4 ธันวาคม 2567 ตำรวจ สน.บางคอแหลม และศูนย์วิทยุพระราม199 รับแจ้งจากฝ่ายปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำ ว่า เกิดอุบัติเหตุเรือชนเรือ บริเวณสะพานกรุงเทพฯ แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำจึงนำกำลังไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณสะพานกรุงเทพฯ พบเรือพ่วงบรรทุกทราย เสียหลักการควบคุม ทำให้ชนกับเรือที่จอดอยู่เสียหาย จำนวน 5 ลำ โดยเป็นเรือนำเที่ยวขนาดใหญ่ 200 ที่นั่ง
ตรวจสอบพบว่า เรือที่เสียหาย 1 ลำ ชื่อ เจ้าพระยาปริ้นเชส 7 ด้านข้างตัวเรือ และด้านท้ายเสียหาย และอีก 1 ลำ ส่วนเรือลำทีจม 1 ลำ 40 ที่นั่ง ชื่อ เจ้าพระยาปริ้นเชส นอกจากนี้ ยังมีเสียหายอีก 3 ลำ ชื่อเรือ รอเยลปริ้ส และ ไวลออคิต1และ2 รวมทั้งหมด 6 ลำ
ต่อมาเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยยานนาวา ถึงที่เกิดเหตุ เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เป็นเพศหญิงจำนวน 1 ราย อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.สั่งการ พ.ต.ท.จิรพัฒน์ เขียวศิริ รอง ผกก.1 รรท.สวญ.ส.ทท.3 (สถานีตำรวจท่องเที่ยวธนบุรี) ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ
สภาพเรือนำเที่ยวที่ถูกชนด้านท้ายเรือเป็นรอยฉีกขาดขนาดใหญ่ และอีกลำกระจกข้างเรือแตกยับพังเสียหายทั้งบาน และยังมีรายงานอีกว่า เรือเล็ก 1 ลำได้จมหายในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสอบถาม นายธงชัย ประดิษฐ์ศิลป อายุ 61 ปี คนขับเรือ ได้เล่าว่า ตน บรรทุกถ่าน มุ่งหน้าพระนครศรีอยุธยา เจอกระแสน้ำเชี่ยวแรงและเชือกจูงเรือฝั่งซ้ายเกิดขาด 1 เส้น (ปกติจะมี 2 เส้น) ทำให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ เสียหลักชนเรือที่ยอมรับจอดเรียงกันอยู่ริมแม่น้ำ ตนเองยอมรับว่าดื่มสุรา (ลุงบอกกินตอนจอดเรือ ตอนขับเรือไม่ได้กิน) แต่ตำรวจตรวจแอลกอฮอล์แล้ว ไม่เกินปริมาณที่กำหนด เบื้องต้นตำรวจได้นำตัวมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่สน.บางคอแหลม
ทางด้าน คนบนเรือ สินค้า นางพิมพิมล ฐานธงชัยสกุล อายุ 61 ปี เล่าว่า เล่าว่าจะหวะลากอยู่นั่น เชือกเรือขาดทำให้เสียหลักทำให้นำตะแคงเข้าเรือพัดไปทางเรือที่เสียหาย ตอนนั่นตนเองอยู่ในครัว ได้ยินเสียตะโกนว่าเชือเรือขาดกำลังชน โดยเรือลากมาจากเกาะสีชัง มุ่งหน้าอำเภอนครหลวง อยุธยา ตนเองมองว่าเป็นอุบัติเหตุ ความรู้สึกก็ตกใจ ใจสั่น นี่คือครั้งแรก ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ส่วนอีกคนที่อยู่บนเรือ คุณเจี๊ยบ คนที่อยู่บนเรือสินค้า บอกว่า เห็นเหตุการณ์ตอนเรือใกล้จะชนกับเรือที่จอดอยู่ริมแม่น้ำ แต่ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากน้ำเชี่ยว เชือกลากจูงก็ขาด ยืนยันไม่มีเหตุไฟไหม้และก๊าซรั่วไหล
ด้านคนเห็นเหตุการณ์ นายฐานพัฒน์ งามไพบูลย์ทรัพย์ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเวลาประมาณ 10.00 น. ได้ยินเสียงดังคล้ายเรือชนกันริมแม่น้ำ ตนจึงวิ่งออกมาดู เห็นเรือบรรทุกสินค้าชนกับเรือที่จอดอยู่ริมแม่น้ำประมาณ 5-6 ลำ มีบางลำ
ลอยกระเด็นไปชนกับสะพานกลางแม่น้ำ และมีเรือ 1 ลำ ที่จมลงไปในน้ำทั้งลำ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บเนื่องจากช่วงเวลาเช้ายังไม่มีพนักงานหรือคนมาใช้บริการเรือที่อยู่ริมแม่น้ำ ((ชาวบ้านบอก ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดตอนช่วงประมาณ 14.00-15.00 น. คงเป็นเรื่องใหญ่เพราะช่วงนั้นจะเริ่มมีพนักงานขึ้นไปดูแลบนเรือ)) และชาวบ้านคาดการณ์ว่า สาเหตุอาจมาจากช่วงเช้าน้ำค่อนข้างเชี่ยวแรง ทำให้เรือขนส่งสินค้าไม่สามารถบังคับทิศทางได้ จึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีวงจรปิดคลิปบันทึกภาพขณะ เรือลากจูงลำใหญ่ ที่กำลังล่องมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา เสียการควบคุม ชนเรือนำเที่ยวที่จอดเทียบท่าอยู่ ทำให้ท้ายเรือสบัดไปชนกับเรือนำเที่ยวหลายลำที่จอดอยู่ดังกล่าว
ส่งผลให้มีเรือ เจ้าพระยาปริ๊นเซส 1, 2, 3, 7 และเรือเดอะโอคูเลนต์ รวมถึงเรือสปีดโบ๊ทขนาด 45 ที่นั่งจมเสียหาย 1 นำเที่ยวเสียหาย 3 ลำ
มีคลิป