วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ( 25 พ.ย.2567) เวลา 21.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีการใช้อาวุธปืนรัวยิงใส่กันจำนวนหลายนัด มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดในชุมชนหลังฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุหน้าบ้านพักหลังหนึ่ง พบ ด.ญ. เอ (นามสมมุติ) อายุ 8 ปี นอนร้องด้วยความเจ็บปวดบนพื้นถนน ตรวจสอบพบมีแผลถูกยิงเข้าที่แขนทั้งสองข้าง ที่หน้าอก 2 นัด และที่หลังอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ ใกล้กันพบ ร่าง นางทองสี นิยมโภค อายุ 69 ปี นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นถนน มีแผลถูกยิงที่หลังขวา เอวขวา ไหล่ซ้าย และหน้าอกซ้าย เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปั้มหัวใจอยู่นาน แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ขณะที่บริเวณหลังบ้าน พบร่างนายพิศิษฐ์ (หรือหนุ่ย) เอี่ยมพลี อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น มีแผลถูกยิงเข้าที่ขมับ เจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือปั้มหัวใจ ก่อนจะเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ ที่บริเวณโต๊ะม้าหินอ่อน พบร่าง นายวาสนา ใจเที่ยง อายุ 45 ปี นอนคว่ำหน้าอยู่ มีแผลถูกยิงเข้าที่กลางหน้าอก สะบักขวาหลัง สีข้าง ต้นแขน ขาหนีบ ต้นขาซ้าย และ ที่ใต้ราวตากผ้า พบร่าง นางสาวรัตตาภัค นิยมโภค อายุ 43 ปี ลักษณะคว่ำหน้าอยู่กับพื้น มีแผลถูกยิงเข้าที่รักแร้ซ้าย หน้าท้องบนซ้าย
ต่อมา เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืน กึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มม. และ แม็กกาซีน จำนวน 2 แม็ก พร้อมกระสุนปืน ขนาด 9 มม. และในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกกระจายเต็มพื้น รวมจำนวน 18 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ สามารถจับภาพได้ในขณะที่ นายหนุ่ย (ผู้ก่อเหตุ) ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้ากล้องและเลี้ยวขวาเข้าซอยไม่ไกล จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังรัวขึ้นหลายนัด ก่อนจะหยุดยิง แล้วมีเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงปืนยังคงดังขึ้นติดต่อกันอีกหลายนัด โดยมีบุตรสาวและบุตรชายของผู้ก่อเหตุวิ่งผ่านหน้ากล้องเข้าไปห้ามปราบผู้ก่อเหตุ แต่ก็ไม่เป็นผล
ขณะที่ กล้องวงจรปิดอีกมุมจับภาพหลังเสียงปืนสงบ พบว่าช่วงปากซอยมีชาวบ้านเข้ามาห้ามปราบบุตรสาวของผู้ก่อเหตุไม่ให้เข้าใกล้ในขณะนั้น หลังจากนั้นกล้องมุมเดิมจะเห็นว่าผู้ก่อเหตุออกมายิงตัวเองล้มลงที่พื้นถนนของหมู่บ้าน โดยมีบุตรสาวและบุตรชายเข้าไปดูอาการอย่างใกล้ชิด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึง และเข้าเคลียร์พื้นที่
จากการสอบถาม ด.ญ. เอ (นามสมมุติ) ผู้บาดเจ็บ บอกว่า "ตาหนุ่ยทะเลาะกับแม่ แล้วแม่ก็เข้าบ้านไป แล้วก็ออกมาอีกครั้ง หนูก็เข้าไปเล่นโทรศัพท์ในบ้าน หนูก็ยินเสียงปืน หนูกับยายก็เลยออกมาดู ทั้งหนูและยายก็โดน ตาหนุ่ยยิง เขามายิงพ่อกับแม่หนูก่อน แล้วเขาก็มายิงหนูกับยาย แล้วเขาก็ยิงตัวเอง ตอนนั้นมีลูกของ ตาหนุ่ย ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลย"
นายธนินวัฒน์ เอี่ยมพลี อายุ 43 ปี ลูกชายของ นายพิศิษฐ์ (ผู้ก่อเหตุ) เปิดเผยว่า ปมเหตุที่แท้จริงนั้นตนเองไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร แต่พ่อกับครอบครัวที่ถูกยิงนั้นเป็นเพื่อนบ้านสนิทกัน และมักมานั่งดื่มเหล้าด้วยกันเป็นประจำ แต่มาช่วงหลัง 3-4 วันที่ผ่านมา ทราบว่าพ่อของตนเองมีเรื่องผิดใจ และทะเลาะวิวาทกับภรรยาของผู้ตาย แต่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร จนกระทั่งพ่อมาก่อเหตุดังกล่าว
นายอนุทัช คนคล่อง อายุ 42 ปี หนึ่งในเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์และพยายามเข้าไปช่วยเหลือ เล่าว่า ตนเองเห็นชายผู้ก่อเหตุเดินถือปืนมายิงใส่ผู้ชายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้านก่อนจากนั้นหันไปยิงใส่คุณยายและเด็กที่นั่งอยู่ใกล้ที่หน้าบ้าน แล้วเปิดประตูไปรัวยิงคนในบ้านอีกหลายนัด จากนั้นจึงออกมายิงตัวเองที่หน้าบ้านจนล้มลง ไม่นานพบว่าเด็กหญิง วัย 8 ขวบ ที่ถูกยิงนั้นพยามคลานหนีตายออกมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งตอนนั้นตนเองพยามเข้าไปช่วย แต่ถูกหลายคนห้ามไว้เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
นางสาวธัญชนก ตะโหนดทอง อายุ 51 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า บ้านหลังนี้เป็นของผู้ก่อเหตุ ครอบครัวผู้เสียชีวิตมาเช่าอยู่ ปกติตนจะเห็นคนก่อเหตุและผู้ตาย(ผู้หญิง) นั่งกินเหล้ากันที่บ้าน 2 คนทุกวันตอนกลางคืน ส่วนตอนเช้าตนจะเจอผู้ตาย(ผู้หญิง) ขายของเป็นประจำ แต่ไม่เคยเห็นคนอื่น ตนคิดว่าเป็นเพื่อนกันส่วนเรื่องอื่นตนไม่รู้ ปกติเวลาเขาเห็นตนตอนกลับบ้านมืดก็จะทักทาย ส่วนเรื่องอื่นตนไม่รู้ ตนจะรู้จักกับแฟนเก่าของผู้ก่อเหตุมากกว่า ปกตินายหนุ่ย(ผู้ก่อเหตุ) เป็นคนนิสัยดี แต่จะอารมณ์ร้อนนิดหน่อย แต่กับตนเขาทักทายยิ้มแย้มตลอด ตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าเขาเป็นขนาดนี้ ปกติก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุอยู่บ้านนั่งกินเหล้าคนเดียว แต่หลังจากที่บ้านนี้มาอยู่ก็จะเห็นเขามานั่งกินเหล้าด้วยกัน เขาไม่ใช่ญาติกัน เป็นแค่คนมาเช่าบ้านอยู่ ตนไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องชู้สาว เพราะผู้ก่อเหตุกินเหล้าได้กับทุกคน เขาเข้าได้กับทุกคน ตนจะเคยเห็นแค่เขาดุคนที่มากู้เงินเขาแล้วไม่คืน แต่ตอนอื่นไม่เคยเห็น
ด้านนายไพบูลย์ พินเที่ยง อายุ 59 ปี กำนัน ต.ท้ายบ้าน เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุมีอาชีพให้เช่าบ้านและปล่อยเงินกู้ ก่อนหน้าที่จะมาก่อเหตุนั้น ผู้ก่อเหตุไปดื่มสุราอยู่ที่บ้านของตนเอง กระทั่งขอตัวกลับมาได้ไม่นานพบว่ามาก่อเหตุยิงดังกล่าว ส่วนปมเหตุตนเองไม่ทราบเช่นกันว่ามาจากอะไร
