svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ด่วน! ไฟไหม้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เร่งอพยพคนจากพื้นที่แล้ว

ไฟไหม้โรงงานพลาสติก และเคมีภัณฑ์ในนิคมมาบตาพุดอย่างรุนแรง อันตรายเป็นสารก่อมะเร็ง กลุ่มควันสีขาวพวบพุ่ง กลิ่นเขม่าควัน เร่งอพยพคนจากพื้นที่แล้ว

22 กันยายน 2567 ช่วงประมาณเที่ยง ที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.)-EMCC รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บริเวณ Plant VCM1 ภายในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เกิดกลุ่มควันปริมาณมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเข้าระงับเหตุ ส่วนสาเหตุยังไม่ได้รับรายงาน

 

 

ด่วน! ไฟไหม้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เร่งอพยพคนจากพื้นที่แล้ว

 

 

 

เบื้องต้น จากแพทย์อาชีวเวชศาสตร์ รพ.เฉลิมพระเกียรติฯ ระบุว่า จุดเกิดเหตุ เป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมผาแดง ทิศทางลม เหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็วลม (1.63 m/sec) ที่เวลา 12.15 น. และเกิดควันสีขาว ลอยสูง สารเคมีตั้งต้น Vinyl Chloride Monomer (VCM) นอกจากนี้ ข้อมูลจากแหล่งข่าวแจ้งว่ากลิ่นเป็นกลิ่นเขม่าควัน

 

 

ด่วน! ไฟไหม้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เร่งอพยพคนจากพื้นที่แล้ว

 

 

เบื้องต้นสงสัยการลุกไหม้ของแก๊ส เขม่าได้แก่ CO CO2 PAH และฝุ่น PM โดยมาตรการเบื้องต้น ได้อพยพจากพื้นที่ใต้ลม ระยะทาง 1-2 กม.แรก และสามารถใช้หน้ากากอนามัย 1-2 ชั้นเพื่อป้องกันฝุ่นและเขม่า

 

ด่วน! ไฟไหม้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เร่งอพยพคนจากพื้นที่แล้ว

 

ต่อมา รายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 11.40 น. ได้รับแจ้งจากสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณภายในอาคาร 4 ของบริษัท ที่ทำพลาสติกและเคมีภัณฑ์ บริษัทหนึ่ง ในตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ระดับ 2 ของโรงงาน

 

ด่วน! ไฟไหม้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เร่งอพยพคนจากพื้นที่แล้ว

 

 

โดยมีหน่วยงานเข้าให้การช่วยเหลือ ประกอบด้วย รถดับเพลิงจากบริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด และรถดับเพลิงจากบริษัท เอสซีจี เคมิคอล จำกัด จำนวน 3 คัน เข้าทำการระงับเหตุในเวลานี้ จากผลการตรวจสอบในที่เกิดเหตไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากเพลิงสงบจะเร่งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยด่วนต่อไป

 

 

โดยไฟไหม้โรงงานมาบตาพุด ดังกล่าว มีข้อมูลเพิ่มเติม ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์เฟซบุ๊ก “Sonthi Kotchawat” ระบุว่า 

 

 

ด่วน! ไฟไหม้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เร่งอพยพคนจากพื้นที่แล้ว

ไฟไหม้โรงงานพลาสติก และเคมีภัณฑ์ในนิคมมาบตาพุดอย่างรุนแรง อันตรายเป็นสารก่อมะเร็ง

 

1. เวลา 12.25 น.วันที่22กย.67 เกิด ไฟไหม้ บริเวณ Plant VCM1 ภายในโรงงานบริษัทไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด ในพื้นที่นิคมมาบตาพุด จ.ระยอง ทำให้เกิดกลุ่มควันสีขาวและสีดำปริมาณมาก กลุ่มควันดังกล่าวพัดไปยังตลาดมาบตาพุด ชุมชนบ้านพลง ชุมชุนอิสลาม ควรหลีกเลี่ยงการได้รับควันและไอระเหยดังกล่าวเพราะเป็นสารก่อมะ เร็ง ควรอพยพออกจากโรงงานดังกล่าวอย่างน้อย3กม.

 

2.สารVCMหรือไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ (Vinyl chloride monomer; Ethylene monochloride; Monochloroethylene) ใช้ผลิตเม็ดพลาสติก เป็นก๊าซไม่มีสี เป็นก๊าซไวไฟสูงมาก จัดเป็นสารก่อมะเร็ง และเก็บเป็นของเหลวภายใต้ความดัน ไอระ เหยของสารVCMเมื่อรวมตัวกับอากาศในอัตราส่วนที่พอเหมาะจะทำให้เกิดการระ เบิดได้โดยปล่อยสารคลอรีนออกมามีอัน ตรายต่อสุขภาพอย่างมาก หากหายใจเข้า ไปทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรง เป็นพิษต่อระบบประสาท เป็นอันตรายต่อระ บบหลอดเลือดแดง ผิวหนัง กระดูก ตับ พิษแบบเฉียบพลันที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับสารในปริมาณความเข้มข้นสูง จะทำให้มีอา การมึนงง วิงเวียน อ่อนเพลีย ง่วงนอน  เสียการทรงตัว การได้ยินและการมองเห็นไม่ชัดเจน ถ้าได้รับในปริมาณความเข้มข้นสูงมากจะทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้

...นอกจากนี้ยังเป็นพิษแบบเรื้อรังกล่าวคือหากได้รับไวนิลคลอไรด์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการพิษทางระบบประสาท การรับรู้ต่าง ๆ น้อยลง เป็นพิษต่อระบบสืบพันธ์และก่อมะเร็งที่ตับ

 

3.ไวนิลคลอไรด์เป็นก๊าซไม่มีสีที่ถูกติดไฟเผาไหม้ได้ง่ายและระเหยอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะใช้ในการผลิตโพลีไวนิลคลอไรด์หรือ PVC ซึ่งใช้ทำผลิตภัณฑ์พลาส ติกหลากหลายประเภท เช่น ท่อ สายไฟ และวัสดุบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น หากเกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ไม่สามารถใช้การสเปรย์น้ำ (water spray) หรือพ่นหมอกน้ำ(water fog) ห้ามฉีดน้ำโดยตรงไปยังถังเก็บสารเคมีดังกล่าว ในการดับเพลิงได้ต้องใช้โฟมดับไฟ หรือคาร์บอนไดออกไซด์เท่านั้น

 

วันเดียวกัน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 

 

ด่วน! ไฟไหม้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เร่งอพยพคนจากพื้นที่แล้ว

 

นิคมมาบตาพุดควบคุมเพลิงไหม้ได้แล้ว ผมสั่งการให้การนิคมฯ คุมเข้มเรื่องสารเคมี และสารพิษรั่วไหล โดยขณะเกิดเหตุได้อพยพคนออกจากพื้นที่ และไม่พบว่ามีใครได้รับบาดเจ็บ 

 

เบื้องต้นพบว่าเหตุเกิดในกระบวนการผลิต สามารถตัดแยกสารเคมีที่รั่วไหลได้ ยังไม่ลุกลามเข้าไปบริเวณแท้งค์เก็บสารเคมี  

 

 

ล่าสุดเวลา 15.45 น.ตรวจวัดคุณภาพอากาศพบว่ากลับมาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแล้ว เจ้าหน้าที่ของการนิคมฯร่วมกับบริษัทฯลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์และดูแลประชาชนในชุมชนใกล้เคียง