รอง มทภ.4 แจ้งจับนายทุนต่างชาติ บุกรุกเกาะสมุยสร้างวิลล่าหรูเกิน 100 แห่ง
รองแม่ทัพภาค 4 ร้องทุกข์ตำรวจป่าไม้รอบ 2 แจ้งจับนายทุนต่างชาติ บุกรุกที่ดินภูเขาสูงชันวิวหลักล้านบนเกาะสมุยสร้างวิลล่าหรู รวมแล้วเกิน 100 แห่ง
3 กันยายน 2567 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร รองแม่ทัพภาคที่ 4 และรอง ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อม พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว หัวหน้าชุดตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 นำหลักฐานแจ้งความเอาผิด กรณีนายทุนต่างชาติบุกรุกที่ดินสร้างวิลล่าหรูในพื้นที่เกาะสมุย
พล.ต.อนุสรณ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่าน กอ.รมน. ได้ดำเนินการแผนพิทักษ์เกาะสมุย เดินหน้าตรวจสอบการกระทำความผิดในการก่อสร้างรีสอร์ต โรงแรม บนพื้นที่เกาะสมุย ซึ่งจากการตรวจสอบภาพรวมด้วยสายตา พบว่า มีอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่อยู่ตามพื้นที่ภูเขาสูงชันแทบจะทั้งเกาะ จึงได้มีการบูรณาการร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ และรวบรวมพยานหลักฐานมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับ บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด
ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่า มีการกระทำผิดตามกฏหมายใดบ้าง ทั้งเรื่องของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร , พ.ร.บ.โรงแรม , ความผิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม , การบุกรุกป่า อย่างไรก็ตามการเข้าแจ้งความครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐานมาแจ้งความทั้งหมด 40 แห่ง แต่ก่อนหน้านี้ได้มาแจ้งความไปแล้ว 53 แห่ง รวมเป็น 93 แห่ง ในพื้นที่เขาหมาแหงนเป็นหลัก ซึ่งหลังจากนี้จะเดินหน้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายอีก 15 จุด คาดว่าจะพบการกระทำความผิดอีกหลายแห่ง
สำหรับลักษณะสิ่งปลูกสร้างที่เข้าข่ายความผิดพบว่า มีทั้งที่เป็นโรงแรม และเป็นรีสอร์ท ส่วนมากจะนิยมสร้างบนภูเขาสูง พื้นที่ลาดชันสูง เพื่อต้องการทิวทัศน์จากมุมสูงที่มีความสวยงาม การเดินทางขึ้นไปก็ต้องใช้รถโฟร์วีลเท่านั้น ส่วนการให้บริการ จะเปิดรับลูกค้าเฉพาะชาวต่างชาติ ที่ต้องมีรหัสการจองผ่านเว็บไซต์จากต่างประเทศ คนไทยไม่สามารถเข้าไปจองได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทุนชาวต่างชาติ และมีนายหน้าชาวไทยที่ไปหลอกลวงด้วย และจากการเข้าไปตรวจสอบยังไม่พบตัวผู้กระทำผิด จะเจอแต่คนงานที่เป็นคนไทย
ซึ่งจะเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป รวมถึงการตรวจสอบไปถึงเจ้าหน้าที่ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการออกใบอนุญาต อย่างไรก็ตามทางคณะทำงานได้หารือร่วมกับผู้ตรวจการแผ่นดิน เกี่ยวกับการป้องกันการลงทุนจากชาวต่างชาติ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยใช้นอมินี ซึ่งพบว่ายังมีช่องว่างของกฎหมายอยู่ จึงมีแผนที่จะเข้าไปอุดช่องว่างเหล่านี้ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.มงคล พรางสูงเนิน รอง ผบก.ปทส. กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้ทางพนักงานสอบสวนรับคดีดังกล่าวแล้ว โดยทาง บก.ปทส.จะต้องมีการตรวจสอบในหลายส่วน ทั้งพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง การอนุญาต และการดำเนินกิจการ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา เพราะมีจำนวนมากกว่า 90 แห่ง และหากพบว่า ใครมีความผิดก็จะดำเนินคดีทั้งหมด
