8 กันยายน 2566 เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์สารวัตรทางหลวงเสียชีวิต ทยอยเดินทางมาที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 จ.นครปฐม เพื่อให้ตำรวจเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยการสืบสวนสอบสวนของ สภ.เมืองนครปฐม ได้เรียกตัวคนงานและแม่บ้านรวม 7 คน ที่ทำงานอยู่ในบริษัทรับเหมาก่อสร้างของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" มาเก็บดีเอ็นเอ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เก็บในส่วนเนื้อเยื่อของกระพุ้งแก้ม และพิมพ์ลายนิ้วมือ
ภายหลังเข้าเก็บดีเอ็นเอเสร็จสิ้น ทีมข่าวพยายามสอบถามกลุ่มคนงานที่เดินทางมาในวันนี้ 4 ราย แต่ทุกคนปฏิเสธตอบคำถาม มีเพียง 1 ราย ที่ตอบรับด้วยการพยักหน้าว่าอยู่ในที่เกิดเหตุ และได้ยินเสียงปืน แต่อ้างว่าตนเองอยู่ด้านหลัง จึงไม่เห็นเหตุการณ์ และเมื่อถามถึงเห็นคนล้างคราบเลือดหรือไม่ คนงานดังกล่าวไม่ตอบคำถามนี้ ส่วนกลุ่มแม่บ้านก็ปฏิเสธตอบคำถามเช่นกัน
นอกจากนี้ตำรวจชั้นประทวน 3 นาย ของ สภ.เมืองนครปฐม เดินทางมาเก็บดีเอ็นเอเพื่อประกอบสำนวนคดีด้วย ซึ่งภายหลังเก็บดีเอ็นเอเสร็จสิ้น ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้เดินทางกลับ
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจนายดังกล่าว ยอมรับว่า อยู่ในเหตุการณ์และไปบ้านกำนันนกจริง แต่ไม่ได้รู้จักกำนันนก ไม่รู้จักกับใครเลย และไม่ได้ไปบ่อย วันนั้นที่ไปเพราะหัวหน้างานชวนไป ให้ไปกินเฉย ๆ พร้อมยอมรับว่า ได้ยินเสียงปืนในวันเกิดเหตุ พอได้ยินเสียงปืนคนก็กระจาย แตกตื่นกันไป เลยไม่ได้ช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวถามถึงสัญชาตญานของตำรวจคิดจะจับกุมหรือไม่ นายตำรวจคนดังกล่าว ตอบไม่ชัด บอกเพียงว่า ก็สัญชาตญาณออกมา และยืนยันว่า วันเกิดเหตุ ตนเองไม่เห็นใครทำลายหลักฐาน ไม่ทราบกล้องวงจรปิดหายไปได้อย่างไร และก่อนเกิดเหตุ ส่วนตัวไม่ได้สังเกตเห็นกำนันนก พูดคุยกับผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 21 นาย เข้ามาเก็บดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเทียบเคียงและพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นคนทำลายหลักฐาน โดยเฉพาะเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิด ที่หลักเกิดเหตุพบว่าถูกลบทำลายทั้งหมด ซึ่งหากทราบว่าใครเป็นคนทำจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด