การประชุมกนง. วันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25% ตามคาด โดยมองว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกับศักยภาพ เงินเฟ้อที่โน้มเข้าสู่กรอบเป้าหมาย และการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมทั้งรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าที่ปรับสูงขึ้น
แถลงการณ์ของกนง. ในการประชุมครั้งนี้ สะท้อนถึงมุมมองต่อความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าที่มีมากขึ้น โดยแม้กนง. จะยังคงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระดับเดิมที่ 2.7% และ 2.9% ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ แต่มองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเผชิญความท้าทาย และความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าที่สูงขึ้น ซึ่งกนง. คงจะติดตามพัฒนาการของแนวโน้มเศรษฐกิจการเงิน รวมถึงผลของมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” ของภาครัฐที่อาจช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้กับกลุ่มเปราะบางได้บ้างและพิจารณานโยบายการเงินให้เหมาะสมต่อไป
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ในปี 2568 มีความเป็นไปได้ที่กนง. อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอีกราว 2 ครั้ง ท่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ขณะที่ ทิศทางเงินเฟ้อในปี 2568 ยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของกนง. ที่ 1-3% อย่างไรก็ดี จังหวะในการปรับลดดอกเบี้ยยังขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และภาวะการเงินในประเทศเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ หลังจากผลการประชุมกนง. ออกมา ค่าเงินบาทและตลาดหุ้นไทยตอบรับผันผวน โดยค่าเงินบาทแกว่งอยู่ในกรอบ 34.25-34.27 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ ตลาดหุ้น SET Index แกว่งอยู่ในกรอบ 1,394-1,398 จุด (ณ เวลา 15:00 วันที่ 18 ธ.ค. 2567 ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งตลาดคงรอติดตามผลการประชุม FOMC ที่จะออกในคืนวันที่ 18 ธ.ค. ตามเวลาประเทศไทย