svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"สันติ" ปริปาก ”ไม่มีเจตนาที่จะทําร้ายใคร” หลังบุกบ้านจับตัวประกันขณะหนี

"สันติ" อดีตนักมวยดังที่ ที่บุกบ้านจับตัวประกันขณะหนีการจับกุม ปริปากบอก ”ไม่มีเจตนาที่จะทําร้ายใคร” ขณะถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.บางซื่อ "รองนพศิลป์" นำเค้นข้อมูลด้วยตัวเอง

7 ตุลาคม 2567 ความคืบหน้ากรณีที่ "นายสันติ" อดีตนักมวย ผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับศาลอาญาในข้อหาลักทรัพย์ของ สน.เตาปูน ก่อนหลบหนีการจับกุมของตำรวจ เข้าไปยังบ้านเรือนของประชาชน ภายในซอยอินทามระ 29 มีการจับตัวประกัน และยิงสู้กับตำรวจ ก่อนจะอาศัยจังหวะหลบหนีไปได้ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งถูกจับกุมได้ในพื้นที่ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา วันนี้ 
\"สันติ\" ปริปาก ”ไม่มีเจตนาที่จะทําร้ายใคร” หลังบุกบ้านจับตัวประกันขณะหนี
 

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ควบคุมตัว นายสันติ มายัง สน.บางซื่อ เพื่อทําการสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำด้วยตัวเอง

ระหว่างคุมตัว ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร่วมถึงได้ร่วมมือกับภรรยาในการวางแผนหลบหนีหรือไม่ แต่นายสันติ ไม่ตอบคําถามใดๆ กล่าวสั้นๆ เพียงแค่ว่า ”ไม่มีเจตนาที่จะทําร้ายใคร”  ก่อนจะถูกควบคุมตัวเข้าไปภายในห้องสอบสวนโดยมี พล.ต.ต.นพศิลป์ และฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ และสืบสวนนครบาล รวมข้อสอบปากคำ

ใช้เวลานานกว่า 1 ชม. ถึงแล้วเสร็จ จากนั้นตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายสันติไปที่ห้องสืบสวน ระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อเท็เจริงที่เกิดขึ้น แต่นายสันติ ไม่ยอมตอบอะไร แต่เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าตั้งใจจะหนีไปที่อุบลราชธานี เพื่อที่จะไปเจอหน้าลูกก่อนจะเข้ามอบตัวใช่หรือไม่ นายสันติ ได้พยักหน้า ก่อนที่จะถูกควบคุมตัวไปที่ห้องสืบสวน
นายสันติ อดีตนักมวยดัง ผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุม

ภายหลัง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. แถลงผลจับกุมนายสันติ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4903/2567 ลงวันที่ 4 ต.ค.67 ในความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน, ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน และบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนฯ

ซึ่งขณะตำรวจเข้าจับกุม ผู้ต้องหาได้ยิงต่อสู้เจ้าพนักงาน และหลบหนีบริเวณซอยอินทามระ 29 แยก 3 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 67 จนกระทั่งล่าสุดสามารถติดตามจับได้คนร้ายได้บริเวณด่าน ตรวจของ สภ.โพธิ์กลาง ถนนมิตรภาพมุ่งหน้าขาเข้า พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน
\"สันติ\" ปริปาก ”ไม่มีเจตนาที่จะทําร้ายใคร” หลังบุกบ้านจับตัวประกันขณะหนี

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจศูนย์สืบสวนตำรวจนครบาล, กก.สส.บก.น.2 สน.บางซื่อ และ สน.เตาปูน ได้สืบสวนติดตามคนร้ายจากกล้องวงจรปิดพบว่า หลังจากก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีข้ามถนนวิภาวดี มายังฝั่งอาคารตลาดหลักทรัพย์ แล้วเดินทางไปที่ แฟลตห้วยขวาง เพื่อไปเอาเงินที่ฝากไว้กับเพื่อนกว่า 27,000 บาท

จากนั้นได้เปลี่ยนชุดเป็นพนักงานส่งอาหาร สวมหมวกนิรภัยสีดำเต็มใบ เดินออกมา ปากซอยประชาสงเคราะห์ 30 แล้วนั่งวินรถจักรยานยนต์มาที่ซอยรามคำแหง 53 จากนั้นเดินเท้ามาตามถนนเลียบคลองแสน แสบมาถึงซอยรามคำแหง 65 และเดินทางต่อเนื่องไปถึงซอยลาดพร้าว 112 จึงได้ถอดชุดพนักงานส่งอาหารทิ้ง แล้วนั่งรถยนต์แท็กซี่ไปที่จังหวัดปทุมธานี รอจนเช้าจึงนั่งแท็กซี่ไปหาที่พักย่านรังสิต คลอง 4 พักจนเย็น จึงนั่งแท็กซี่มาที่ห้องพักรายวันในพื้นที่ อ.วังน้อย พักอยู่อีกประมาณ 2 วันจึงหาเหมารถแท็กซี่ 8,000 บาท เพื่อหลบหนีไปยังภาคอีสาน

ต่อมาสืบสวนทราบว่า คนร้ายจะเดินทางไปยังภาคอีสานซึ่งเป็น พื้นที่บ้านเกิด จึงได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจต่างๆ ตามเส้นทางการหลบหนี จนต่อมา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 67 เวลาประมาณ 00.30 น. สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา ตั้งจุดตรวจจุดสกัด พบรถแท็กซี่ต้องสงสัย และขอเข้าทำการตรวจค้น ปรากฏว่า นายสันติได้วิ่งหลบหนี ตำรวจได้ติดตามจนสามารถจับกุมตัว และตรวจค้นพบอาวุธปืนลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน .38 จำนวน 15 นัด ตรวจค้นกระเป๋านายสันติที่อยู่ในแท็กซี่ พบอาวุธกึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน จำนวน 17 นัด 
\"สันติ\" ปริปาก ”ไม่มีเจตนาที่จะทําร้ายใคร” หลังบุกบ้านจับตัวประกันขณะหนี

จากการตรวจสอบพบมีหมายจับติดตัวจำนวน 4 หมายดังนี้ 1.หมายจับศาลจังหวัดอำนาจเจริญ (หนีประกันศาล) ความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานฯ, 2.หมายจับศาลอาญา (สน.เตาปูน) ความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, 3.หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น (สภ.เมืองขอนแก่น) ความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานฯ และ4.หมายจับศาลอาญา (สน.บางซื่อ) ความผิดฐาน พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตาม หน้าที่ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่

จากการสืบสวนพบว่า คนร้ายได้ก่อเหตุลักทรัพย์ต่อเนื่องในหลายท้องที่ ดังนี้ เมื่อ 14 ก.ย.67ก่อเหตุลักทรัพย์ได้เงินสด 900 บาท สุรา 1 ขวดในพื้นที่ สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม, 16 ก.ย.67 ก่อเหตุลักทรัพย์ใน พื้นที่ สภ.เมืองข่อนแก่น, 18 ก.ย.67 ก่อเหตุลักทรัพย์ได้ทรัพย์สิน 14 รายการ มูลค่ากว่า 3 แสนบาทในพื้นที่ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชศรีมา และในวันเดียวกันไปก่อเหตุบุกรุกเคหะสถานในพื้นที่ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี  และ27 ก.ย. 67 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่สน.เตาปูน ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้ไล่ก่อเหตุ มาตั้งแต่จังหวัดมหาสารคาม, ขอนแก่น, สระบุรี จนมาก่อเหตุที่กรุงเทพฯ

นายสันติ รับสารภาพว่า ติดยาเสพติด ต้องการเงินเพื่อมาเสพยา และได้ยืนยันว่า วันเกิดเหตุได้หลบหนีเอง ส่วนทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์ จะเอาเงินหรือทรัพย์สินไปฝากไว้กับภรรยา เพื่อให้ภรรยาแปลงทรัพย์สินที่ขโมยมาได้ ส่วนภรรยาไม่ได้ร่วมก่อเหตุด้วย ที่เอาปืนจี้ตำรวจหลบหนีเกิดจากความเครียดเพราะมีการทะเลาะกันกับผู้ต้องหามาโดยตลอด สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนายสันติอ้างว่า ได้มาจากเพื่อน แต่จากการตรวจสอบของตำรวจพบว่า อาวุธปืนเป็นปืนที่ได้มาจากการขโมยมา เจ้าหน้าที่จะส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบต่อไป 

นอกจากนี้นายสันติยังรับสารภาพอีกด้วยว่า สาเหตุที่หลบหนีไปยังจังหวัดยโสธร เพื่อที่จะไปพักและต้องการเดินทางต่อไปยังจังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อต้องการพบลูกอีกครั้ง หลังจากนั้นจะติดต่อขอเข้ามอบตัว แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน ส่วนที่ต้องยิงตำรวจในวันเกิดเหตุนั้น นายสันติอ้างว่า ได้วิ่งหลบหนีตำรวจเกือบสุดทางและเหนื่อย จึงต้องการหยุดยั้งไม่ให้ตำรวจติดตามตัวได้ ส่วนที่เข้าบ้านผู้เสียหายนายสันติได้อ้างตัวเป็นตำรวจ เพราะต้องการหาน้ำกินเท่านั้น หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะคุมตัวนายสันติส่งไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ และฝากขังในวันพุธ 9 ต.ค.ต่อไป
\"สันติ\" ปริปาก ”ไม่มีเจตนาที่จะทําร้ายใคร” หลังบุกบ้านจับตัวประกันขณะหนี