svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบ CEO บริษัทมหาชน ขณะจูงจักรยาน เจ้าตัวปัดพัลวัน โดนแอบอ้าง

ตำรวจสอบสวนกลาง รวบ CEO บริษัทมหาชน ฝ่าฝืนไม่ทำและส่งงบการเงิน เจ้าตัวอ้างถูกนำบัตรประชาชนไปใช้ ไม่เคยทำงานบริษัทดังกล่าว เป็นแค่ช่างก่อสร้างมีรายได้วันละ 400 บาท

7 กันยายน 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช  บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.นนทพัทธ์       ยอดแก้ว, พ.ต.ท.ภาสกร นภาโชติ, พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์, พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย ร.ต.อ.สุรพันธุ์ ตาขันทะ, ร.ต.อ.ธนชัย พจน์โพธิ์ศรี รอง สว.(สอบสวน)    กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.ท.ชัยวิทย์ ศรจิตต์ รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ปอศ., ส.ต.อ.เจนภพ เตมิราช ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายไพวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี สถานที่จับกุม บริเวณซอยหมู่บ้านเศรษฐกิจ 30 ตำบลบางแคเหนือ อำเภอบางแค กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับดังนี้

  • ศาลอาญา ที่ 3777/2567 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2567 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “บริษัทฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่จัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายในระยะเวลาที่คณธกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด”
  • ศาลอาญา ที่ 3779/2567  ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2567 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทมีหน้าที่สั่งการหรือกระทำการใดๆ เพื่อให้บริษัทจัดทำและนำส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด แต่บริษัทฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่จัดทำและนำส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด”

รวบ CEO บริษัทมหาชน ขณะจูงจักรยาน เจ้าตัวปัดพัลวัน โดนแอบอ้าง

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก กก.3 บก.ปอศ. ได้รับการร้องทุกข์กล่าวโทษจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ขอให้ดำเนินคดีกับบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมี นายทรงฤทธิ์ (ปัจจุบันหลบหนี) และนายไพวัลย์ (ผู้ต้องหารายนี้) เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ในความผิดฐาน “บริษัทฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่จัดทำและส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายในระยะเวลาที่คณธกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด” 

และความผิดฐาน “เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทมีหน้าที่สั่งการหรือกระทำการใดๆ เพื่อให้บริษัทจัดทำและนำส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด แต่บริษัทฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่จัดทำและนำส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด” ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 
รวบ CEO บริษัทมหาชน ขณะจูงจักรยาน เจ้าตัวปัดพัลวัน โดนแอบอ้าง

บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ที่มีหุ้นสามัญจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีหน้าที่ต้องส่งงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งยังเคยเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น (Warrant) แม้ภายหลังตลาดหลักทรัพย์ได้เพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนแล้ว

แต่ปรากฏว่ายังคงมีผู้ถือหุ้นจำนวนกว่า 1,124 ราย (เกินกว่า 100 ราย) จึงมีหน้าที่ต้องจัดทำและนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 และรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงานประจำปี 2565 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 แต่เมื่อครบกำหนด ผู้ต้องหากลับเพิกเฉยไม่ได้ดำเนินการตามหน้าที่แต่อย่างใด

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ทราบว่า นายไพวัลย์ หนึ่งในกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทมหาชนดังกล่าว ปัจจุบันได้หลบหนีมาพักอาศัยในพื้นที่หมู่บ้านเศรษฐกิจ แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร จึงได้จัดกำลังเฝ้าติดตาม จนผู้ต้องหาเดินจูงจักรยานอยู่ในบริเวณซอยหมู่บ้านเศรษฐกิจ 30 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้าสอบถามจนทราบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับ แจ้งสิทธิผู้ต้องหา และความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการต่อไป

สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากการซักถามเบื้องต้นทราบว่า ได้ถูกนำบัตรประชาชนของตนเอง ไปสวมชื่อเป็นกรรมการบริษัทฯ ดังกล่าว โดยที่ตนเองประกอบอาชีพเป็นช่างก่อสร้าง ได้ค่าจ้างเพียงวันละ 400 บาท และไม่เคยได้บริหารจัดการในบริษัทฯ ดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัย  ในการประกอบธุรกิจของบริษัทมหาชนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 จะกำหนดให้มีหน้าที่ในการจัดทำงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ

หากเพิกเฉย ละเลยไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ย่อมต้องได้รับโทษทางอาญาตามที่กฎหมายกำหนด หากประชาชนมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมาย สามารถแจ้งมาได้โดยตรงที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง Website : https://cib.go.th/ หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป 
รวบ CEO บริษัทมหาชน ขณะจูงจักรยาน เจ้าตัวปัดพัลวัน โดนแอบอ้าง