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ สกุลณวงศ์ ผู้ใหญ่บ้าน และ นางเฉี่ยว สกุลณวงศ์ อายุ 60 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า เท่าที่ตนรู้สองบ้านนี้ไม่เคยทะเลาะกันแต่จะนั่งดื่มกันตรงนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ตนก็ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ปมเหตุตอนนี้ตนยังไม่แน่ใจยังบอกไม่ได้ ตอนนี้เด็กปลอดภัยแล้ว และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย ส่วนอาวุธปืนเป็นของผู้ก่อเหตุ ตนไม่เคยได้รับแจ้งว่าสองบ้านนี้มีเรื่องหรือปัญหาทะเลาะกัน เพราะจะมานั่งกินดื่มกันที่บ้านตรงนี้ประจำ ผู้ก่อเหตุน่าจะมีอาการมึนเมา เท่าที่ทราบปืนของผู้ก่อเหตุมีทะเบียนถูกต้อง เพราะเขาเคยบอกว่าตัวเขาพกปืนประจำ แต่เขาไม่เคยพูดว่าจะเอาปืนไปทำร้ายใคร แล้ววันนี้เท่าที่คุยเขาก็อารมณ์ดี ก่อนที่เค้าจะขอตัวไปทำธุระ เท่าที่รู้จักเขาเป็นคนนิสัยดีชอบช่วยเหลือคน เขาเป็นคนชอบดื่มแต่ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ปกติที่บ้านผู้เสียชีวิต จะเป็นคนเงียบๆ และไม่เคยมีเรื่องกับใคร ส่วนเรื่องลึงๆว่าเขาเป็นหนี้ หรืออะไรตนไม่ทราบ บ้านที่เกิดเหตุเป็นของผู้ก่อเหตุ ผู้ตายมาเช่าอยู่
ส่วนเรื่องจะมีการค้างค่าเช่าหรือไม่ตนไม่ทราบ โดยพื้นเพผู้ก่อเหตุเป็นคนที่นี่ ส่วนผู้ตายเป็นคนต่างจังหวัด มาเช่าอยู่ที่นี่ 4 ปี ปกติบ้านผู้ตายจะอยู่กันสามคน แฟนเขา (ผู้ชาย) อยู่ต่างจังหวัดนานๆจะมาที ที่ตนเห็นเขานั่งกินกันจะมีผู้หญิงมียายและเด็ก ตนไม่เคยได้รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุเคยมาทำร้ายบ้านผู้เสียชีวิต โดยปกติผู้ก่อเหตุไม่เคยมีปัญหากับใคร ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากบ้านของผู้เสียชีวิต
ขณะที่ พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้น ให้น้ำหนักปมก่อเหตุไปที่ เรื่องเงินกู้ ที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิง คือ นางสาวรัตนาภัค นั้น ไปเอาเงินจาก นายหนุ่ย (ผู้ก่อเหตุ) มาปล่อยเงินกู้ราว 80,000 บาท แล้วเกิดมีปากเสียงกันเรื่องเงินกู้ที่นำไปปล่อยกู้เมื่อช่วงสองวันก่อน จนทำให้ นายหนุ่ย ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว โดยรัวยิงทั้งหมด 18 นัด สองแม็กกาซีน
ซึ่งผลจากการชันสูตรเบื้องต้นพบว่า ในส่วนของนางทองศรี ถูกกระสุนยิงเข้าที่หลังขวา เอวขวา และหน้าอกรวม 4 นัด นายวาสนา ถูกยิงเข้าที่ กลางอก 2 นัด เอว และหลัง รวม 4 นัด ในขณะที่ นางรัตนาภัค ถกยิงเข้าที่หน้าทอง รักแร้ รวม 4 นัด ส่วนเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ถูกยิงที่ลำตัว และแขนกระสุน แต่ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
ส่วนปมเหตุเรื่องชู้สาวก็ยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้ง ซึ่งยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง จะต้องรอสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนเด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ เบื้องต้น อาการอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด