svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เจ้าของรถเผยเพื่อนสาวชื่อ "พร" ยืมเก๋งขับเข้ากรุงฯ ไม่รู้มาก่อเหตุ

ตร.ทราบแล้ว คนขับรถชนแล้วหนี ก่อนหญิงเสื้อน้ำเงินเกาะติดฝากระโปรงรถ ที่แท้เป็นเพื่อนเจ้าของรถ ยืมขับเข้า กทม. ชื่อ "พร" หลังออกหมายเรียกยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ

จากกรณีโลกโซเชียลแห่แชร์คลิป “ชนแล้วหนี แยกวชิระ มุ่งหน้าสะพานกรุงธน” เป็นคลิป หญิงสาวเสื้อสีน้ำเงิน เกาะกระโปรงหน้าเก๋งสีขาว หลังขับชนแล้วหนี ก่อนพี่ๆไรเดอร์ขี่ จยย.ปิดถนนเพื่อให้หนุดรถ แต่เก๋งขับยังขับฝาหนีไปจนได้ ต่อมาหญิงเสื้อนำเงินไปแจ้งความดำเนินคดี หญิงสาวที่ขับเก๋งสีขาว จนเป็นข่าวดังเมื่อวานนี้


26 กรกฏาคม 2567 ล่าสุด พ.ต.ท.ชัยธัช เชียงทา รองผู้กำกับ สืบสวน สน.ดุสิต ระบุว่า หลังจากที่ผู้บาดเจ็บมาแจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิต แล้วก็ได้ออกหมายเรียกคู่กรณีให้เข้ามาให้ข้อมูล เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม แต่ก็ยังไม่เข้ามาพบพนักงานสอบสวน และทราบว่าเจ้าของรถเก๋ง ฮอนด้า บริโอ้ สีขาว ใรคลิปที่เป็นข่าว เป็นผู้ชาย ตำรวจได้ประสานไปแล้วจนทราบว่า ผู้หญิงที่ปรากฎในคลิป

 

เป็นเพื่อนของเจ้าของรถ ชื่อ "น.ส.พร" และได้ยืมรถขับมาที่กรุงเทพฯ แต่ไม่ได้บอกว่าทำอะไร รวมถึงเจ้าของรถได้โทรศัพท์ไปหา น.ส.พร เพื่อให้มาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งทาง เจ้าตัวก็รับปากว่าจะเข้ามาเมื่อวานนี้ ( 25 กรกฎาคม) แต่เมื่อเช้าวันนี้ ตำรวจติดต่อไปอีกครั้งก็ติดต่อไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ได้ขอให้สืบจังหวัดกาญจนบุรี ช่วยติดตามตัว

 

เมื่อถามว่า พฤติการณ์ของ น.ส.พร ที่จงใจขับรถด้วยความเร็วเพื่อสะบัดตัวผู้บาดเจ็บให้ตกออกจากรถนั้น ถือเป็นการเจตนาทำร้ายผู้อื่นให้เป็นอันตรายหรือไม่ พ.ต.ท.ชัยธัช ก็บอกว่าต้องดูที่พยานหลักฐานประกอบ แต่เบื้องต้นตำรวจจะดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย และขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น 
 

 

ต่อมาเวลา 13.10 น. ที่ สน.พญาไท คุณเปิ้ล ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้หญิงเสื้อน้ำเงินปรากฏภายในคลิป เดินทางมาที่ สน.พญาไท เพื่อแจ้งความเพิ่มเติมกับคู่กรณี ในข้อหาชนแล้วหนี เนื่องจากเกิดเหตุบริเวณหน้าโรงพยาบาลราชวิถีซึ่งเป็นพื้นที่ของ สน.พญาไท หลังจากที่มีการแจ้งความในข้อหาเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายไว้ที่ สน.ดุสิต

 

เจ้าของรถเผยเพื่อนสาวชื่อ \"พร\" ยืมเก๋งขับเข้ากรุงฯ ไม่รู้มาก่อเหตุ

 

ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายที่ สน.ดุสิต พนักงานสอบสวนได้แนะนำให้ตนเองมาที่ สน.พญาไท เพื่อแจ้งข้อหาชนแล้วหนีเพิ่มเติมกับคู่กรณี เนื่องจากว่าจุดที่เกิดเหตุเป็นของพื้นที่ สน.พญาไท เพราะจุดกลับบริเวณที่เกิดเหตุการณ์เกาะรถแยกอู่ทองใน พื้นที่ของ สน.ดุสิต

 

เจ้าของรถเผยเพื่อนสาวชื่อ \"พร\" ยืมเก๋งขับเข้ากรุงฯ ไม่รู้มาก่อเหตุ

 

ซึ่งก่อนที่จะเดินทางมาสน.พญาไท ตนเองได้โฟนอินเข้ารายการ "ล้วงข่าว" ของช่องเนชั่นทีวี และได้พูดคุยกับ อ.ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความชื่อดัง และได้รับคำแนะนำว่าจากการดูคลิปเหตุการณ์สามารถแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าได้ เนื่องจากเป็นการขับรถที่มีความเร็วและเห็นว่าตนเองอยู่บริเวณฝากกระโปรงรถแต่ก็ไม่มีการจอด ทำให้พฤติกรรมเข้าข่ายข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งหลังจากนี้ตนเตรียมที่จะเดินทางเข้าไปที่สน.ดุสิตเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนขับซึ่งเป็นคู่กรณีได้

สุดท้ายตนเองอยากฝากถึงคู่กรณีว่าให้มาพบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากว่าสิ่งที่ทำลงไปและสถานที่ที่เกิดเหตุเป็นจุดที่ไม่น่าจะทำได้ (เขตพระราชฐาน) ซึ่งเหตุการณ์ที่ผ่านมา 2 วัน ตนเองไม่มีอาการตกใจแล้ว แต่ยังมีการปวดระบมที่บริเวณซี่โครง และหัวเข่าทั้งสองข้าง