svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ปานเทพ" ชม "ทนายสายหยุด" หลังถอนตัวว่าความให้ "ทนายตั้ม"

"ปานเทพ" ชม "ทนายสายหยุด" หลังถอนตัวว่าความให้ "ทนายตั้ม" ฝากถึง "ทนายคนใหม่ของตั้ม" ให้ตรวจสอบเอกสาร อย่าให้เป็นเอกสารเท็จ มิเช่นนั้นควรจะรับผิดชอบ

25 พฤศจิกายน 2567 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์หลังจาก ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู ได้แถลงข่าวยุติการทำหน้าที่ทนายให้ "ทนายตั้ม" นายษิทรา เบี้ยบังเกิด 

 

\"ปานเทพ\" ชม \"ทนายสายหยุด\" หลังถอนตัวว่าความให้ \"ทนายตั้ม\"

 

โดย อาจารย์ปานเทพ ระบุว่า วันนี้ได้รับชมทนายสายหยุดและทนายอาคมในรายการโหนกระแส ซึ่งได้รับความชัดเจนแล้วว่า ทนายสายหยุด ตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นทนายให้กับนายษิทรา ซึ่งมีการกล่าวถึงสิ่งที่ตัวเองนำเสนอไปว่าเป็นการดักคอ ในเรื่องของการยื่นเอกสาร ที่ทนายสายหยุดเตรียมเอกสารยื่นให้ตำรวจ

 

\"ปานเทพ\" ชม \"ทนายสายหยุด\" หลังถอนตัวว่าความให้ \"ทนายตั้ม\"

 

ซึ่ง "ทนายสาย" หยุดอ้างว่ายังไม่ได้ยื่น เนื่องจากเอกสารมีความแตกต่างจากเอกสารที่ตัสเองนำเสนอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งขอยืนยันว่าเอกสารที่ถืออยู่ในมือ มีเนื้อหาสาระตรงกัน ระหว่างผู้รับจ้างและผู้ว่าจ้าง 

 

\"ปานเทพ\" ชม \"ทนายสายหยุด\" หลังถอนตัวว่าความให้ \"ทนายตั้ม\"

ทนายสายหยุด

 

 

\"ปานเทพ\" ชม \"ทนายสายหยุด\" หลังถอนตัวว่าความให้ \"ทนายตั้ม\"

 

ส่วนที่ "ทนายอาคม" คิดว่าเอกสารทั้งหมดเหมือนกันหรือไม่นั้น ยืนยันว่าเอกสารผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างเหมือนกัน และมีหลักฐานการส่งไฟล์ PDF หรือไฟล์ที่ส่งไปให้คู่สัญญาจากนายษิทราเป็นเอกสารชุดเดียวกัน ดังนั้นเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ 

 

\"ปานเทพ\" ชม \"ทนายสายหยุด\" หลังถอนตัวว่าความให้ \"ทนายตั้ม\"

ทนายอาคม

 

\"ปานเทพ\" ชม \"ทนายสายหยุด\" หลังถอนตัวว่าความให้ \"ทนายตั้ม\"

 

สำหรับการเปิดเผยเอกสารดังกล่าวนั้น เป็นกลยุทธ์ที่ตัวเองวางเอาไว้ แต่ที่ยังไม่มีการไม่เปิดเผยสัญญานี้ เพราะจะรอดูว่ามีการยื่นหรือไม่ โดยนับจากวันที่นายษิทราถูกจับประมาณ 15 วัน ก่อนจะสันนิษฐานว่าอาจจะมีการยื่นแล้ว เนื่องจากทนายสายหยุด

 

มีการคุยเอาไว้ว่าได้เตรียมเอกสารเป็นแฟ้มในกระเป๋าเดินทาง มีการเตรียมไว้แล้ว อ้างว่าไปอยู่ในสถานีตำรวจหลายชั่วโมง เตรียมความพร้อมเอกสารจำนวนมาก 

จนในภายหลัง "ทนายสายหยุด" ได้ออกมาเปิดเผยว่ายังไม่ได้ได้มีการยื่นตามที่ปรากฏ โดยระหว่างรอดูความเคลื่อนไหวของทนายสายหยุดก็พบถ้อยคำอาจมีสัญญาเกิดขึ้นระหว่างทนายตั้ม กับบริษัทอีโนไฟท์ จากที่ทนายสายหยุดออกมาเปิดเผยผ่านสื่อ แต่เรื่องดังกล่าวส่วนตัวไม่ทราบว่ามีจริงหรือไม่

 

เอกสารที่อ้างทนายสายหยุดอ้างว่าเตรียมจะยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น มันไม่เหมือนข้อความของเอกสารฉบับนี้ที่ตัวเองมีอยู่ และไม่มีลายเซ็นคู่สัญญา แสดงว่าต้องมีคนเตรียมให้ คำถามคือใครเตรียมให้ และด้วยเหตุผลอะไร

 

อย่างไรก็ตาม การแถลงของ "ทนายสายหยุด" และ "ทนายอาคม" เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีของผู้เสียหาย  เป็นหลักฐานทั้งหมดของพฤติการณ์ของทนายตั้มในช่วงเวลานี้ และรู้สึกยินดี เพราะส่วนตัวมองคนไม่ผิด คือ ทนายสายหยุด มีธรรมในใจ เพราะตั้งแต่แรก ที่ทนายสายหยุดทำคดี คือ การหาหนทางเพื่อหาหลักทรัพย์คืนพี่อ้อยเป็นหลัก 

จึงเป็นหนทางในการเจรจาให้ยอมรับผิด ซึ่งต่างจากทนายตั้มอย่างชัดเจน  และทนายสายหยุด ก็ไม่ได้ทิ้งเพื่อน และทนายสายหยุด ก็ไม่ได้เอาเอกสารที่ล่อแหลมที่เป็นเอกสารเท็จ เข้าสู่สำนวน เพราะถ้ามีการกระทำความผิดไปแล้ว อาจจะคลี่คลายแก้ไขไม่ได้  

ซึ่งหากยังฝืนนำเข้าสำนวนต่อ ผู้เสียหายจะฟ้องทนายทุกคน หากมีการนำเอกสารที่ปลอมแปลงเข้าสำนวน แล้วหวังว่าทนายใครก็ตามที่รับงานหลังจากนี้ต้องดูเอกสารให้ดี 

แม้การแถลงการวันนี้จะดูเหมือนว่าทนายอาคม และทนายสายหยุดมาเปิดโปงทนายตั้มในทางสาธารณะ ซึ่งปกติไม่ทำกัน แต่ว่าเรื่องนี้

หลายคนต้องให้ความเห็นใจต่อทนายทั้ง  2 คนด้วย เพราะเขาต้องอธิบายเหตุจำเป็นที่จะต้องยุติ ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ ควรให้ความเป็นธรรมกับทนายทั้งสอง ส่วนที่บอกว่ามองคนไม่ผิด

 

 

ส่วนที่มีการยื่นข้อเสนอในการนำบ้านของนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือ นางเดือน ภรรยาของทนายตั้ม เพื่อประกันตัวภรรยาทนายตั้มออกมา แต่ฝั่งทนายตั้ม ไม่ยินยอม โดยอ้างว่าจากบ้านมีมูลค่า 43 ล้านบาท เกรงว่าถ้าประกันตัวให้ภรรยาแล้ว ตัวเองจะไม่ได้รับการประกันตัว เพราะไม่รู้จะหาหลักทรัพย์อะไรมาประกันตัว  ซึ่งจะเห็นได่ว่าท้ายสุดแล้วทนายตั้มก็เห็นแก่ประโยชน์ตัวเองมากกว่า 


สำหรับประเด็นที่ทนายอาคมเป็นทนายความภรรยาทนายตั้มนั้น ส่วนตัวคิดว่าตั้มจะได้รับประโยชน์ พราะคดีความเชื่อมโยงกัน ส่วนที่ทนายอาคมแถลงว่าจะเป็นทนายให้แค่ชั้นสอบสวนเท่านั้นและได้ทำการยื่นขอประกันตัวไปแล้ว ส่วนตัวมองว่ายังไงภรรยาทนายตั้มก็จะไม่รอด

 

ส่วนใครจะเป็น "ทนายคนต่อไป "ก็เป็นเรื่องของทนายตั้ม ไม่ว่าจะเป็นทนายเดชาก็ดี รวมถึงทนายเกิดผล ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าไปเยี่ยม และมีการเตรียมใบแต่งทนายมาด้วย ตัวเองเชื่อว่าวันนั้นน่าจะรู้อยู่แล้วว่าทนายสายหยุดจะยุติบทบาท ซึ่งในส่วนผู้เสียหายไม่ได้กังวล ทนายคนไหนก็ได้ เพราะสุดท้ายสู้กันที่พยานหลักฐานเท่านั้น 

ฝากถึง "ทนายคนต่อไป" ของทนายตั้มว่า สำหรับทนายคนใหม่ที่จะมารับว่าความให้กับทนายตั้ม ตัวเองจะตรวจสอบเอกสาร ที่มีการยื่นไปเป็นหลักฐานในคดี  หากพบว่ามีการนำเอกสารเท็จมาเป็นหลักฐานในคดีขอให้ผู้ยื่นเอกสารรับผิดชอบด้วย และส่วนตัวเชื่อว่าคนที่มีกรรม จะไม่เห็นหนทางสว่างในการแก้ไขปัญหาอย่างมีสติ และต้องนำไปสู่การรับผลแห่งกรรมนั้น

 

ขณะนี้ คนรอบข้างทนายตั้มเดือดร้อนไปหมด ทั้งภรรยา พี่ภรรยา คนขับรถ 2 คนและลูกๆ ที่ยังไม่มีพ่อแม่ดูแล ก็ล้วนแล้วแต่มาจากการตัดสินใจของทนายตั้มเพียงคนเดียว พร้อมแนะนำว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทนายแล้ว ทนายนายเก่งแค่ไหน ไม่สามารถปฏิเสธพยานหลักฐานได้

 

เหลือเพียงข้อเดียวคือคนในครอบครัว ถ้าอยากให้สถานการณ์มันดีขึ้นกว่านี้ คือการพูดความจริงกับทนายตั้ม ให้รีบรับสารภาพ และคืนทรัพย์สินให้เร็วที่สุด ส่วนการอภัยอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยาก แต่รูปคดีบทลงโทษจะลดลงทันที 

 


สำหรับเอกสารฉบับดังกล่าวเป็นเอกสารที่ทำขึ้นระหว่าง มี่ กับ เตอร์ ที่ทำแอปพลิเคชั่นหวยออนไลน์ รายละเอียดของสัญญาแผ่นที่สองมีการเว้นช่องว่างเอาไว้ ทั้งที่มันสามารถใส่ได้แน่นอนในเอกสารชิ้นนี้ แต่เขาเป็นฝ่ายขอให้ปรับเลื่อนลงมาแล้วให้เอกสารแยกแผ่น ระหว่างผู้รับจ้าง กับผู้ว่าจ้าง เพื่อแก้ไขข้างหน้าได้

โดยเอกสารที่ทนายสายหยุด ลงวันที่ 5 ก.พ.66 เอกสารที่ ตนมีคือ 3 ก.พ.66 แต่เซ็นถึงวันที่ 5 ก.พ.66 เขาก็ได้ทำเอกสารชิ้นใหม่ เพื่อให้สอดรับกับเวลา โดยลืมไปว่าเอกสารทั้งคู่ได้ส่งไฟล์ PDF ที่เซ็นแล้ว ส่งให้คู่สัญญา 

ส่วนตัวเชื่อว่า สิ่งที่ทนายตั้มพยามจะดัดแปลงข้อความในสัญญา อยู่ที่ ข้อที่หนึ่ง โดยการตัดเรื่องของเงิน 2 ล้านยูโรทิ้งหรือไม่