svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ยกฟ้อง "เอ็ม-อภิดิศร์" หลานอดีตรัฐมนตรี คดีล่วงละเมิดทางเพศดาราสาว

ศาลยกฟ้อง "เอ็ม-อภิดิศร์" หลานอดีตรัฐมนตรี คดีล่วงละเมิดทางเพศดาราสาว จากหลักฐานศาลเชื่อฝ่ายหญิงมีสติรับรู้ และยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์ หลังศาลยกฟ้อง ผู้เสียหายสีหน้าเศร้าซึม รีบเดินออกห้องพิจารณาคดีทันที

จากกรณีที่ น.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ดารานักร้องนักแสดง เข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับ ฟ้อง นายอภิดิศร์ (สงวนนามสกุล) หรือเอ็ม  อายุ 36 ปี นักธุรกิจและหลานชายอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย วางยาข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดภายในพลูวิลล่าแห่งหนึ่ง ซอยนาคนิวาส 8 เมื่อวันที่ 9 ส.ค.65 

 

20 กันยายน 2567 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีความผิดทางเพศหมายเลขดำ อ.2878/2565 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายอภิดิศร์ (สงวนนามสกุล)  อายุ 36 ปี นักธุรกิจและเป็นหลานชาย อดีต รมว.ต่างประเทศ เป็นจำเลย ในความผิดฐาน กระทำชำเรา และอนาจารหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยใช้กำลังประทุษร้าย

 

โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า  เมื่อระหว่างวันที่ 9 ส.ค.-10 ส.ค.65 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้บังอาจข่มขืนกระทำชำเรา และกระทำอนาจาร น.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้เสียหาย โดยจำเลยนำเหล้า "โซจู" ให้ผู้เสียหายดื่มจนมีอาการมึนเมา เคลิบเคลิ้ม ไม่รู้สึกตัวแล้วจำเลยได้กระทำชำเราผู้เสียหาย เพื่อสนองความใคร่ โดยผู้เสียหายไม่ยินยอม และไม่อาจขัดขืนได้ จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว

 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2567 ศาลนัดพิพากษาคดีแล้ว แต่จำเลยไม่ได้มาศาล ไม่แจ้งเหตุขัดข้องพฤติกรรม เชื่อได้ว่าจำเลยหลีกเลี่ยงมาฟังการพิจารณาคดี จึงให้ออกหมายจับจำเลยมาฟังคำพิพากษา ให้ยึดเงินประกันจำเลย พร้อมนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันนี้

วันนี้ อัยการโจทก์ โจทก์ร่วม ทนายจำเลย เดินทางมาศาลส่วนจำเลยออกหมายจับมากกว่า 1 เดือน ยังไม่ได้ตัว จึงอ่านคำพิพากษาลับหลัง 

 

ศาลพิเคราะห์แล้วว่า วันเกิดเหตุโจทก์ร่วมหรือผู้เสียหายได้ทะเลาะกับพี่สาวไม่อยากกลับบ้าน จึงมีการพูดคุยกับจำเลยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ สอบถามว่ามีที่พักหรือไม่ จำเลยจึงเสนอว่ามีห้องพักสามารถไปนั่งดื่มแอลกอฮอล์และนั่งฟังเพลงได้ จากนั้นผู้เสียหายและจำเลยได้เข้าไปนั่งอยู่ในห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่งสองต่อสอง นาน 2 ชั่วโม งจนกระทั่งพี่สาวมาตาม จำเลยจึงออกจากห้องพักก่อนจะกลับเข้ามาที่ห้องพักและอยู่ด้วยกันอีก 30 นาที 

จากนั้นในเวลา 03.00 น. ทางโจทก์ร่วมได้กลับไปยังห้องพักโดยใช้แอปพลิเคชั่นเรียกรถและสแกนจ่ายเงินก่อนจะถึงที่พักและหลับไปโดยไม่ได้อาบน้ำและเปลี่ยนชุด ก่อนที่จะตื่นมาในตอนเช้าเข้าห้องน้ำแล้วพบว่ามีของเหลวสีขาวออกมาจากอวัยวะเพศ จึงเรียกพี่สาวมาดูและพากันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลพบว่าของเหลวที่พบเป็นน้ำอสุจิแต่ไม่พบสารเสพติดยานอนหลับและยาเสียสาว เยื่อพรหมจารีไม่ขาด โดยผู้เสียหายได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ว่าถูกล่วงละเมิดโดยที่ไม่ยินยอมและคาดว่าถูกวางยา

 

