16 กันยายน 2567 ความคืบหน้ากรณีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์หญิงรายหนึ่ง ถูกอธิบดีศาลยุติธรรมรายหนึ่ง พยายามลวนลามบนรถไฟตู้นอน ซึ่งเป็นตู้รถไฟที่ถูกเหมาเพื่อเดินไปสัมมนา ที่จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ เมื่อช่วงวันที่ 1 มิ.ย. 67 ก่อนมีการ เข้าแจ้งความไว้ที่ พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ ที่ประชุม คณะกรรมการตุลาการ (ก.ต. )ครั้งที่ 24/2567 ที่มี นางอโนชา ชีวิตโสภณ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาในเรื่องนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ประธานศาลฎีกาได้เซ็นคำสั่งย้ายอธิบดีศาลที่ถูกกล่าวหาคนดังกล่าว ไปช่วยราชการชั่วคราวในตำเเหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกาประจำสำนักงานประธานศาลฎีกา มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. 67
หลังจากนั้นก็มีการสอบสวนข้อเท็จจริง จนการประชุม ก.ต.ครั้งก่อนหน้านี้ ภายหลังมีการสอบสวน ทาง ก.ต.ได้พิจารณามีความเห็นจากผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พิจารณาเเล้วมีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรง และมีการเสนอพักราชการ จนที่ประชุมในวันนี้มีมติให้พักราชการอธิบดีผู้พิพากษาคนดังกล่าว ภายหลังจากที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรง
ในส่วนการดำเนินคดี มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายหญิงสาวที่ถูกอธิบดีศาลยุติธรรมรายหนึ่ง พยายามลวนลามบนรถไฟ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. แล้วเเละพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายรายนี้ โดยมีการเสนอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับคดีนี้เป็นการเฉพาะแล้ว เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการระดับสูง และคดีอยู่ในความสนใจของประชาชน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน
ขณะที่ในส่วนตำรวจสอบสวนกลาง ภายหลังพนักงานสอบสวนกองปราบ รับเรื่องดังกล่าว ทาง บช.ก. ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นมา เพราะถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และอยู่ในความสนใจของสังคม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ที่ผู้เสียหายนำมามอบให้
โดยก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวน ได้มีการเรียกสอบปากคำพยานฝั่งผู้เสียหายไปแล้วจำนวนหลายปาก เพื่อนำมาประมวลเรื่องราวพิจารณา ร่วมกับพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานแวดล้อมต่างๆ พิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการดำเนินคดีพอสมควร จากนั้นจึงจะนำพยานหลักฐานและคำให้การทั้งหมด เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน เพื่อหารือกำหนดแนวทางการดำเนินคดีต่อไป