28 กันยายน 2566 ความคืบหน้า กรณีการเข้าค้นบ้านของ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. โดย ตำรวจ PCT ร่วมกับตำรวไซเบอร์ มีตำรวจลูกน้องคนสนิท ถูกจับกุม 8 นาย รวมถึงพลเรือนด้วย จากคดีเว็บพนันเครือข่าย "มินนี่" ซึ่งภายหลังทั้งหมด ได้รับการประกันตัว ก่อนถูกสั่งเด้งเข้า ศปก.ตร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ขณะที่ส่วนของรูปคดี ทางพนักงานสอบสวนตำรวจ PCT เตรียมมีการสอบสวนขยายผล ปมนักข่าวรับเงิน เพื่อตรวจสอบเชื่อมโยงบัญชีม้า ตามที่นำเสนอไปนั้น
ล่าสุด วันนี้ (28 ก.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตำรวจ PCT ทยอยเดินทางเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี การจับตำรวจ 8 นาย เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่าย "มินนี่" โดยมี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (ผบช.กมค.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ PCT เป็นประธานการประชุม
โดยวันนี้จะพิจารณาสำนวนการสอบปากคำ ผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจ และพลเรือนรวม 17 คน ที่ถูกจับได้ และส่งตัวขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขังไว้แล้ว นอกจากนี้จะขยายผลติดตามจับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนีอีก 6 คน โดยมีหุ้นส่วนเว็บพนันบางคนที่ อยู่ในจำนวนนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะมีการขยายผลถึงบุคคล ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งการรับเงินจากบัญชีม้า ในหลาย ๆ ทอดต่อกัน โดยจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ เพื่อมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ซึ่งชุดสืบสวนพบว่า ในกลุ่มนี้มีทั้งอดีตตำรวจ พลเรือน สื่อมวลชน
บางคนอาจจะออกหมายเรียก มาให้ข้อมูลในฐานะพยาน และนำหลักฐานมาชี้แจงว่า เป็นการรับเงินมาจากใคร เพื่อให้เป็นประโยชน์ ต่อสำนวนขยายผล ถึงเจ้าเงินที่แท้จริง เนื่องจากแผนประทุษกรรมทางการเงิน ของเครือข่ายนี้พบว่า เงินจากออกจาก "มินนี่" ไปยังบัญชีม้า ก่อนที่จะส่งไปยังบุคคล ที่จะถูกออกหมายเรียก รวมทั้งหนึ่งในตำรวจ ที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว
สำหรับรายชื่อของสื่อมวลชนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยไปก่อนหน้านี้ ชุดสืบสวนยืนยันว่า ได้เชิญมาให้ข้อมูลภายใน 1 - 2 วันนี้ มีรายงานว่า นักข่าวรายหนึ่ง ได้รับการโอนเงินจากม้า เข้าบัญชีนักข่าวเดือนละ 30,000 บาท รวมจำนวน 10 เดือน รวม 3 แสนบาท
ส่วนตำรวจทั้ง 8 นาย ที่ถูกออกคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้จะทยอยมารายงานตัว จากนั้นจะมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 มี พล.ต.ท.ไตรรงค์ เป็นผู้สอบปากคำด้วยตัวเอง
"ไตรรงค์" ยอมรับ กังวลใจ หลัก"บิ๊กโจ๊ก" ฟ้อง
พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า มีความกังวลใจในการทำคดี เพราะมีระยะเวลาที่จำกัด ในการรวบรวมพยานหลักฐาน และจากข่าวที่ปรากฎ ทราบว่า ผู้ต้องหา จะมีการร้องต่อศาล เพื่อดำเนินคดีกับตน ในฐานะหัวหน้าชุดจับกุม ก็ต้องยอมรับให้ได้ เพราะการฟ้องกลับ ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา สามารถทำได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นยิ่งต้องทำคดีให้รอบคอบ และรัดกุมยิ่งขึ้น
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า แม้ว่าจะมีการแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ไม่ได้ส่งผลต่อการทำงาน เพราะทีมงานสืบสวนสอบสวน ยังคงเป็นชุดเดิม ที่จะดำเนินคดีต่อไป และ นโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ว่าที่ ผบ.ตร. ก็คงเหมือนเดิมคือ ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
ส่วนประเด็นเรื่องหมายจับ และหมายค้น ที่ระบุชื่อเป็นนาย และเป็นอาชีพรับจ้าง ไม่ได้ระบุตำแหน่งยศ หรือ อาชีพ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ที่ไปขอหมาย มีการชี้แจงข้อเท็จจริง ให้กับศาลไม่ได้มีการปกปิดข้อมูล
ส่วนการบันทึกข้อความในหมายไม่ได้ระบุยศ เนื่องจากว่าการขอหมายค้น ต้องถ่ายสำเนาออกมาจากทะเบียนราษฎร์ ซึ่งทุกคนเป็น "นาย" หมด และการดำเนินคดีฐานกระทำความผิดต่าง ๆ ไม่ได้เกี่ยวกับหน้าที่ จึงไม่อยากให้ตำแหน่งลงไปเพราะ ต้องให้เกียรติในเรื่องนี้
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า ได้ชี้แจงให้ศาลได้เห็นอย่างละเอียดก่อนพิจารณาแล้ว และหมายค้นก็ยึดตามสถานที่เป็นหลัก และหมายค้นก็ระบุว่า ค้นเพื่อหาบุคคลตามหมายจับ จึงไม่หนักใจในเรื่องนี้
ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่า จะมีการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง กับเครือข่ายพนันออนไลน์ รวมถึงการเรียกนักข่าว ไปให้ปากคำ อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งในวันนี้ตนจะเข้าไปพบพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เพื่อพูดคุยพิจารณาการออกหมายเรียก ผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพื่อเป็นพยานไว้ก่อน