svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"กฤษอนงค์" หอบเอกสารแจง ตร.เพิ่ม เดือด! โดนทัวร์ลงคนเดียว

"กฤษอนงค์" หอบเอกสารแจงเพิ่ม ปมถูกกล่าวหาไถ่เงิน "บอสพอล" ดิไอคอนฯ ยืนยัน ชี้แจงได้ทุกประเด็น เดือด! ทำไมวันนี้โดนทัวร์ลงคนเดียว ถามกลับถ้าไม่ได้ทำผิดอัดเสียงทำไม พร้อมยินดีให้ข้อมูลแผนธุรกิจขายตรงแปลงร่าง เชื่อปิดเกม "ดิไอคอน" ได้แน่นอน

วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 15.20 น. นางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง เดินทางมาที่อาคารกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อมอบเอกสารชี้แจงรายการเพิ่มเติมให้กับตำรวจ ปปป. หลังจากเมื่อวานนี้ ( 23 ต.ค.2567) ได้เข้ามาให้ปากคำ กรณีถูกกล่าวหาว่าตบทรัพย์ 10 ล้านบาท 

โดย นางสาวกฤษอนงค์ บอกว่า วันนี้ ตนมาพร้อมกับที่ปรึกษา และทนายความ เพื่อนำเอกสารมาให้ตำรวจเพิ่มเติม หลังเมื่อวานได้มาให้ปากคำไปแล้วในประเด็นต่างๆ ตามที่ตำรวจต้องการ แต่ตนขอไม่บอกรายละเอียด

ทั้งนี้ ตนอยากเคลียร์ประเด็นข้อสงสัยของสังคมทั้งหมด 3 เรื่อง 

  • เรื่องแรก คือ เรื่องเงิน 10 ล้าน ยืนยันว่าเป็นยอดของผู้เสียหาย ซึ่งมีการเคลียร์เรียบร้อยแล้ว
  • เรื่องที่สอง คือ เรื่องที่บอกว่าตนกินสองทาง รับเงิน 20% นั้น เรื่องนี้เป็นคดีของผู้เสียหาย 89 คน ที่เกิดขึ้นนานแล้ว และจบไปแล้ว ซึ่งตนไปเช็กมาคร่าวๆ พบว่า มีแค่ประมาณ 5 คน ที่โอนเงินมาที่กองทุน 20% ส่วนอีก 64 คน โอนมาแค่ 3-5% และยังมี 1 คน ที่ขอ 20% คืน ซึ่งกองทุนก็ได้โอนคืนไปแล้ว ทั้งหมดมีเอกสารยืนยันได้
  • เรื่องที่สาม คือ เรื่องเงิน 6 แสน ที่บอกว่าตนไปเรียกรับจาก ดิไอคอนกรุ๊ป ตอนที่บอสปัญไปหาที่บ้านนั้น ก็เป็นเงินในการทำแผนงาน ซึ่งเอกสารแผนงานทั้งหมด ก็ได้ให้กับบอสปัญไปหมดแล้ว ไปขอตรวจค้นดูก็ได้ ข้อมูลจะได้เชื่อมโยงกัน

\"กฤษอนงค์\" หอบเอกสารแจง ตร.เพิ่ม เดือด! โดนทัวร์ลงคนเดียว  

อย่างไรก็ตาม กฤษอนงค์ ยืนยันว่า ตนทำงานในธุรกิจเครือข่ายขายตรงมานานกว่า 19 ปี และที่มาช่วยคน เพราะตนเคยประสบเหตุมาก่อน ซึ่งก็ไม่ได้อยากมาทำตรงนี้ แต่ถ้าไม่ทำ ก็ไม่มีคนทำ โดยธุรกิจขายตรงแบบนี้เป็นธุรกิจเงินสด ที่มีจำนวนเงินมหาศาล และมีเส้นบางๆ กับแชร์ลูกโซ่ หากบิดนิดเดียวก็เปลี่ยนได้เลย โดยพูดได้เลยว่า 100% ของแชร์ลูกโซ่ เกิดจากการขายตรง แต่ว่าธุรกิจขายตรง ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ทั้ง 100% ดังนั้น ตนที่อยู่ในวงการธุรกิจขายตรง จึงรู้จักโจรในวงการแชร์ลูกโซ่ทั้งหมด ไม่ว่าจะขยับไปอยู่ตรงไหน และตนเป็นผู้ประสบภัยที่เพียงแค่ลุกขึ้นมาต่อสู้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ มีช่วงหนึ่งที่นางสาวกฤษอนงค์ มีท่าทีโมโห และพูดเสียงดุดังดัง ขึ้น "มึง กู" พูดถึงกลุ่มของบอสพอลว่า 

“ไม่แปลกใจเหรอคะ ทำไมทัวร์มาลงที่กฤษอนงค์ ทำไมสิ่งที่กฤษอนงค์ทำทั้งสองอย่างแล้วทุกคนได้ประโยชน์ แล้วอะไรต้องลงที่กูวะ ไม่สงสัยกันบ้างเหรอ คลิปร้อยกว่าคลิป มีกูคนเดียวเหรอที่พูดเรื่องเงิน แล้วถามกูสักคำมั้ยว่า กูพูดเรื่องเงินอะไร พูดเรื่องเงินแบบไหน เพราะกูไม่เคยอัดมึงไง แต่มึงอัดกู มึงต้องการอะไร กูเกลียดยังไง กูไม่ทำอย่างนั้น ตลอดชีวิตต่อจากนี้ ไม่เคยอัดเสียงใคร มาคุยกับกูได้เลย กูไม่เคยอัดเสียงใคร เพราะกูไม่ได้ทำผิดอะไร ฟังนะ มึงทำอะไร ความจริงเท่านั้นที่จะทำร้ายตัวมึงเอง” 

\"กฤษอนงค์\" หอบเอกสารแจง ตร.เพิ่ม เดือด! โดนทัวร์ลงคนเดียว  

จากนั้น ยังพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลออีกว่า 

“ขอเคลียร์เพื่อลูก ขอเคลียร์เพื่อพ่อที่ยังมีชีวิตอยู่ อย่ากระทบครอบครัวพัชไปมากกว่านี้ อย่าไปวนบ้านพีชไปมากกว่านี้ เพราะทุกคน เคยกิน เคยขี้ที่บ้านกูมาแล้ว บ้านกับออฟฟิตห่างกันซอยเดียว วนอยู่นั่นแหละ ลูกกูอยู่บ้านไม่ได้เลย ไม่รู้ใคร ฝากละกัน ลูกไม่เกี่ยว จะไม่แถลงเลย ถ้าไม่มายุ่งกับลูกกู มึงยังรักลูกมึงเลย ไม่คิดว่ากูจะรักลูกกูบ้างเหรอ มีใครไม่รักลูกบ้าง และวันนี้จะแถลงสั้นๆ ถ้าผิดว่าไปตามผิด ถ้าถูกให้ความเป็นธรรมด้วย เปิดมาเหอะพี่ทนาย รับอะไรมา สักวันความจริงสองทางจะเจอกัน”

นอกจากนี้ นางสาวกฤษอนงค์ ยังขอฝากถึงทนายความของ "บอสพอล" ว่า ขอให้ทำหน้าที่ให้เต็มที่ เพราะฝ่ายโจทก์ก็ต้องฟ้องเต็มที่อยู่แล้ว และตนก็รู้ว่าทนายความจะแก้ว่าอย่างไร เพราะทั้งหมดก็เป็นแผนที่เอาไปจากตน ซึ่งขอให้กำลังใจทนายความ ถ้าชนะคดีนี้ได้ จะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ จะเกิดมาตรฐานใหม่ในวงการธุรกิจขายตรงแน่นอน และตนก็เคยพูดกับ "บอสพอล" ว่า วันไหนเดินเข้าคุกเมื่อไหร่ จะนึกถึงคำตนเมื่อนั้น

ส่วนตำรวจถ้าต้องการข้อมูลจากตนไปเป็นประโยชน์ในการทำคดี ตนก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความรู้เรื่องธุรกิจขายตรงที่แปลงร่างไปเป็นแชร์ลูกโซ่ แต่วันนี้ยังไม่ได้มีการร้องขอ ตนก็คงไม่เปิดเผยเอง เพราะห่วงความปลอดภัยของครอบครัว ซึ่งถ้ามีการรับประกันความปลอดภัยให้ครอบครัวได้ ตนก็พร้อมที่จะเปิดข้อมูลนี้ เพราะมั่นใจว่าจะสามารถปิดเกม "ดิไอคอน" ได้แน่นอน

\"กฤษอนงค์\" หอบเอกสารแจง ตร.เพิ่ม เดือด! โดนทัวร์ลงคนเดียว

ทั้งนี้ ตนไม่ได้รู้สึกดีที่ออกมาช่วยคนแล้วอาจจะต้องตกเป็นผู้ต้องหา แต่ถ้าถามว่าท้อไหม จริงๆ ตนก็ไม่ได้ท้อ แต่สิ่งที่ห่วงมากกว่าคือคนข้างหลัง คือครอบครัวที่ต้องมานั่งร้องไห้ มาเดือดร้อนเพราะตน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่ามีการเรียกเงิน 20 ล้านบาท โดยข่มขู่ว่าหากไม่ให้จะพาผู้เสียหายไปออกรายการดังนั้น นางสาวกฤษอนงค์ ตอบเพียงว่า อันนั้นไม่เกี่ยวกัน เป็นเงินเรื่องการทำแผนงานระยะยาว 

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าคลิปเสียงที่ถูกอัดไว้ต้องมีมากกว่านี้ เพราะถ้าไปนั่งกินข้าวที่บ้านตน แล้วอัดคลิปความยาว 7 ชั่วโมงไว้ได้ ตนก็ยอม “โจรธานอส” คนนี้แล้ว

\"กฤษอนงค์\" หอบเอกสารแจง ตร.เพิ่ม เดือด! โดนทัวร์ลงคนเดียว