ครูดนตรีไทย ยอมรับละเมิดนักเรียนจริง แจ้ง 4 ข้อหา คลิปอนาจารในมือถือเพียบ

26 มิถุนายน 2567 ความคืบหน้ากรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนดัง ตั้งแต่อายุ 14 ปี พร้อมมารดาเข้าแจ้งความเอาผิดครูสอนดนตรีไทย ก่อเหตุล่วงละเมิดระหว่างสอนด้วยพฤติกรรมรุนแรง ซาดิสต์ ในห้องเรียนสอนดนตรีไทย ต่อเนื่องนานกว่า 2 ปี 

หลังเรื่องราวถูกเปิดเผย กลุ่มผู้ปกครองรวมตัวไปถาม ผู้บริหารโรงเรียน กลับได้รับคำตอบต้องที่ต้องอึ้ง ใช้เวลาสอบสวนนาน 6-7 เดือน กระทั่งต่อมา ชุดสืบสวน สน.ทองหล่อ ตามจับกุมครูคนดังกล่าวถึงในโรงเรียน พบหลักฐานเด็ดคลิปอนาจารเด็กชายในมือถือจำนวนมาก

ภายหลังการสอบปากคำ อาจารย์ชาย อายุ 37 ปี อดีตทหาร ยศ  จ.ส.อ.  โดยใช้เวลาสิบ ยาวนานมากกว่า 6 ชั่วโมง ล่าสุดตำรวจ สน.ทองหล่อ นำตัว สาสอบปากคำอีกครั้ง หลังจากเเจ้ง 4 ข้อกล่าวหา  ที่เกี่ยวกับอนาจารเเละการล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงการมีสื่อลามกอนาจารเด็กไว้ในความครอบครอง จะนำตัวส่งฝากขังในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.)

จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของครูผู้ก่อเหตุ ตั้งแต่ประมาณ 17.00 น. - 22.00 น. พบว่ามีทั้งภาพนิ่งและคลิปเป็นร้อย ๆ คลิป ในระยะเวลา 1 ปี กว่า ตั้งแต่ผู้เสียหาย อายุ 14 ปี เบื้องต้นเท่าที่เจอจะเป็นคลิประหว่างเด็กชายผู้เสียหายกับครูผู้ก่อเหตุทั้งหมด มีทั้งเกิดขึ้นในห้องดนตรีของโรงเรียน และสถานที่อื่น

สำหรับคลิปที่พบมีทั้งการร่วมเพศ บังคับให้เด็กใช้ปากกับอวัยวะเพศของครู มีการทำร้ายร่างกายระหว่างร่วมเพศ อาทิ เตะ ต่อย บีบคอ แต่ยังไม่เห็นว่าใช้อุปกรณ์อื่นร่วมด้วย ยังไม่ปรากฏว่าถูกปล่อยคลิปในอินเตอร์เนตด้วยหรือไม่ หรือมีการลบไปบ้างหรือเปล่า จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อ

ขณะที่ รอง ผอ.โรงเรียน ให้ข้อมูลว่า ทางโรงเรียนเพิ่งรับทราบเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน ตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริงแล้ว และเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งอาจารย์ที่ปรึกษา, ผู้ปกครอง, เด็กนักเรียน ที่เป็นผู้เสียหาย และอาจารย์ที่ถูกกล่าวหา มาพูดคุยสอบถามถึงรายละเอียดที่เกิดขึ้น

เบื้องต้นอาจารย์ที่ถูกกล่าวหา ให้การว่า เขาเอ็นดูลูกศิษย์คนนี้เป็นพิเศษ เพราะนักเรียนคนนี้อยู่ในชมรมดนตรีที่อาจารย์คนดังกล่าวทำการสอนอยู่ มีความสนิทสนมใกล้ชิดเป็นพิเศษ  และยังบอกอีกว่า อาจจะเป็นการสื่อสารผิดพลาดระหว่างผู้ปกครองของนักเรียนกับตัวนักเรียนเอง ซึ่งตัวเขาก็อยากจะขอพูดคุยทำความเข้าใจกับฝั่งผู้ปกครองของนักเรียนใหม่อีกครั้ง ซึ่งตนได้ถามถึงเรื่องรสนิยมทางเพศไปตามตรง อาจารย์คนดังกล่าวก็บอกว่า เขาเป็นชายแท้ มีภรรยาและไม่ใช่ LGBT แต่อย่างใด

เผยครูก่อเหตุซ้ำ จนเด็กไม่อยากไปโรงเรียน
ด้าน พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยหลังการคุมตัวครูหื่น ว่า จากการซักถามพบว่า ก่อเหตุตั้งแต่ พ.ค.66 ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายมีอายุเพียง 14 ปี ศึกษาอยู่ชั้น ม.2 ผู้ต้องหาคืออาจารย์สอนวิชาดนตรีไทยในโรงเรียน ได้มีการบังคับผู้เสียหายทั้งวันโรงเรียนเปิดและวันปิดภาคเรียนที่ต้องมาซ้อมดนตรี ซึ่งจะถูกบังคับให้กระทำแบบเดิม มากกว่า 100 ครั้ง 

นอกจากนี้ผู้ต้องหายังยอมรับว่า ได้มีการสอดใส่ จำนวน 2 ครั้ง เมื่อเดือน ต.ค. 66 และ ก.พ. 67 ขณะนั้นผู้เสียหายอายุเพียง 14 ปี จนตอนนี้อายุ 15 ปี ก็ยังมีการกระทำแบบเดิม จนถึงวันที่ 24 พ.ค. 67 เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมีการกระทำดังกล่าวรวมแล้ว 105 ครั้ง หลังจากนั้นผู้เสียหายก็ดึงดันไม่ยอมไปพบครู จนวันที่ 20 มิ.ย. ผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย ด้วยการเตะ 1 ครั้ง ผู้เสียหายจึงนำเรื่องทั้งหมดเล่าให้แม่ฟัง ก่อนไปปรึกษาที่เพจสายไหมต้องรอด 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 สั่งให้ฝ่ายสืบสวนไปที่โรงเรียน พบตัวครูจึงเชิญตัวมา สน.ทองหล่อ ได้ทำการตรวจสอบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และแฟลชไดรฟ์ 1 อัน พบภาพลามกอนาจารของเด็กผู้เสียหายจำนวนมาก สอดคล้องกับคำให้การของผู้เสียหาย ซึ่งคลิปเหล่านี้จะต้องนำมาขยายผลต่อ 

วันนี้นำผู้ต้องหาเองมีการพิมพ์ลายนิ้วมือ สอบปากคำ และแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมาย ในชั้นจับกุม เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ 

จากการสืบสวนไล่เรียงข้อมูลมีเยอะมาก ในมือถือยังพบคลิปวีดีโอ เมื่อปี 65 ต่อเนื่องถึงปี 67 เชื่อว่าผู้เสียหายไม่ได้มีเพียงคนเดียว ในการถ่ายคลิปผู้ต้องหาไม่ได้บอกวัตถุประสงค์ ว่าถ่ายไว้เพื่อทำการค้า หรือเก็บไว้แบล็คเมลล์ผู้เสียหาย ซึ่งวันนี้ตลอดทั้งวัน พนักงานสอบสวนจะเค้นสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างหนัก ก่อนจะฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันพรุ่งนี้

ส่วนผู้เสียหายได้ส่งตัวไปตรวจร่างกายที่ โรงพยาบาลตำรวจแล้วเมื่อคืน เพื่อนำผลทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบในสำนวน