22 มิถุนายน 2567 จากกรณี “แจ๊ส ชวนชื่น” นักร้องและตลกชื่อดัง ถูกคนร้ายงัดเข้าไปในบ้านพักขโมยทรัพย์สินหลายรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรองเท้าที่สะสม ซึ่งมีราคาสูง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หรือ “ผู้การจ๋อ” ผบก.สส.บช.น. ให้เร่งติดตามคนร้าย เนื่องจากมีพฤติกรรมท้าทาย หลังก่อเหตุมีการไลฟ์สดเย้ยกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ส่งทีมสืบสวนนำโดย “สารวัตรแจ๊ะ” พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 สืบนครบาล แกะรอยการหลบหนี กระทั่งทราบว่าหลบซ่อนตัวตามแนวชายแดง จึงบุกรวบ “บู๊” พี่เมียแจ๊ส ที่ริมชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ในระหว่างจับกุม บู๊ ยังไม่สลด ยังพูดอย่างไม่เกรงกลัวว่า..
“ดีแล้วที่มาจับผม ไม่งั้นสัปดาห์หน้าผมจะกลับไปยิงมัน”
เปิดปฏิบัติการ แกะรอยรวบ "บู๊"
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. หลังสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ทีมสืบสวนทำงานอย่างหนัก กระทั่งทีมของ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. สืบทราบแหล่งกบดานและประสาร กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกับจับกุม นายภูมิพัฒน์ ศักดิ์นุภาพ หรือ บู๊ อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.458/2567 ลงวันที่ 26 มี.ค. 67
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกันสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์”
ากการตรวจสอบประวัติเคยถูกดำเนินคดี 8 คดี ประกอบด้วย..
1. ในช่วง พ.ศ.2546 – 2548 ก่อเหตุ 5 คดี
ทั้งนี้ การกระทำผิดทั้งหมดต่างกรรมต่างวาระกัน ถูกศาลตัดสินให้จำคุก โดยทั้งหมดถูกจำคุกอยู่เป็นเวลา 9 ปีกว่า ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 54 ถึงวันที่ 13 ก.ย. 63 ก็ได้รับการปล่อยตัว
2. วันที่ 9 ก.พ. 67 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “หมิ่นประมาทฯ” พื้นที่ สน.มีนบุรี
3. วันที่ 3 มี.ค. 67 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาฯ” พื้นที่ สน.ลาดพร้าว
4. วันที่ 25 มี.ค. 67 ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกันสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์” พื้นที่ สน.มีนบุรี (คดีล่าสุดเคส แจ๊ส ชวนชื่น)
ย้อนพฤติการณ์ "บู๊ ภูมิพัฒน์" ท้าทายระบบ
เรื่องราวมหากาพย์ของ นายภูมิพัฒน์ หรือบู๊ ที่ก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของนักแสดงชื่อดัง (แจ๊ส ชวนชื่น) และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี ออกหมายจับ โดยเจ้าตัวไม่ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ยังคงหลบหนีและโพสข้อความเฟสบุ๊ก และไลฟ์สด ตอบโต้ ยั่วยุ คุกคาม ฝ่ายผู้เสียหายจนกลายเป็นเรื่องบานปลายตามที่เป็นกระแสสังคมในตอนนี้
เรื่องนี้ถึงหูของ พล.ต.ต.ธีรเดช หรือ ผู้การจ๋อ เพราะได้เข้าไปรับชมไลฟ์สดของบู๊ มีการกล่าวท้าทายมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวได้ อันเป็นการแสดงถึงความไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ผู้การจ๋อ บอกว่า “เพื่อมิให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง” จึงส่งชุดสารวัตรแจ๊ะ ตะลุยชายแดนบูรพา ตามความเรียกร้องขอของประชาชนที่มาคอมเมนท์ในโลกโซเชียล โดยมีการบูรณาการสืบสวนร่วมกับ พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้วนำกำลัง สืบสวน จ.สระแก้ว และ ตม.จว.สระแก้วร่วมสืบสวนติดตาม
แต่แล้วชุดสืบสวนก็ต้องพบว่าเป็น “งานสุดหิน” เพราะความยากจากสภาพแวดล้อม การติดตามแทบจะไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ยังถูกซ้ำด้วยสายข่าว “กลุ่มผี” ที่คอยรายงานทุกความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ให้บู๊ทราบตลอด ทำให้ชุดสืบสวนต้องตามหลังก้าวหนึ่งอยู่ร่ำไป
"บู๊ ภูมิพัฒน์" เหมือนชอบใจโพสข้อความยั่วยุไล่ให้เจ้าหน้าที่ถอนกำลังไปจากพื้นที่ ความกดดันเริ่มถาโถมใส่ชุดสืบสวนหลังใช้เวลาหลายวันแล้วยังไม่เจอตัว
พล.ต.ต.ธีรเดช ปิดศึกชิงไหวชิงพริบสั่ง “ถอนกำลัง” ออกจากพื้นที่ “แสร้งล้มเลิกภารกิจ” ให้ตายใจก่อน “ทิ้งทุ่น” ทิ้งมือดียังคงแฝงตัวเป็นวนเวียนอยู่ กระทั่งได้พบกลุ่มผีสายข่าวของบู๊และได้สะกดรอยติดตามไปจนกระทั่งพบตัวเป็นๆ ช่วงชิงจังหวะนำกำลังปิดเกมได้จับกุมที่ จุดตรวจทหารพรานที่ 1201 ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในที่สุด
"บู๊ ภูมิพัฒน์" ปฏิเสธข้อหา พร้อมท้าทายไม่หยุด
ในชั้นจับกุม "บู๊ ภูมิพัฒน์" ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ในทางคดีตนไม่ได้เป็นคนขโมยเอารองเท้าไปตามที่ถูกแจ้งความ ตนเองโดนกลั่นแกล้งโดยใครบางคน เพราะเป็นคนชอบพูดตรงๆ แล้วตนเองก็เป็นคนที่ภาษีไม่ดีในวงเครือญาติ เพราะตนเองเคยก่อคดีร้ายแรงหลายคดี
จากความเกเรในสมัยก่อนจึงค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองหนีเก่งคาดไม่ถึงว่าจะถูกจับได้ เลยพลั้งเผลอท้าทายเจ้าหน้าที่ไปหลายครั้ง ขอโทษที่ทำลงไป ยืนยันว่าไม่ได้คิดจะมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ยอมรับว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่มาจับกุม จะกลับไปกรุงเทพฯ เพื่อชำระแค้นไอ้พวกนี้ให้หมด”
นำตัวส่ง สน.มีนบุรี จ่อฝากขัง 24 มิ.ย.นี้
หลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เราไม่ขอรับรางวัลแต่อย่างใด เราทำตามหน้าที่ที่ประชาชนต้องการที่พึ่งพิง แม้ผู้เสียหายจะเป็นผู้มีชื่อเสียง แต่อีกมุมก็คือประชาชนคนหนึ่ง เรารับรู้ความทุกข์ใจแล้วว่ามันมากเพียงใด และจากพฤติกรรมของผู้ต้องหามีลักษณะ คุกคาม ให้ร้ายกับฝ่ายผู้เสียหาย
ซ้ำยังแสดงออกถึงความไม่เกรงกลัวและท้าทายกฎหมาย ถือเป็นภัยสังคม ต้องใช้มาตการขั้นเด็ดขาดเพื่อมิให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บชน.) เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายภูมิพัฒน์ หรือบู๊ พี่เขย แจ๊ส ชวนชื่น ไปฝากขังที่ สน.มีนบุรี ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกันสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์”
ขณะตำรวจ ควบคุมตัว นายภูมิพัฒน์ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าต้องการชี้แจงอะไรหรือไม่ นายภูมิพัฒน์ ตอบว่า ขอโทษสังคมที่ท้าทายอำนาจรัฐ แต่ตนไม่ได้ขโมยรองเท้า และอาจเป็นการเข้าใจผิด ตนเคยบุกไปถ่ายรูปหน้าบ้านแจ๊ส แต่ไม่ได้ข่มขู่แต่อย่างใด และสำนึกผิดด้วย
เบื้องต้น จะนำตัว นายภูมิพัฒน์ หรือบู๊ ไปฝากขัง ศาลมีนบุรี ในวันที่ 24 มิถุนายน 2567