svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ไม่ได้มีแต่ในแก้วชา ตร.เจอไซยาไนด์ในอาหารมื้อสุดท้าย 6 เวียดนามเสียชีวิต

ไม่ได้มีแต่ในแก้วชา ตำรวจตรวจเจอ "ไซยาไนด์" ในอาหารมื้อสุดท้าย 6 เวียดนามเสียชีวิต นอกเหนือจากที่แก้วชา ขณะที่ผลการตรวจกระเป๋าเดินทาง พบไซยาไนด์ซุกในกระเป๋าหญิงผู้ต้องสงสัย เร่งตรวจสอบนำเข้าหรือสั่งซื้อในไทย และพิสูจน์ให้ชัดว่าเป็นของใคร

19 กรกฎาคม 2567 เป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก กรณี 6 ชาวเวียดนาม ถูกวางยาเสียชีวิต ภายในโรงแรมหรูย่านราชประสงค์ ซึ่งจากการสอบสวนของตำรวจคาดว่า เกิดจากปมปัญหาเรื่องหนี้สินนับสิบล้านบาท ที่คนลงมือก่อเหตุสันนิษฐานว่า "เชอรีน" คือ 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต และใช้ "ไซยาไนด์" ในการก่อเหตุ

ล่าสุด มีรายงานการตรวจหลักฐานที่เป็นกระเป๋าเดินทาง จำนวน 8 ใบ ของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย อย่างละเอียด พบวัตถุบางอย่างในกระเป๋าเดินทางของผู้เสียชีวิตหญิงชาวเวียดนาม ที่ห่อหุ้มด้วยพลาสติกซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทาง ตรวจสอบพบว่า เป็นสารไซยาไนด์ ซึ่งตำรวจเร่งตรวจสอบว่าสารดังกล่าว นำมาจากต่างประเทศหรือมีการสั่งซื้อภายในประเทศไทย และการพบไซยาไนด์จะทำให้บ่งชี้ได้ว่า บุคคลใดเป็นผู้ลงมือสังหารหมู่
กระเป๋าเดินทางของกลุ่มผู้เสียชีวิตชาวเวียดนาม 6 ราย
 

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่า มีสารไซยาไนด์ปนเปื้อนในอาหารบางชนิด ที่อยู่บนโต๊ะห้องเกิดเหตุอีกด้วย ซึ่งจะหมายความว่า ไม่ได้มีแค่ในเครื่องดื่มเท่านั้น และจากภาพอาหารจะเห็นได้ว่า มีอาหารบางชนิดที่ถูกแกะออกจากซีลพลาสติก แต่ก็ยังไม่มีการรายงานว่า เป็นอาหารชนิดใดที่พยสารไซยาไนด์

ซึ่งทางตำรวจยังต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ว่า ไซยาไนด์เป็นของบุคคลใด เพราะว่ามีหลักฐานหลายชิ้น และมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน จึงต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นของใคร แต่จากหลักฐานเบื้องต้นที่พบในขณะนี้ ตำรวจสามารถขมวดปมเหลือผู้ต้องสงสัยเพียง 2 รายจาก 6 ราย ที่เข้าข่ายเป็นผู้วางแผนสังหาร รวมถึงตำรวจยังต้องประสานไปยังตำรวจ FBI เนื่องจากชายชาวเวียดนามสัญชาติอเมริกัน ยังไม่มีข้อมูลปรากฎ และญาติก็ยังไม่มาติดต่อมา วนที่ว่าใครเป็นคนชงชา ตำรวจยังต้องรอผลการตรวจรายนิ้วมือแฝง เพื่อเทียบเคียงหาตัวคนที่ชงชา
อาหารปนเปื้อนไซยาไนด์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์ตำรวจ บอกถึงความคืบหน้าการตรวจวัตถุพยานในคดี ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งให้ดำเนินการตรวจสอบวัตถุพยานให้ครบทุกด้าน ทั้งผลดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ และการตรวจหาสารพิษ โดยจะรอผลออกมาให้พร้อมกันทั้งหมดก่อน จึงจะมีการรายงานผู้บังคับบัญขา และแถลงข่าวผลการตรวจสอบทั้งหมดโดยละเอียด เพราะมีวัตถุพยาน 60 - 70 กว่ารายการ ที่ส่งมาทำการตรวจสอบและเป็นลักษณะของการทยอยส่งมา 

ล่าสุดก็เพิ่งจะมีวัตถุพยานจากกระเป๋าที่มาเมื่อวาน (18 ก.ค.) ช่วงเย็น และส่งมาวันนี้ (19 ก.ค.) เพิ่มเติมอีก จึงต้องดำเนินการให้ครบทั้งหมด เนื่องจากการตรวจสอบวัตถุพยานแต่ละชิ้น ต้องใช้ระยะเวลา 8 - 9 ชั่วโมง โดยจะต้องแยกการตรวจเป็นการตรวจหาดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือแฝง จากการสัมผัสวัตถุพยานพยาน และหากเป็นการตรวจหาสารพิษ ก็จะให้กลุ่มงานยาเสพติด เป็นผู้ทำการตรวจสอบ ดังนั้นขอให้ตำรวจได้ทำงานก่อน เพื่อให้เกิดความครบถ้วนทุกด้าน
ถ้วยชาที่ตรวจพบไซยาไนด์ในครั้งแรก