ตำรวจจึงส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอีกครั้ง โดยพยานที่เป็นแพทย์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ยืนยันว่าการตรวจปัสสาวะของผู้เสียหายไม่พบสารเสพติดและยานอนหลับ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตรวจเลือด แม้ผู้เสียหายมีความประสงค์จะให้ตรวจเลือดแต่หากเกิน 24 ชั่วโมงการตรวจเลือดก็ไม่เป็นผล แต่สามารถดูผลจากการตรวจปัสสาวะได้เช่นกัน

 

ขณะที่จำเลยได้เบิกความในชั้นสืบพยานว่า ฝ่ายหญิงเป็นผู้สมัครใจร่วมประเวณีด้วย แต่ในวันนั้นตัวเองได้สวมใส่ถุงยางอนามัยแต่พบว่าถุงยางแตก จึงได้ออกไปที่ร้านขายยาและซื้อยาคุมมาให้กิน ศาลเห็นว่าแม้วันดังกล่าว โจทก์ร่วมจะสนทนากับจำเลยว่า จะไปพบเพื่อพูดคุยเรื่องงานเล่นมิวสิควิดีโอเพลงที่จะให้จำเลยสนับสนุน และมีการเปิดเพลงแนวยั่วยวน โจทก์ร่วมยังชวนจำเลยลุกขึ้นเต้น จนเป็นเหตุให้เกิดอารมณ์ทางเพศ

 

ในคดีนี้จากพยานมีเพียงโจทก์และจำเลย ซึ่งให้การยันกันเองถึงการยินยอมและไม่ยินยอม ศาลจึงต้องรับฟังพยานหลักฐานที่เป็นการสนทนาก่อนเกิดเหตุ พิจารณาได้ว่า โจทก์มีความประสงค์ที่จะชักชวนจำเลยให้มาสนับสนุนการทำมิวสิควิดีโอเพลง เชื่อว่าไม่ได้มีเหตุผลใดเป็นพิเศษ มีข้อมูลแนะนำตัว และให้เปิดห้อง โดยฝ่ายจำเลยที่ออกจากบ้านกลางดึก โดยหวังว่าจะได้นั่งกินดื่ม พูดคุยกับหญิงสาวหน้าตาดี มิเช่นนั้นจึงไม่มีเหตุที่ จำเลยจะต้องเสียเวลา เงินค่าห้อง อีกทั้งจำเลยยังเตรียมพกถุงยางอนามัยมา จำเลยย่อมคาดหวังว่าจะได้มีเพศสัมพันธ์กับโจทก์ 

 

ทั้งนี้จำเลยได้แอบถ่ายคลิปภาพ ซึ่งโจทก์ร่วมไม่ยินยอม แต่ศาลพิเคราะห์แล้วว่าวัตถุพยานดังกล่าวมีประโยชน์ต่อการอำนวยความยุติธรรมเป็นพยานหลักฐานคุณภาพดี ซึ่งในคลิปแรกเป็นคลิปที่พี่สาวได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตามหาโจทก์ร่วมที่โรงแรม แต่โจทก์ร่วมก็ไม่ออกไปแสดงตัว คลิปที่ 2 และ 3 เป็นการสนทนาระหว่างโจทก์ร่วมและจำเลยตามปกติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าปรากฏภาพโจทก์ร่วมมีสติสามารถออกมาส่งจำเลยที่หน้าห้องพักของโรงแรมได้ โดยเดินออกมาด้วยท่าทางปกติ มีสติสัมปชัญญะ และสามารถเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่นกลับบ้านและจ่ายเงินเองได้ และโจทก์ร่วมได้ใส่ชุดนักศึกษาหากมีการถอด และสวมกลับโดยคนอื่นโดยไม่รู้ตัวให้เหมือนเดิม การสวมใส่กลับจะต้องมีความผิดปกติ 

 

เมื่อพิจารณาพยานหลักฐานประกอบคลิปวิดีโอ คลิปเสียงทั้งหมดแล้ว พยานหลักฐานจำเลยมีน้ำหนักหักล้างโจทก์ ว่าขณะนั้นโจทก์มีสติสัมปชัญญะและยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์ พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง "พิพากษายกฟ้อง"

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้โจทก์ร่วมหรือผู้เสียหายพร้อมพี่สาว เดินทางมาฟังคำพิพากษาวันนี้ด้วย โดยระหว่างศาลอ่านคำพิพากษาผู้เสียหายมีสีหน้าเรียบเฉย แต่พอหลังอ่านผลตัดสินว่ายกฟ้อง ผู้เสียหายมีสีหน้าเศร้าซึมอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็รีบเดินออกจากห้องพิจารณาคดี โดยไม่มีการพูดคุยกับสื่อมวลชนแต่อย่างใด