โดยในปีนี้ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบคำขวัญวันครู ครั้งที่ 69 พ.ศ. 2568 ดังนี้
“ครูจุดประกายความฝัน
ผลักดันให้กล้าคิด
สร้างโอกาสในชีวิตให้เด็กไทย”
ครู หมายถึง ผู้ที่มีบทบาทในการสอนและถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และคุณธรรมให้แก่ศิษย์ ครูไม่เพียงแต่สอนวิชา แต่ยังเป็นผู้ชี้แนะทางชีวิตและเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้เรียน ครูช่วยสร้างฐานความรู้และสอนให้ศิษย์สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณค่า ทั้งในด้านการทำงานและการเป็นคนดีของสังคม
คำว่า "ครู" นั้นมาจากภาษาสันสกฤตว่า "คุรุ" ซึ่งหมายถึง ผู้ที่แสดงทางหรือผู้ที่ชี้นำทางไปสู่ความรู้ การเรียนรู้ และการพัฒนาของบุคคล ครูถือเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยหล่อหลอมชีวิตให้ผู้เรียนเติบโตเป็นคนดี มีความรู้และมีจริยธรรม
ในสังคมไทย ครูมีบทบาทสำคัญในกระบวนการศึกษาทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน เป็นผู้ที่สอนวิชาการต่างๆ และยังต้องสอนการประพฤติปฏิบัติที่ดีให้แก่ศิษย์ เพื่อให้เป็นคนที่มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนและมีความเคารพในความรู้และประสบการณ์ของผู้อื่น
โดยสรุปแล้ว ครูไม่เพียงแต่สอนวิชา แต่ยังเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้ศิษย์มีความมั่นใจในการเรียนรู้และสามารถใช้ความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณค่าในสังคม
วันครูแห่งประเทศไทยเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2499 ตามมติของคณะรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่เล็งเห็นความสำคัญของครูในฐานะผู้สร้างอนาคตของชาติ จึงกำหนดให้มี "วันครู" ขึ้น เพื่อเป็นวันแห่งการรำลึกถึงพระคุณของครูผู้เสียสละสอนสั่ง อบรมวิชา และเป็นผู้หล่อหลอมศิษย์ให้มีคุณธรรมและความรู้ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ศิษย์ได้แสดงความกตัญญูต่อครูอาจารย์ผู้มีบทบาทสำคัญในชีวิต
การจัดตั้งวันครูนั้นมีเป้าหมายหลักเพื่อยกย่องและเชิดชู ครูผู้เสียสละในการอบรมสั่งสอนศิษย์ให้เป็นคนดีและมีความรู้ อีกทั้งยังส่งเสริมความสามัคคีระหว่างครูกับศิษย์ และในกลุ่มครูด้วยกันเอง นอกจากนี้ วันครูยังเป็นโอกาสสำคัญที่ช่วยให้ครูได้พัฒนาตนเองและวิชาชีพ เพื่อยกระดับการศึกษาของชาติ
โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2499 ให้วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็น วันครู โดยถือเอาวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2488 เป็น วันครู และให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าว
การจัดงานวันครู ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2500 ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นที่จัดงาน งานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์งานวันครูไว้ให้แก่อนุชนรุ่น หลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญคือหนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างที่เป็นถาวรวัตถุ
พิธีรำลึกถึงครูบาอาจารย์ โดยมีพิธีปฏิญานตน รวมไปถึงการกล่าวระลึกถึงพระคุณของครู กิจกรรมจัดเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ปกครองกับคุณครู อาจจะเป็นการแข่งขันกีฬาเพื่อความสามัคคี หรืองานเฉลิมฉลองต่างๆ
ในธรรมเนียมดั้งเดิม การไหว้ครูอย่างสมบูรณ์มักประกอบด้วยดอกไม้สำคัญ 4 ชนิด ได้แก่ ดอกมะเขือ หญ้าแพรก ดอกเข็ม และข้าวตอก ซึ่งแต่ละชนิดล้วนมีความหมายลึกซึ้งสะท้อนถึงคุณลักษณะที่พึงปรารถนาในตัวศิษย์ ทั้งในด้านการเรียนรู้ ความขยันหมั่นเพียร ความมุ่งมั่น และความบริสุทธิ์ใจ มาร่วมรำลึกและทำความเข้าใจความหมายอันดีงามของธรรมเนียมนี้ไปพร้อมกัน!
ดอกมะเขือ
มีลักษณะโน้มต่ำ จึงเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนน้อมถ่อมตน การใช้ดอกมะเขือไหว้ครูช่วยให้ศิษย์พร้อมที่จะเรียนรู้และเติบโตในวิชาต่างๆ เช่นเดียวกับมะเขือที่มีเมล็ดมากและงอกงามง่ายในทุกที่
หญ้าแพรก
มีลักษณะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและแพร่กระจายไปได้มาก จึงเป็นสัญลักษณ์ของสติปัญญาที่จะเจริญงอกงามและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว หากนำหญ้าแพรกและดอกมะเขือไหว้ครู สติปัญญาของศิษย์จะเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
ดอกเข็ม
มีปลายแหลม จึงสื่อถึงสติปัญญาที่แหลมคม และรสหวานของเกสรดอกเข็มแสดงถึงประโยชน์และความสดชื่นจากการเรียนรู้ ทำให้ชีวิตมีความหวานและประโยชน์จากความรู้
ข้าวตอก
เป็นสัญลักษณ์ของความมีระเบียบวินัย แม้คนจะมีความซุกซนหรือเกียจคร้าน แต่การเรียนรู้ต้องควบคุมตนเองให้มีระเบียบ หากไม่ควบคุมตนเองจะเหมือนข้าวที่ถูกคั่วแต่ไม่สามารถกลายเป็นข้าวตอกได้