svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

2 ลูกสาว “เสี่ยคลั่ง” เปิดแผลที่ถูกพ่อทำร้ายแต่เด็ก

ลูกสาว คนโตและคนรองของ "เสี่ยคลั่ง" เปิดใจพร้อมโชว์ร่องรอยบาดแผล ที่เคยถูกพ่อทำร้าย เผยไม่อยากให้เกิดเรื่องราว รองหรั่ง ถูกยิงเสียชีวิต พรุ่งนี้จะไปร่วมงานศพด้วย

กรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุชายอายุ 49 ปี มีอาการคลุ้มคลั่งและมีอาวุธปืน ใช้อาวุธปืนตีทำร้ายบุตรสาวและกักขังไว้ในบ้านพักย่านพระราม 2 แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ซึ่งระหว่างระงับเหตุและเจรจาต่อรอง ชายคนดังกล่าวได้เปิดประตูออกมาและใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายนัด 

 

เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม เสียชีวิต และ ด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผบ.หมู่ ป.สน.ท่าข้าม ได้รับบาดเจ็บนั้น

 

ล่าสุดเวลา 16.13 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุได้มีโอกาสพูดคุยกับ น.ส.มิ้ว อายุ 23 ปี ลูกคนโต และ น.ส.มิ้น อายุ 22 ปี ลูกคนรอง ซึ่งเป็นลูกคนที่สอง ที่มีภาพปรากฏออกไปที่ยืนตะโกนอยู่หน้าบ้าน

 

โดย น.ส.มิ้ว  เปิดเผยว่า ตอนนี้ร่างของคุณพ่ออยู่ที่นิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อชันสูตร ส่วนเรื่องที่ได้รับบาดเจ็บนิดฟกช้ำนิดหน่อย ส่วนน้องอีกคนนึงที่อายุ 15 ปี หัวแตกนิดหน่อยจากการถูกด้ามปืนของพ่อฟาด เนื่องจากพ่อทะเลาะกับน้องเพราะว่าน้องไม่ยอมให้โทรศัพท์กับพ่อ เพื่อไปโทรหาแม่ ซึ่งพ่อเป็นคนอารมณ์ร้อนบ่อย และเคยกระทบกระทั่งกับลูก ส่วนมากจะระงับอารมณ์พ่อให้เย็นลง โดยการเงียบเพื่อให้ใจเย็นลง ซึ่งในวันเกิดเหตุตนและน้องอายุ 15 ปี และ 10 ปี มาช่วยงานพ่อตั้งแต่เวลาประมาณเกือบ 11.00 น. วันเกิดเหตุ และหลังจากนั้นพ่อก็มีอารมณ์โมโหทั้งวัน

ภายหลังจากนั้นพ่อได้จับตัวน้องที่ 10 ปี เพื่อที่จะแลกตัวกับแม่ ขณะนั้นพ่อก็ได้มีการดื่มสุราไปด้วย ตนคิดว่าพ่อไม่ได้ตั้งใจในการยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ คิดว่าคงตกใจจึงลงมือ ดูจากสีหน้า ซึ่งพ่อชอบลงไม้ลงมือกับคนในครอบครัวและทำร้ายข้าวของทำให้เป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง ที่ครอบครัวแยกกันอยู่ และ 2 เดือนก่อนคุณพ่อได้ลงมือทำร้ายแม่

 

2 ลูกสาว “เสี่ยคลั่ง” เปิดแผลที่ถูกพ่อทำร้ายแต่เด็ก

ส่วนเรื่อง ข่าวที่ว่าแม่นำเงินไปนั้นไม่จริง เพราะว่ากุญแจนั้นอยู่กับพ่อทั้งหมดพวกตนก็เข้าบ้านไม่ได้ เพราะว่าพ่อเปลี่ยนลูกกุญแจใหม่ ส่วนเรื่องการขาดยาคุณพ่อเคยรักษาอาการทางจิตจริงจังอยู่ 1 เดือน และออกมาจากการรักษา และรับยามาทานที่บ้าน ซึ่งคุณแม่เป็นคนพาไป ซึ่งไปรับยาอยู่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ คุณพ่อก็ไม่กลับไปรักษาอีกเลย เพราะคิดว่าตนเองไม่ได้ป่วยและคุณพ่อมักจะทานยาไม่หมด

 

