18 มิถุนายน 2567 ที่กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำสงขลา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำชุดปฏิบัติการพิเศษมัจฉานุ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และส่วนที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้าผลสอบปากคำลูกเรือ 8 คน ที่ถูกจับกุมพร้อมเรือของกลางบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำว่า ผู้ต้องหาให้การที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะข้อมูลจากไต้ก๋งเรือทั้ง 3 คน ที่ให้การรับสารภาพตรงกันว่า ได้รับคำสั่งจากเจ้าของเรือให้นำเรือออกจากฝั่ง
โดยไต้ก๋งเรือชื่อ เจพีใช้ GPS สำรองที่แอบไว้ใต้เตียงมาใช้เพื่อนำทางหลบหนี โดยมีเรือดาวรุ่ง แล่นตามมาเป็นลำที่ 2 ตามด้วยเรือกำไรเงิน เป็นลำสุดท้าย พร้อมยืนยันได้ทอดสมอเรือขนถ่ายน้ำมันที่กัมพูชา พร้อมส่งลูกเรืออีก 7 คน ขึ้นเรือขนาดใหญ่ไปด้วย โดยนายทุนเจ้าของเรือเป็นผู้จัดการ และจัดหาให้ทั้งหมด พร้อมสั่งการให้ลูกเรือนำเรือมุ่งหน้าลงใต้ เป้าหมายคือจังหวัดปัตตานี
กระทั่งระหว่างทางหลบหนีในเขตน่านน้ำเศรษฐกิจพิเศษจำเพาะ ( ไทย-เขมร-เวียดนาม ) ใกล้มาเลเเซีย ปรากกฏว่าเรือดาวรุ่งเครื่องยนต์เสีย จึงถูกตามจับกุมได้ รวมถึงข้อมูลหลายอย่างโยงใยไปยังนายทุนที่ชื่อ ”เสี่ยจ.” แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่า สามารถเชื่อมไปถึงตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลา 20.00 น.ของวันนี้ (18 มิ.ย.) จะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหา ขึ้นเครื่องบินตำรวจ เพื่อไปสอบสวนเพิ่มเติมที่กองปราบปรามกรุงเทพฯ และดำเนินการตามกฏหมายอีกครั้ง ส่วนกรณีการสอบสวนว่า มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเอี่ยวด้วยหรือไม่นั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายใน 7 วัน หากมีความคืบหน้าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป