยใช้แผนประทุษกรรมรูปแบบเดิม สร้างความเสียหายต่อประชาชนผู้ที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก
ต่อมาวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผน และเดินทางไปเฝ้ารอสังเกตการณ์ เมื่อถึงเวลาประมาณ 06.00 น. ได้พบผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย บริเวณสถานที่จับกุม จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบในคดีนี้มีผู้เสียหายในคดี จำนวน 13 ราย รวมทรัพย์สินที่ถูกประทุษร้าย 3,197,680 บาท มียอดความเสียหายที่น่าเชื่อว่าได้จากการหลอกลวง จำนวนทั้งสิ้น 9,231,620 บาท คาดว่าจะมีผู้เสียหายประมาณ 35 ราย จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งไปยังประชาชน ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการถูกหลวงลวงว่ าสามารถจัดหางานเพื่อไปทำงานต่าง ๆ ประเทศในลักษณะเดียวกันสามารถมาร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหา หรือกรณีประชาชนท่านใดพบเบาะแสการกระทำความผิดในลักษณะคล้ายคลึงกันขอให้แจ้งมายัง บก.ปคม. ผ่านหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1191 ตลอด 24 ชั่วโมง