เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 4 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.เกาะจันทร์ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ได้พบกับ นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความของอาจารย์น้องไนซ์ “เชื่อมจิต” หรือทนายธรรมราช เผยว่า ตนก็ได้ติดตามข่าวจากสื่อต่างๆ เรื่องกรณีซื้อขายวุฒิ ปลอมจากต้นอ้อเป็นหนึ่งต่อมาทางต้นอ้อ ก็ออกมาโต้ข่าวว่าเป็นเรื่องเท็จไม่เป็นความจริงและให้ท้าผู้เสียหายนำหลักฐานไปแจ้งความหากเป็นความจริง และต่อมาผู้เสียหายได้นำหลักฐานมาให้สื่อนำเสนอและมีข้อมูลแชทรับผลออกมาทีละหน่อยจนกระทั่งเป็นเรื่องใหญ่โต ตนดูแล้วน่าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
"และจากข้อสังเกตคือผู้เสียหายอยู่ที่จังหวัด สกลนคร แต่ไปเรียนที่จังหวัดพิษณุโลกถามว่าไปเรียนได้ไหม ก็ไปเรียนได้ แต่ทำไมถึงจะต้องไปถึงจังหวัดพิษณุโลก และข้อสังเกตในกรณีนี้คือคนที่เรียนปริญญาตรีทำไมต้องจ่ายค่าเทอมรวดเดียวและอีกข้อสังเกตคือทางมหาวิทยาลัยได้ออกมาโต้ข่าวไม่มีการซื้อขายวุฒิและออกวุฒิให้ บุคคลภายนอกแต่อย่างใดยิ่งเป็นการจ่ายค่าเทอมเงินรวดเดียว 130,000-150,000 ก็ไม่มีนโยบายจากทางมหาวิทยาลัยจึงเป็นข้อสังเกตได้ว่า อาจมีการซื้อขายกันจริง เพราะปกติเราจะจ่ายค่าเทมอมรวดเดียวเลยเหรอ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อน" ทนายธรรมราช เผยต่อ
ทนายธรรมราช กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องขายวุฒิตนก็ขอตรวจสอบก่อน และคนที่ออกมาแฉคือคุณปุ๊กกี้ และคุณลักษณ์ ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดของคุณต้นอ้อเป็นหนึ่งเป็นอย่างดีจึงคาดว่าข้อมูลน่าจะเป็นข้อมูลเป็นความจริงอย่างไรก็ตามก็ได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานทุกอย่างไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นความจริงถ้าเป็นความจริงตามที่ออกมาแฉก็เตรียมล้างคุกรอได้เลย
นอกจากนี้ ทนายธรรมราช เผยถึงคดีอาจารย์น้องไนซ์ “เชื่อมจิต” ว่า ส่วนเรื่องอาจารย์น้องไนซ์ก็ยังมีคดีฟ้องร้องกันอยู่เนื่องจากต้นอ้อเป็นหนึ่งได้เอารูปของอาจารย์น้องไนท์ไปโพสต์ลงบนสื่อโซเชียลรัวๆ ทำให้ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียงและมีการฟ้องร้องเรื่องคดีคดีความคุ้มครองเสรีภาพยังยังเป็นคดีอยู่บนศาลเยาวชนและครอบครัวที่จังหวัดสุราษฎร์ หนึ่งสิงหาและผู้ถูกร้องจะถูกมาไตร่สวนตามศาลเยาวชนและครอบครัว นัดในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ที่จะถึงนี้กับคดีของต้นอ้อเป็นหนึ่งซึ่งได้มีการคุย คุยและบอกแจ้งไปแล้วให้ลบแต่ทางต้นอ้อเป็นหนึ่ง ไม่ยอมลบ จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย