svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ย้อนไทม์ไลน์คดี “แอม ไซยาไนด์” หลังศาลพิพากษา “ประหารชีวิต”

ความยุติธรรมมีจริง!! คดีสะเทือนขวัญแห่งปี คงหนีไม่พ้นวงแชร์มรณะ "แอม ไซยาไนด์" วางยาเหยื่อ 15 ราย สุดท้ายศาลพิพากษาสั่งประหารชีวิต "แอม ไซยาไนด์" พร้อมสั่งจำคุก "อดีตสามีนายตำรวจ" 1 ปี 4 เดือน และ "ทนายพัช" จำคุก 2 ปี ฐาน ช่วยเหลือ "แอม ไซยาไนด์" และช่วยซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน

20 พฤศจิกายน 2567 "เนชั่นทีวี" จะมาสรุปให้ คดีประวัติศาสตร์นี้ มีจุดเริ่มต้นอย่างไร ใครเป็นคนกระชากหน้ากาก หยุด "ฆาตกรต่อเนื่อง" พร้อมอัปเดตความคืบหน้าคดี ผู้ก่อเหตุจะได้รับโทษสูงสุดประหารชีวิตหรือไม่?

 

 

จุดเริ่มต้นคดีวางยาฆาตกรรมต่อเนื่อง

 

19 เมษายน 2566 นายรพี ชำนาญเรือ แกนนำประชาชนเพื่อประชาชน พานางทองพิน เกียรติชนะสิริ อายุ 63 ปี เข้าร้องเรียนที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หลังพบพิรุธการเสียชีวิตของลูกสาว "น.ส.ศิริพร ขันวงษ์" หรือก้อย อายุ 32 ปี เท้าแชร์ ชาว จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นลมวูบขณะเดินทางไปทำบุญปล่อยปลาริมท่าน้ำแม่กลอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี กับ "นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์" หรือแอม เมื่อ 14 เมษายน 2566 ทรัพย์สินมีค่าต่างๆ รวมถึงเงินสดกว่า 4 หมื่นบาท ได้สูญหายไป

 

 

ย้อนไทม์ไลน์คดี “แอม ไซยาไนด์” หลังศาลพิพากษา “ประหารชีวิต”

 

สาเหตุที่มาร้องกองปราบฯ เนื่องจาก นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ เป็นภรรยาของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีต รองผกก. (สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง หรือ "รองอ๊อฟ" ซึ่งเป็นเขตพื้นที่เดียวกับที่เกิดเหตุ จึงเกรงว่าคดีการเสียชีวิตของเท้าแชร์ก้อยจะถูกแทรกแซง

จับกุมผู้ต้องหา ยึดของกลาง "ขวดไซยาไนด์"

 

25 เมษายน 2566 ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุม นางสรารัตน์ ได้บริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ยึดของกลางไซยาไนด์ ไปตรวจสอบ ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนตำรวจเชื่อว่า นางสรารัตน์ ผสมไซยาไนด์ใส่อาหารให้ผู้ตายรับประทาน เพื่อหวังลักทรัพย์สินและของมีค่าต่างๆ

 

ขณะเดียวกันผลตัวอย่างเลือดเท้าแชร์ก้อย ที่ รพ.ราชบุรี ส่งมาให้แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ พบว่าในเลือดมีสารกลุ่มไซยาไนด์ ซึ่งสารดังกล่าวไม่ได้เป็นสารที่ใช้ทางการแพทย์ และไม่ควรจะพบในคน เนื่องจากเป็นสารอันตรายต่อชีวิตได้

ตำรวจขยายผลพบเหยื่อ 15 ราย เสียชีวิต 14 ราย รอด 1 ราย

 

ระหว่างการสืบสวนคลี่คลายคดีของเท้าแชร์ก้อย ตำรวจพบว่านางสรารัตน์ ยังมีความเชื่อมโยงกับเหยื่อ 15 ราย เสียชีวิต 14 ราย และรอดชีวิต 1 ราย ดังนี้

 

1.น.ส.มณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือ ทราย เสียชีวิตด้วยสาเหตุหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 7 กรฎาคม 2558 ที่กรุงเทพมหานคร

 

2.น.ส.นิตยา แก้วบุปผา หรือ นิด เสียชีวิตด้วยอาการระบบไหลเวียนโลหิตและหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2563 ที่บ้านพัก อ.ดอนตูม จ.นครปฐม

 

3.น.ส.สาวิตรี บุตรศรีรักษ์ หรือ หนิม (ภรรยานายดาบตำรวจ ตม.บึงกาฬ) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 เหตุเกิดที่ จ.มุกดาหาร

 

4.น.ส.ดาริณี เทพหวี หรือ ฟ้า เสียชีวิตด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2563 ที่บ้านพัก อ.สามพราน จ.นครปฐม

 

5.นายสุรัตน์ ทรพับ เสียชีวิตด้วยสาเหตุหลอดเลือดหัวใจตีบ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ที่ บ้านพัก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

 

6.ร.ต.อ.หญิงกานดา โตไร่ (ผู้กองนุ้ย) เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 เสียชีวิตด้วยสาเหตุระบบไหลเวียนโลหิตและหายใจล้มเหลว บริเวณหน้าห้างโกลบอล จ.นครปฐม

 

7.น.ส.รจรินทร์ นิลห้อย (พี่น้อยขายผัก) เสียชีวิตด้วยสาเหตุเลือดเป็นกรด เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่ตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร

 

8.นางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิณ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 เหตุเกิด บ้านพักในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

 

9.นางมณีรัตน์ พจนารถ หรือ ครูต่าย เสียชีวิตด้วยสาเหตุไม่แน่ชัด เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2565 ที่ตลาดบน-ตลาดล่าง พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม

 

10.น.ส.กะณิกา ตุลาเดชารักษ์ (เอ๊ะ) เสียชีวิตด้วยสาเหตุเลือดออกในสมอง เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 เหตุเกิดที่ปั๊ม ปตท. วงเวียน โพธาราม จ.ราชบุรี

 

11.นางกานติมา แพสอาด (ปลา ภรรยาตำรวจ) รอดชีวิต เหตุเกิดเดือนกันยายน 2565 ที่ ห้างแห่งหนึ่ง จ.กาญจนบุรี

 

12.น.ส.ผุสดี สามบุญมี หรือ ครูอ๊อด ข้าราชการครู เสียชีวิตเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2565 เหตุเกิด ภายในบ้าน ต.ลำบัว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ผลตรวจตู้เย็น พบสารไซยาไนด์ ปนเปื้นในขวดน้ำ

 

13.นายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้ (สามีนอกสมรส) เสียชีวิตด้วยสาเหตุหัวใจเต้นผิดจังหวะ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 ที่บ้านพัก อ.เมือง จ.อุดรธานี

 

14.พ.ต.ต.หญิง นิภา แสนจันทร์ (สารวัตรปู) เสียชีวิตด้วยสาเหตุระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 ที่บ้านพัก อ.เมือง จ.นครปฐม

 

15.น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ (ก้อย ท้าวแชร์) อายุ 33 ปี เสียชีวิตด้วยสาเหตุหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 บริเวณท่าน้ำบ้านโป่ง ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

 

 

เปิดมูลเหตุจูงใจ ฆ่าล้างหนี้-วงแชร์มรณะ

 

ผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีความเกี่ยวพันกับนางสรารัตน์ ในฐานะเจ้าหนี้เงินกู้ นายหน้าขายรถมือสอง และลูกวงแชร์ โดยผู้ต้องหาเลือกก่อเหตุช่วงวันหยุด ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ก่อนจะกลับไปหาคนใกล้ชิดเพื่อสร้างพยานหลักฐาน

 

ย้อนไทม์ไลน์คดี “แอม ไซยาไนด์” หลังศาลพิพากษา “ประหารชีวิต”

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. (ณ ขณะนั้น) กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่ผู้ต้องหาวางแผนฆาตกรรมต่อเนื่อง ยาวนานกว่า 8 ปี โดยวางยาพิษให้เหยื่อกินจนเสียชีวิต ในลักษณะเหมือนการเจ็บป่วย ด้วยภาวะการทำงานของหัวใจล้มเหลว เพื่อให้ญาติไม่มีข้อสงสัย ก่อนหวังเอาทรัพย์สินจากเหยื่อ หรือล้างหนี้ที่เคยยืมกันมา

 

แนวทางการสืบสวนยังพบว่าผู้ต้องหาติดพนันออนไลน์ มีหนี้ในระบบและนอกระบบจำนวนมาก จึงต้องหาเงินมาชดใช้คืนด้วยวิธีการดังกล่าว โดยพบพฤติกรรมก่อเหตุมี 3 ประการ คือ

1.ขับรถไปรับผู้ตายออกมารับประทานอาหารจากที่บ้าน ก่อนลอบวางไซยาไนด์ และนำไปส่งบ้าน กระทั่งผู้ตายเสียชีวิต

2.รับผู้ตายจากบ้าน และลอบวางไซยาไนด์จนเสียชีวิต

และ 3.ส่งแคปซูลยา อ้างเป็นยาลดความอ้วนไปให้ผู้ตายถึงที่บ้าน

 


สรุปสำนวนดำเนินคดี 75 ข้อหา โทษสูงสุดประหารชีวิต

 

สำนวนคดีนี้มีความหนา 26,500 แผ่น สอบปากคำพยานไปกว่า 900 ปาก ใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานมากกว่า 3 เดือน ถือเป็นคดีที่ระดมชุดสืบสวนสอบสวนมากที่สุดในประเทศไทย จนสามารถสรุปสำนวนดำเนินคดี นางสรารัตน์ รวม 15 คดี ประกอบด้วย

 

ฐานพยายามฆ่าผู้อื่น, ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ, ชิงทรัพย์โดยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภค บริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้, การปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอม และใช้เอกสารปลอมฯ รวมกว่า 75 ข้อหา

 

19 กรกฎาคม 2566  พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5  เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ "แอม ไซยาไนด์" อายุ 35 ปี ฐานวางยาฆ่าชิงทรัพย์เท้าแชร์ก้อย

ส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีแอม และ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ถูกสั่งฟ้องข้อหา ฐานช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง และร่วมกันซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

 

ต่อมา พ.ต.ท.วิฑูรย์ และ น.ส.ธันย์นิชา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ทั้งสองมีประกันตัวไป โดยตีราคาประกันคนละ 100,000 บาท ขณะที่ นางสรารัตน์ ไม่ยื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด

 

คดีวางยาฆ่าเท้าแชร์ก้อย ศาลนัดตรวจหลักฐานเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 และนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ ตั้งแต่ 4 กรกฎาคม 2567 ถึง 12 กันยายน 2567 นัดสืบพยานฝ่ายจำเลย 13 กันยายน 2567 ถึง 19 กันยายน 2567 หลังเสร็จสิ้นกระบวนการ ศาลจะกำหนดวันนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง

 

นอกจากคดีนี้ยังมีอีก 14 สำนวน ที่พนักงานสอบสวนจะต้องนำมาส่งพนักงานอัยการ เพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง

 

ล่าสุดวันที่ 20 พ.ย.นี้ ศาลอาญา มีคำพิพากษา "ประหารชีวิต" "แอม ไซยาไนด์" หลังวางยาฆ่าเพื่อน

ส่วน "อดีตสามีนายตำรวจ" ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน

และ "ทนายพัช" โดนจำคุก 2 ปี ฐาน ช่วยเหลือ "แอม ไซยาไนด์" และช่วยซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน