svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

กู้ภัยเล่านาทีฉุกเฉิน หนุ่มขับรถชนดะเสียชีวิตบนโรงพัก เผยเหตุล่าช้ามาจากหลายปัจจัย

กู้ภัยเล่านาทีฉุกเฉิน หนุ่มขับรถชนดะเสียชีวิตบนโรงพัก เผยเหตุล่าช้ามาจากหลายปัจจัย ขณะที่ตำรวจโรงพักยานนาวา ส่งพวงหรีดเเสดงความเสียใจ พร้อมอธิบายสาเหตุกับครอบครัว ด้านญาติยังคาใจใช้อะไรตัดสินว่าเมา

22 กรกฎาคม 2567 เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม กรณี "เเฟนสาว" นายกฤษณ์ อายุ 41 ปี อาชีพขับรถในสนามบิน ขับรถเฉี่ยวชนรถหลายคัน บนถนนเจริญกรุง ร้องเพจดังว่า ตำรวจสารวัตรเวร สน.ยานนาวา คิดว่า แฟนหนุ่มมีอาการเมา จึงคุมตัวไว้ที่ สน. นานกว่า 2 ชม. ก่อนหมดสตินำส่งโรงพยาบาล สุดท้ายเส้นเลือดในสมองเเตกเสียชีวิต โดยขณะนี้ทาง บช.น. ตั้งกรรมการสอบเรื่องดังกล่าว

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี เดินทางไปที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง เพื่อตามหาเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ นำตัวนายกฤษณ์ ส่งโรงพยาบาล ปรากฎว่า วันนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยออกเวร เเละ เป็นเวรหยุด จึงได้คุยทางโทรศัพท์ กับเจ้าหน้าที่กู้ภัย ชื่อว่า คุณเล็ก นามเรียกขาน นาวา 003 ทราบว่า ช่วงเย็นวันที่ 13 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ตนเข้าเวรอยู่ได้เห็นคลิปว่า มีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ป้ายเขียว ขับรถเฉี่ยวชนชนรถยนต์หลายคัน ตั้งเเต่หน้าโรบินสัน บางรัก มาถึงทางเข้าโรงเเรมเเชงกาลีล่า ไม่มีคนเจ็บ เเต่มีผู้เสียหายหลายราย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เข้าเวรไปตามปกติ 

 

กระทั่งเวลา 19.00 น. ได้รับวิทยุเเจ้งจากลูกข่ายยานนาวา ให้ช่วยมาเปิดประตูรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ มีคนเมาสุราให้หน่อย เหตุเกิดตั้งเเต่ช่วงเย็นเเล้ว เเต่ตำรวจยังเปิดประตูรถไม่ได้ ตนเเละเพื่อน อีก 1 คน จึงรีบไปที่ สน.ยานนาวา ซึ่งก็พบว่า รถฟอร์จูนเนอร์ถูกนำมาจอดอยู่เเล้ว ไปถึงก็เวลา 20.00 น. กว่า ๆ นำไฟฉายส่องดูในรถพบว่า ชายในรถส่ายหัวไปมาเหมือนอาการคนมึนเมา และอาเจียรออกมาเต็มบริเวณหน้าตัก

กู้ภัยชี้ช้าเพราะคู่กรณี ให้เปล่าเเอลกอฮอล์ 

จากนั้นตำรวจขอให้เปิดประตูรถ  ตนก็ใช้เวลานานเกือบ 15 นาที กว่าจะเปิดประตูรถได้ จากนั้นก็ลดบานกระจกลงทั้ง 4 บาน ถามตำรวจว่าจะเอาอย่างไรต่อ ทางจราจรก็บอกว่าให้รอร้อยเวรก่อน ซึงเวลานั้นเป็นช่วงคุยกับญาติ อีกเกือบ 15 นาที จากนั้นรอยเวรจึงเเจ้งให้กู้ภัยนำคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ ขึ้นมาบน สน. ตนจึงช่วยกับตำรวจจราจร หิ้วปีกนายกฤษณ์ ขึ้นไปบน สน.
กู้ภัยเล่านาทีฉุกเฉิน หนุ่มขับรถชนดะเสียชีวิตบนโรงพัก เผยเหตุล่าช้ามาจากหลายปัจจัย

คุณเล็ก เล่าว่า เวลานั้นตนไม่มั่นใจว่า คนขับนั้นเมาหรือไม่ รอคำสั่งจากร้อยเวรเพียงอย่างเดียว เพราะเขาจะเป่าเเอลกอฮอล์อย่างเดียว เเต่ตอนนั้นก็ไม่ได้กลิ่นเเอลกอฮอล มีเเต่กลิ่นอ้วก ตนก็ดมเเล้วไม่มีกลิ่นของมึนเมา จึงเดินไปถามคู่กรณีที่ถูกเฉี่ยวชนด้วยว่า เขาเมาจริงหรือ? เเต่คู่กรณีก็บอกว่า อย่างไรก็ต้องเป่าให้เห็น เขาอยากรู้ว่าเมาหรือเปล่า 
 

"ยืนยันว่าไม่มีใครปล่อยปะละเลย ซึ่งเคสนี้ตนก็อยากจะรีบนำส่ง เเต่ก็ต้องรอคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ รอพยานปากเอก คือคู่กรณี เขาอยากรู้ว่าเมาหรือไม่ ซึ่งมีผู้เสียหาย 4-5 คน มีทั้งชาวบ้าน รถรับจ้างขนส่ง ก็เลยช้า"

คุณเล็ก เล่าว่า จากนั้นเพื่อนของนายกฤษณ์ ผู้ตายเดินทางมาถึง ก็ยังมีการวิดีโอคลอให้คุยกับเเฟนเขา  เเฟนเขาเห็นก็บอกว่า อาการเป็นเเบบนี้เลยหรือ ทำไมไม่รีบนำส่ง รพ. เพื่อนเขาก็ถามตนว่า ให้รีบนำส่งได้ไหม ตนก็บอกว่าตอนนี้ตำรวจกำลังทำเรื่องส่งตัวให้อยู่ ส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ตนจึงประสานไปยังศูนย์เอราวัณ สำนักการเเพทย์ฉุกเฉิน ช่วยประสานโรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งสิทธิ์ของนายกฤษณ์ อยู่ที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ พุทธมณฑลสาย 3 ศูนย์เอราวันก็โยนให้เจ้าหน้าที่พยาบาลคุย ตนก็เเจ้งไปตามอาการที่เห็น

คุณเล็ก กล่าวว่า ยอมรับว่า ตอนเห็นข่าวตกใจมากว่า เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร เเละยังบอกกับเพื่อนร่วมงานของเขาว่า ทำไมให้เอาคนป่วยส่งโรงพยาบาลเลิศสินก่อน เพราะสำนวนของตำรวจลงในบันทึกส่งตัวไปที่ รพ.เลิศสิน ทางร้อยเวรจึงต้องเสียเวลา เเก้สำนวนใบส่งตัวใหม่ เพื่อส่งไปโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ พุทธมณฑลสาย 3 ซึ่งจริง ๆ ส่งโรงพยาบาลเลิศสินได้ ตามสิทธิ์ฉุกเฉินรักษาได้ 72 ชั่วโมง เเต่เพื่อนบอกว่าไม่ได้ ต้องส่งโรงพยาบาลตามสิทธิ์ ซึ่งไกลกว่ากันมาก พอตำรวจเเก้ไขสำนวนเอกสารส่งตัวเเล้ว ตนจึงรีบนำ นายกฤษณ์ นั่งรถเข็น ขึ้นรถกู้ภัย โดยมีแม่ของนาย กฤษณ์นั่งไปด้วย 

สำหรับสาเหตุที่เกิดความล่าช้ามาจากหลายปัจจัย ตนยืนยันว่า เป็นไปตามเหตุการณ์ ข่าวที่เกิดขึ้นไม่ไล่เรียงตั้งเเต่ต้นมา ซึ่งตำรวจก็ไม่ยอมชี้เเจงว่า มันเปิดประตูไม่ได้ จนต้องใช้วิธีลากรถฟอร์จูนเนอร์มาที่ สน. มาถึงก็ยังเปิดประตูไมได้ เพราะระบบรถเขาเป็นเซ็นทรัลล็อค ล็อคหมด คนขับก็ไม่มีสติในการเปิดประตูรถ ตำรวจก็ไม่กล้าทุบกระจกรถ เพราะกลัวถูกฟ้อง
นายกฤษณ์ ผู้เสียชีวิต