ทั้งนี้ทางครอบครัวยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับทางครอบครัวของ รองหรั่ง และกล่าวขอโทษกับครอบครัวของ   ตนรู้สึกเสียใจมาพ.ต.ท.กิตต์ชนม์ จันยะรมย์ หรือรองหรั่ง รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม และไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น โดยในระหว่างกล่าวคำขอโทษครอบครัวของรองหรั่งลูกสาวคนโตก็ร้องไห้ออกมา ด้านครอบครัวก็ได้มีการพูดคุยให้กำลังใจกันและปรึกษาหาทางออก ว่าหลังจากนี้จะเอาไงกันต่อไปดี

ด้าน น.ส.มิ้น ได้เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รอบแรก ตนเองเกิดอารมณ์โมโหบันดาลโทสะ จึงได้ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย พอหลังจากนั้นตนติดต่อแม่ได้ พอแม่มาถึงตนก็ใจเย็นลงและพูดดีขึ้น ตนได้พูดคุยเจรจากับเค้า พ่ออยากให้แม่เข้าไป เพื่อแลกตัวกับน้องเล็ก อายุ 10 ขวบ มีการเปิดประตูกันแล้ว พอน้องก้าวขาออกมา พ่อตนก็ตะโกนมาว่ายังไม่ได้ แม่มึงยังไม่ได้เข้ามาเลย ตนก็เปิดประตูให้มันกว้างขึ้น หลังจากนั้นพ่อก็ตะโกนว่า มึงเปิดประตูทำเหี้ยอะไรแล้วหยิบอาวุธปืน หลังจากนั้นตำรวจก็มาเจรา รองหรั่งก็ทำเหมือนจะผลักพ่อให้ล้ม หรือเข้าไปชาร์จตัวคุณพ่อ หลังจากนั้นเหมือนพ่อตกใจ ถึงลั่นไก่เนื่องจากขึ้นลำปืนไว้แล้ว ขณะนั้นตนก็เข้าไปดึงตัวน้อง 10 ขวบออกมา และเดินเข้าบ้านได้ไปดูพี่สาวและน้องสาวอีกคนว่าอยู่ตรงไหน ยังโอเคอยู่ไหม และได้เข้าไปดูรองหรั่ง ว่ายังหายใจอยู่ไหมเพราะตนก็กลัวเหมือนกัน

 

2 ลูกสาว “เสี่ยคลั่ง” เปิดแผลที่ถูกพ่อทำร้ายแต่เด็ก

 

โดยพวกตนใช้วิธีการหนีโดยการเลาะระเบียงบ้านคนอื่นออกมาและใช้บันไดไม้ไผ่ปีนลงจากระเบียงบ้านของเพื่อนบ้าน แล้วหลังจากนี้ พรุ่งนี้ (วันที่ 22 กรกฏาคม 2567)ครอบครัวของตนก็จะเข้าไปงานศพของรองหรั่งด้วย จริงๆตนไม่อยากให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น และยังรู้สึกเสียใจ รู้สึกผิดอยู่ ถ้ามีโอกาสพูดคุยกันได้ก็อยากให้คุณพ่อไปพบหมอเพื่อรักษาเพื่อให้ผ่อนคลายจากความเครียดมากขึ้น พร้อมทั้งตอบประเด็นที่ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ตน อยากให้ทุกคนเข้าใจตนด้วย ว่าตนก็ไม่รู้จะให้ทำยังไงอย่างน้อยตนก็ช่วยชีวิตน้อง 10 ขวบ ของตนให้รอดชีวิตออกมาได้ และอยากให้รู้ว่าตนผ่านอะไรมาบ้าง ทั้งถูกขังและถูกทำร้ายร่างกาย

 

ทางด้านคุณแม่ยังมีอาการตกใจ กลัวและเสียใจอยู่ เรื่องรองหรั่ง โดยในระหว่างเกิดเหตุคุณแม่ก็ภาวนาขอให้รอด ส่วนเรื่องปืนของพ่อคุณพ่อซื้อมาตั้งแต่ตนตอนอายุ 12-13 ขวบ เท่าที่จำได้พ่อมีอาวุธปืน 4 กระบอก เท่าที่จำความได้พ่อเคยไปฝึกซ้อมยิงปืนแค่ 2 ครั้ง และ 2-3 ปี ที่ผ่านมาคุณพ่อก็จะมีการเอาปืนมาใช้ข่มขู่พวกตนบ้าง

 

โดยภายหลังจากการพูดคุยสัมภาษณ์เสร็จ  ทางด้านลูกสาวคนโตและคนรองก็ได้มีการเปิดโชว์ร่องรอยบาดแผลบริเวณแขน ของลูกคนโต และ แผลเหนือคิ้ว ของลูกคนรองคนที่สอง