svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ฉุนนายจ้าง เบิกค่าแรงไม่ได้ เตะก้านคอ ก่อนชิงรถหลบหนี

ช่างรับเหมารีโนเวทบ้าน วัย 64 ปี ถูกลูกจ้างเตะก้านคอได้รับบาดเจ็บ ก่อนชิงรถ จยย.หลบหนี เหตุไม่พอใจขอเบิกค่าแรงไม่ได้ เผยมาทำงานได้แค่ 10 วัน

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 นาย บุญส่ง บุญแต้ม อายุ 64 ปี ผู้รับเหมารีโนเวทบ้าน ได้เดินทางไปที่ สน.ราษฎร์บูรณะเพื่อเเจ้งความร้องทุกข์ กับร้อยตำรวจเอก จีระศักดิ์ หอมนาน รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ จากกรณีถูกลูกจ้างทำร้ายร่างกายแล้วยังชักมีดมาข่มขู่ ก่อนชิงรถจักรยานยนต์หลบหนีไป 

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณ ฃปากซอย ประชาอุทิศ 11 เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (4พ.ย.2567) เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ได้จัดกำลัง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบ สน.ราษฎร์บูรณะ เร่งรัดตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วนทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่บริเวณหน้าปากซอยประชาอุทิศ 11 ถนน ประชาอุทิศแขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ภายในจุดเกิดเหตุพบกับญาติของผู้เสียหาย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่

ฉุนนายจ้าง เบิกค่าแรงไม่ได้ เตะก้านคอ ก่อนชิงรถหลบหนี

จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบแล้วพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นซอยแคบ และเป็นเส้นทางที่จะทะลุออกได้หลายซอย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย โดยการเดินตรวจสอบหากล้องวงจรปิดภายในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง แต่ว่าภายในซอยดังกล่าวเป็นซอยที่มีทางสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก 

แต่อย่างไรเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ลดละความพยายามและเร่งติดตามค้นหาตัวผู้ก่อเหตุอย่างเต็มที่ 

ต่อมาทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นาย จุ่น อายุประมาณ 30 ปี เป็นลูกจ้างของผู้เสียหาย เนื่องจากทางผู้เสียหายไม่ได้เก็บเอกสารหลักฐาน ของนาย จุ่น เอาไว้เลย จึงไม่มีรูปภาพใบหน้าของนาย จุ่น ผู้ลงมือก่อเหตุ เลยทำให้ยากต่อการติดตามจับกุมตัวเป็นอย่างมาก และยังทราบต่อมาอีกว่า นาย จุ่น เพิ่งจะมาทำงาน กับนาย บุญส่ง ได้ประมาณแค่ 10 วันเท่านั้นเอง ก่อนลงมือก่อเหตุการณ์

ขณะที่ นาย บุญส่ง บุญแต้ม อายุ 64 ปี ช่างรับเหมารีโนเวทบ้าน ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อเช้านี้ตนขี่รถมอไซค์มาจอดไว้ปากซอยประชาอุทิศ 11 แล้วเข้าไปในซอยเพื่อไปทำงาน พอประมาณ 10 โมง ตนก็ออกมานั่งสูบบุหรี่ที่รถ แล้วเขาก็มาเตะก้านคอ ตนก็ล้มลงไป จากนั้นเขาก็เข้ามาชกต่อย แล้วก็คว้าเอากุญแจรถ ขี่รถของตนเข้าไปในซอย

ทั้งนีเ คนก่อเหตุทำงานกับตนได้ประมาณ 10 วัน แล้วตนก็ให้เงินไปแล้ว แต่ยังไม่ครบ เขามาทวงถามเงินที่เหลือ แต่ตนบอกว่า เดี๋ยวจะหามาให้ เขาก็ไม่ฟัง แล้วลงทำร้ายตนและเอารถไปเลย

ด้านนาง ต้อย อายุ 54 ปี ภรรยาของนายบุญส่ง กล่าวว่า รถมอไซค์ จะใช้ขี่มาทำงานตรงนี้ประจำ แต่หยุดไป 2 วันสามีตนก็เพิ่งมาวันนี้ ก็มาจอดตามปกติ แล้วสามีตนก็นั่งสูบบุหรี่ ก็มาเตะเสยเข้าที่หน้า มีแผลที่หางคิ้วข้างซ้าย และบริเวณหูข้างซ้าย ก็ไปแจ้งความมาแล้ว คนที่ก่อเหตุก็เป็นคนงานของเขา ไม่ได้เอาเอกสารอะไรไว้ มีคนฝากให้ทำงานอีกทีนึง แต่ก็จำหน้าได้ จะมาเอาเงินค่าแรง สามีตนก็บอกว่า เดี๋ยววันนี้เบิกให้ เขาก็ไม่ฟังๆ

เบื้องต้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ที่ปากซอยประชาอุทิศ 11 นาย จุ่น ได้มาขอเบิกเงินค่าแรงจำนวน 1,500 บาท ที่นาย บุญส่ง ซึ่งเป็นนายจ้าง แล้ว นาง ต้อย ซึ่งเป็นภรรยาของนาย บุญส่ง ก็บอกว่าจะไปเบิกมาให้ แต่นาย จุ่น กลับไม่พอใจจึงลงมือก่อเหตุทำร้าย นาย บุญส่ง จนได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลถลอกบริเวณหางคิ้วด้านซ้าย และที่คอหลังใบหู 

ซึ่งบาดแผลดังกล่าวเกิดจากการที่นาย จุ่น เตะที่ก้านคอจนล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วก็โดนต่อยอีกหลายหมัดแบบไม่ยั้งหลังจากนั้นนาย จุ่น ก็ชักมีดออกมาข่มขู่ว่าจะแทง นาย บุญส่ง แล้วก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น หรีด สี เทาทะเบียน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ของนาย บุญส่ง หลบหนีไปโดยใช้เส้นทางหลบหนีภายในซอยประชาอุทิศ 11 

แต่ว่าด้วยการที่ นาย จุ่น ชำนาญทางภายในซอยจึงรู้เส้นทางลัดเลาะเป็นอย่างดี ทำให้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีได้อย่างรวดเร็ว โดยยังไม่ทราบว่าขณะนี้ นาย จุ่น หลบหนีไปอยู่ที่ใด 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งภายในซอยและบริเวณโดยรอบ คาดว่าผู้ก่อเหตุยังหลบหนีไปได้ไม่ไกล โดยจะดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายได้อย่างแน่นอน