14 สิงหาคม 2567 ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) นายสนธิญา สวัสดี นักร้องเรียน เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนให้ ตรวจสอบ และดำเนินคดี "แอ๊ด คาราบาว" และ"ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ ค่ายหนึ่ง" ในประเด็น
1. ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์
2. หมิ่น ระบบการทำงานศาล
3. กระทำการหมิ่นต่อสถาบันตามมาตรา 112
โดย นายสนธิยา กล่าวว่า ตนเองในฐานะประชาชนคนไทย และมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ เห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้ง 2 กรณีที่เกิดขึ้น อาจไปกระทบกับสถาบันตุลาการ ที่ตัดสิน เสร็จเด็ดขาดไปแล้วซึ่งอาจเป็นการชี้นำสังคม ให้เกิดความสับสนและแตกแยก
กรณีของบริษัทค่ายเพลงที่มีการโพสต์รูปภาพตุลาการศาลรัฐธรรมนูญขณะนั่งอ่านคำพิพากษายุบพรรคก้าวไกล และมีการตัดแต่งรูปภาพ ที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงการใช้ข้อความหรือถ้อยคำที่ชี้นำ ไปในทางที่อาจทำให้สังคมสับสน และไม่เคารพคำตัดสินของศาล ตนเองมองว่า พฤติกรรมทั้งหลายเหล่านี้น่าจะมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดเกี่ยวกับพรบ.คอมพิวเตอร์ว่าด้วยการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ส่วนกรณีของแอ๊ดคาราบาว ที่มีการโพสต์ลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์วิพากวิจารณ์การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในทำนองที่ว่าไม่มีความเป็นธรรม ตนเองมองว่า แอ๊ดคาราบาว โพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งอาจทำให้สังคมเกิดความสับสนและไม่เคารพคำตัดสินของศาล ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตนเองต้องร้องขอให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบและทำการไต่สวน ซึ่งความผิดอันเกี่ยวกับ มาตรา 112 และพ.ร.บคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จึงต้องอาศัยตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญและมีอำนาจตามกฎหมายตรวจสอบและไต่สวนให้เกิดความชัดเจนว่ามีความผิดหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การร้องขอให้มีการตรวจสอบ มีส่วนไหนหรือประโยคใดที่อาจมีความผิดตามกฎหมาย 112 หรือความผิดตาม พ.ร.บคอมพิวเตอร์บ้าง
นายสนธิยา กล่าวว่า ทั้งสองกรณีถือว่าชัดเจน ทั้งประโยคข้อความและรูปภาพที่โพสต์ จากนี้ต้องให้ตำรวจตรวจสอบและไต่สวน ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแต่ขอให้ตำรวจทำการตรวจสอบว่ามีความผิดตามกฎหมายหรือไม่
นายสนธิญา กล่าวอีกว่า กรณีของแอ๊ดคาราบาว ตนเองเคยร้องขอให้มีการตรวจสอบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 ครั้ง หลังจากที่ตนเองร้องแอ๊ดคาราบาวก็ได้ขอโทษผ่านสื่อจึงทำให้เรื่องเงียบหายไป จนมาครั้งนี้ตนเองก็ต้องทำหน้าที่ในฐานะประชาชนตามสิทธิ์รัฐธรรมนูญ ให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของศิลปินดังกล่าวเช่นเดิม ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นต้องรับโทษ แต่ทำเพราะเชื่อว่าน่าจะมีความติดตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตามถ้าผู้ถูกร้อง ต้องการฟ้องตนเองกลับ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพราะตนเองก็มีคดีความในเรื่องของหมิ่นประมาทมาแล้วกว่า 10 คดี ตนเองจึงรู้ว่าจะต้องต่อสู้หรือหักล้างข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทอย่างไร