ตำรวจส่งพวงหรีดพร้อมอธิบายญาติ

จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดบุณยประดิษฐ์ ซึ่งวันนี้จัดพิธีสวดเป็นวันที่ 2 ก่อนจะทำพิธีฌปานกิจในวันพรุ่งนี้ โดยช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ยานนาวา นำโดย พ.ต.ท.ฐิติวัฒน์ พรศิวัฒน์ รองผู้กำกับสอบสวน สน.ยานนาวา เป็นตัวเเทน พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ยานนาวา เเละ พ.ต.ต.ธิระสาร นรินทร์สรศักดิ์ สารวัตรสอบสวน สน.ยานนาวา ผู้ที่จับตรวจเเอลกอฮอลล์ในวันนั้น นำพวงหรีดมาร่วมไว้อาลัยกับครอบครัว 
กู้ภัยเล่านาทีฉุกเฉิน หนุ่มขับรถชนดะเสียชีวิตบนโรงพัก เผยเหตุล่าช้ามาจากหลายปัจจัย

ทางตำรวจบอกว่า เตรียมข้อมูล ไทม์ไลน์ ทั้งหมดไว้ชี้เเจง พร้อมกับนำคลิปที่ช่วยกันพยุง นายกฤษณ์ ลงจากรถ มาเปิดให้กับเเม่ดู พร้อมบอกว่า ที่มาวันนี้มีเจตนาดี มีความห่วงใย อยากจะมาชี้เเจง มาอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ขณะที่พยายามอธิบาย เเต่เเม่ทำใจไม่ได้ ร่ำไห้ออกมา

พ.ต.ต.ธิระสาร นรินทร์สรศักดิ์ สารวัตรสอบสวน สน.ยานนาวา ยืนยันว่า มีเจตนาดี เเละวันที่เกิดเหตุ ใช้ความพยายามในการช่วยเหลือ พอค้นชื่อในระบบทราบว่า เป็นชื่อเข้าของรถ ก็รีบเคาะประตูรถให้เปิด เเต่นายกฤษไม่มีสติ เวลานั้นจึงทำอะไรไม่ได้ ต้องรอเรียกกู้ภัยมาเปิดประตูรถ ใช้เวลา 15 นาที เเละ ไม่เปิดประตู ไม่ทุบกระจกรถ ในที่เกิดเหตุ เพราะกังวลว่า จะโดนรุมทำร้าย จากคนที่มีอารมณ์ร่วมบนถนน เเละผู้เสียหาย ที่บีบเเตรกันระงม 

ลุงคาใจ ตร.ใช้อะไร ตัดสินว่าเมา 

ขณะที่ลุง ของผู้เสียชีวิต บอกกับตำรวจว่า ติดใจในประเด็นคลิปเสียง ระหว่างที่เเฟนนายกฤษณ์ โทรคุยกับตำรวจ และตำรวจพยายามที่จะเป่าเเอลกอลฮอล์  พร้อมถามตำรวจว่า เขาใช้ดุลพินิจอะไรตัดสินว่า นายกฤษณ์ หลานชาย เมา เเละคลิปภาพที่เอามาให้ดูวันนี้ ก็ไม่สมควรนำมาให้ครอบครัวได้ดู เพราะมันทำให้พวกเรายิ่งเศร้า ถ้าตำรวจตัดสินใจเร็วกว่านี้สักนิด ความสูญเสียไม่เกิดขึ้น เพราะเวลาตนเห็นรถกู้ภัยบนถนน ตนจะรีบให้ทางทันที เพราะคิดว่าทุกวินาทีมีค่าต่อชีวิตคน เเต่ก็ต้องขอบคุณที่ยังมาเเสดงความเสียใจ 

นอกจากนี้ ตำรวจยังพยายามอธิบายว่า การตรวจเเอลกอลฮอล์ ไม่ใช่การพิสูจน์ความผิด เเต่เป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ขับขี่ด้วย เพราะมีผู้เสียหายหลายราย ในทางเเพ่งเเละอาญา เเละเพื่อเป็นข้อมูลในชั้นศาล ที่ศาลจะใช้ในการพิจารณาความบริสุทธิ์
ตรวจยานนาวาเข้ามองพวงหรีดกับครอบครัวผู้เสียชีวิต