svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ลิลลี่ เหงียน" ร้อง สอท. ถูกปลอมเฟซบุ๊กกว่า 50 เพจ ใช้หลอก ปชช. ทำเสียชื่อเสียง

"ลิลลี่ เหงียน" นางแบบดัง ร้อง สอท. ถูกปลอมเฟซบุ๊กกว่า 50 เพจ นำไปโปรโมทเว็บพนัน-หวยใต้ดิน-วิจารณ์การเมือง-ตัดต่อภาพโป๊เปลือย หลอกลวงประชาชน ทำเสียชื่อเสียง พบมีแฟนคลับหลงเชื่อและเสียหายแล้ว วอนคนทำอย่าทำร้ายกันเลย ยันจะดำเนินการให้ถึงที่สุด

4 กันยายน 2567 ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี1 (บก.สอท.1) MS. VANMANY PHONSAVANH หรือ ลิลลี่ เหงียน นางแบบชื่อดัง และน.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี อายุ 45 ปี นางแบบชื่อดัง พร้อมด้วย น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) หลังถูกมิจฉาชีพนำภาพและชื่อไปทำเฟซบุ๊กปลอม ทำให้เสียชื่อเสียงและหลอกลวงประชาชน 

ลิลลี่ เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาในวันนี้เพราะมีความเดือดร้อนกังวลใจเนื่องจากพบว่ามีเพจเฟซบุ๊กปลอม ที่ปลอมทั้งชื่อและภาพของตน พร้อมเบอร์ติดต่องานของผู้จัดการที่เป็นเบอร์จริง โดยมีเพจฯปลอมรวมแล้วกว่า 50 เพจ ที่มีการนำไปโปรโมทเว็บพนันออนไลน์ หวยใต้ดิน ดูหมิ่นเบื้องสูง วิจารณ์เกี่ยวกับการเมือง และนำภาพไปตัดต่อเป็นภาพโป๊เปลือย จึงเข้าแจ้งความบันทึกประจำวัน ที่บก.สอท.1 เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ เนื่องจากตนไม่เคยทำผิดกฏหมายและจะไม่ทำเด็ดขาด 

โดยขณะนี้มีแฟนคลับของตนหลงเชื่อเเละเสียหายแล้วประมาณ 3-4 ราย โดยส่งข้อความมาบอกว่า "ทำไมลิลลี่หลอกลวง อุตส่าห์เชื่อใจไปลงทุนกับเว็บพนัน" ซึ่งเสียเงินไปแล้วประมาณหลักพัน-หมื่น บาท นอกจากนี้ยังมีแฟนคลับบางรายตั้งคำถามว่าทำไมตนถึงรับงานถ่ายภาพโป๊เปลือย ซึ่งตนเห็นภาพก็ตกใจ จึงอยากฝากถึงแฟนคลับทุกคนว่าอย่าไปหลงเชื่อเว็บพนันและยืนยันว่าไม่เคยรับงานผิดกฎหมายใดๆ รวมไปถึงรับถ่ายแบบโป๊เปลือย ทั้งนี้อยากฝากถึงมิจฉาชีพอย่าทำร้ายตนเลย พร้อมยืนยันจะดำเนินการให้ถึงที่สุด 

ขณะที่ ทนายกุ้ง กล่าวว่า ในวันนี้มาเพื่อแจ้งความขอให้ทาง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ สืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิด โดยเข้าข่ายความผิด ทางพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 และ มาตรา16 นอกจากนี้ตนยังคิดว่ามีผู้กระทำความผิดแบบนี้อีกเป็นจำนวนมาก และคนที่ได้รับผลกระทบหรือเสียหายมักเป็นคนมีชื่อเสียง จึงอยากให้ทาง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ได้จัดการผู้กระทำผิดต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบประมาณ 50 URL ที่ปลอม ในวันนี้ตนจะสั่งการให้ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ทำการตรวจสอบว่า 50 URL ดังกล่าวว่ามีตัวตนจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงอวตารเท่านั้น หากพบว่ามีตัวตนจริง ทางตำรวจไซเบอร์ก็จะไม่ปล่อยไว้และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด  จากนั้นก็จะส่งเรื่องไปยัง Facebook Thailand ให้ตรวจสอบว่าจะปิดเพจฯดังกล่าวหรือไม่ ในส่วนตรงนี้จะใช้เวลามากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ Facebook Thailand 

ทั้งนี้หากประขาชนคนใด ถูกปลอมเฟซบุ๊ก ให้รีบแจ้งความเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป