จากกรณีกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาแถลงข้อเท็จจริงตามที่มีผู้ร้องเรียนว่า มีบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก ได้ขายกากแร่สังกะสีและกากแร่แคดเมียมที่ฝังกลบในจังหวัดตาก ให้กับบริษัทหนึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาครกว่าหมื่นตัน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง เนื่องจากกากแร่ดังกล่าวเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งการขนย้ายจากบ่อฝั่งกลบที่จังหวัดตากออกมาที่จังหวัดสมุทรสาคร จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบด้านสุขภาพอนามัย เพราะเก็บใส่ถุงบิ๊กแบ็คในอาคารและนอกอาคารพันกว่าถุง จึงต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ประกาศเขตภัยพิบัติฯ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
4 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 11.00 น. นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร, ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร, สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้เข้าตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่ง พื้นที่ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร
ภายหลังใช้เวลาเข้าตรวจสอบประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครและคณะ ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า พบกากแร่แคดเมียมที่มาจากทางจังหวัดตากจริง ประมาณ 15,000 ตัน ทางอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้ทำการอายัดไว้แล้ว โดยกากแคดเมียมส่วนใหญ่ถูกเก็บไว้ในตัวอาคาร มีกองอยู่ภายนอกตัวอาคารราวๆ 100 ถุง
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร จะออกคำสั่งประกาศเป็นเขตภัยพิบัติโดยห้ามบุคคลหรือสิ่งอื่นใด เข้าไปภายตัวอาคาร รวมถึงห้ามมีการหล่อหลอมแคดเมียมโดยเด็ดขาด และให้ทางอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ออกคำสั่งขนย้ายกากแร่แคดเมียมทั้งหมดออกจากจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อส่งกลับไปยังบริษัทต้นทางที่จังหวัดตาก
เพราะกากแร่ตัวนี้ตาม EIA แล้ว ห้ามขนย้ายออกมาจากจังหวัดตาก โดยจะให้เวลารีบดำเนินการภายใน 7 วันนับจากนี้ ส่วนกากแร่แคดเมียมตัวนี้ถูกขนย้ายมาอยู่ที่โรงงานในจังหวัดสมุทรสาครได้อย่างไรนั้น ก็ต้องไปตรวจสอบที่อุตสาหกรรมจังหวัดตาก ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้ขนย้ายออกมา
นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่า โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้กักเก็บและบดย่อยกากอุตสาหกรรม และหล่อหลอมอะลูมิเนียมเท่านั้น แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้หล่อหลอมกากแคดเมียม ดังนั้น การกระทำของโรงงานจึงถือว่ามีความผิดฐานประกอบการ (หล่อหลอมแคดเมียม)โดยไม่ได้รับอนุญาต และยังเก็บวัตถุเป็นพิษโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย มีโทษสูงสุดทั้งจำและปรับ
กากแคดเมียมตัวนี้ เป็นกากที่ถูกทำลายฤทธิ์แล้วก่อนลงสู่หลุมฝังกลบที่จังหวัดตาก แต่การนำออกจากหลุมที่จังหวัดตากมาที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อทำการหล่อหลอมกากแร่แคดเมียมนั้นเป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้อย่างเด็ดขาด
นายพุทธิกรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากความผิดที่พบขณะเข้าตรวจสอบแล้วนั้น ยังต้องรอผลการตรวจสอบจากฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งจากเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมฯ ว่าสารแคดเมียมมีการกระจายออกสู่ภายนอกตัวอาคารหรือไม่ , สาธารณสุขมีการตรวจหาว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมหรือไม่ และ ปทส.ทำการสอบโดยเชิงลึกว่า มีการหล่อหลอมกากเหล่านี้ไปบ้างแล้วหรือไม่ เป็นต้น
ด้าน ตัวแทนโรงงาน บอกว่า กากแคดเมียมทั้งหมดนี้เริ่มมีการขนย้ายเข้ามาเก็บกองไว้ที่โรงงานตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 ใช้เวลากว่า 3 เดือน ซึ่งหลังจากที่หน่วยงานราชการเข้าตรวจสอบแล้วสั่งให้ขนย้ายกากแคดเมียมทั้งหมดเข้าไปภายในตัวอาคารก่อน ก็จะรีบดำเนินการให้เสร็จภายในวันเดียว แต่เรื่องของการขนย้ายกลับไปยังจังหวัดตากภายใน 7 วันนั้น ก็จะรีบทำให้เร็วที่สุด ส่วนที่ว่ากากแคดเมียมทั้งหมดถูกนำมาทำอะไรนั้น ส่วนตัวแล้วไม่รู้ต้องถามทางเจ้าของโรงงาน รู้เพียงแค่ว่า เมื่อรับเข้ามาก็นำมากักเก็บไว้เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ได้รายงานเบื้องต้นว่า จากการเข้าตรวจสอบบริษัทฯ ปรากฏข้อเท็จจริง ดังนี้ 1.บริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานทั้งสิ้น 3 ใบอนุญาต ทั้งหมดเป็นโรงงานประกอบกิจการหล่อและหลอมโลหะประเภทต่างๆ จากการตรวจสอบภายในโรงงาน 3 จุด พบกากแคดเมียมและกากสังกะสี จำนวน 1,636 ถุง
สอบถามเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษที่ร่วมตรวจสอบได้ให้ความเห็นว่า กากแคดเมียมและกากสังกะสีดังกล่าวจะผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ 30 % เพื่อทำลายฤทธิ์ และอยู่ในสถานะแข็งตัว หากเก็บไว้ในสถานที่มิดชิดและไม่มีการชำระล้าง จะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ ดังนี้
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 และมาตรา 37 ของ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 อายัดกากแคดเมียมและกากสังกะสีที่พบทั้งหมดอยู่ภายในบริษัทฯ และมีคำสั่งระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ห้ามนำกากแคดเมียมและกากสังกะสีเข้าสู่กระบวนการผลิต ให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงานเก็บ และดำเนินคดีฐานประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ใช้อำนาจตามมาตรา 29 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ออกประกาศห้ามมิให้บุคคลใด ๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่โรงงานทั้ง 2 แห่ง เป็นระยะเวลา 90 วัน
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ใช้อำนาจตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 สั่งให้นำกากแคดเมียมและกากสังกะสีทั้งหมดกลับไปฝังกลบในบ่อเก็บตามเดิม
สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ดำเนินคดีกับผู้ประกอบการตามมาตรา 53 ของพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ในฐานความผิดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 8 โดยไม่บริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย
กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร ได้เก็บตัวอย่างน้ำในโรงงานและบริเวณโดยรอบโรงงานไปตรวจสอบหาสารปนเปื้อน จะทราบผลใน 2 สัปดาห์
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้ตรวจคัดกรองและตรวจหาสารแคดเมียมในปัสสาวะของพนักงานโรงงานว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ จะทราบผลใน 1 สัปดาห์
องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำจืด ได้ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นตรวจสอบอาคารโรงงานว่าเป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคารหรือไม่
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ดำเนินการสืบสวนการกระทำความผิดอาญาที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมในบริเวณดังกล่าว และกากแคดเมียมและกากสังกะสีดังกล่าวซึ่งผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ 30 % ปัจจุบันอยู่ในสถานะแข็งตัวและเสถียร หากเก็บไว้ในสถานที่มิดชิดและไม่มีการชำระล้าง จะยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แคดเมียม คืออะไร อันตรายแค่ไหน?
คณะเทคนิคการแพทย์ ม.มหิดล อธิบายว่า "แคดเมียม" จะพบปนอยู่กับแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แร่สังกะสี แร่ตะกั่ว หรือทองแดง ดังนั้นในการทำเหมืองสังกะสี จะได้แคดเมียมเป็นผลตามมาด้วย แคดเมียมจะพบได้ในอาหาร ในน้ำ ในเหมือง และในส่วนน้ำทิ้ง หรือน้ำเสีย หรือกลุ่มผู้สูบบุหรี่
นอกจากนี้ทั่วๆ ไป พบแคดเมียมใช้ผสมในสีที่ผสมที่ใช้กับบ้านหรืออาคาร ความร้อนที่ 321 องศาเซลเซียส จะเกิดเป็นควัน ทำให้มีการกระจายไปสู่สิ่งแวดล้อมได้ เมื่อร่างกายสูดดมสารแคดเมียม จะเก็บสะสมไว้ในตับ และส่วนของหมวกไต (renal cortex) สารแคดเมียมมี half life ในร่างกายมนุษย์ถึง 30 ปี
นอกจากนี้จะพบสารแคดเมียมได้ในปอด และมีความเสี่ยงเกิดอันตรายส่วนของไต ทำให้หน้าที่การกรองของไต (GFR) ลดลง แคดเมียมอาจได้รับโดยการกินอาหารทะเลที่มีการปนเปื้อนของสารแคดเมียม นอกจากนี้จะได้รับควันของสารดังกล่าวจากการสูดดมในเหมือง หรือสิ่งแวดล้อม ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีโรงงานปล่อยสารแคดเมียมมากับน้ำเสียของโรงงาน และปล่อยลงในโรงข้าว ทำให้เกิดการปนเปื้อนของแคดเมียมในเมล็ดข้าว และอาหาร
โดยพบว่าผู้ป่วยมากกว่าพันคน เกิดอาการเจ็บป่วยอย่างทรมาน โดยบริเวณ แขน ขา สะโพก และบริเวณฟัน จะพบมีวงแหวนสีเหลืองติดกับเหงือก เรียกว่า วงแหวนแคดเมียม และจะมีอาการปวดร้าวสะสมนานถึง 20-30 ปี และเมื่อร่างกายเดินไม่ไหว ก็จะเกิดการกดกระดูกสันหลัง เรียกว่าโรคอิไต-อิไต (Itai-Itai disease)
อาการที่ได้รับสารแคดเมียมจากการกิน จะทำให้เกิดการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มีปวดศีรษะ กล้ามเนื้อ ปวดท้อง และปอด โดยไตและตับจะถูกทำลาย ถ้าหากหายใจควันเข้าไปในปอด ก็จะมีอาการเจ็บคอ หายใจสั่น มีเสมหะเป็นเลือด น้ำหนักลด โลหิตจาง การหายใจจะลำบากมากขึ้น สุดท้ายก็จะไตวาย