22 มีนาคม 2566 ความคืบหน้าการจับกุมตัว 3 ตำรวจ ตม.อุ้มรีดทรัพย์ชาวจีน และล่ามสาว เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ล่าสุด พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) เปิดเผยว่า จากการสอบสวนตลอดทั้งคืน ตำรวจทั้ง 3 นาย ยังคงให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่า เข้าไปปฏิบัติหน้าที่จริง แต่ไม่ได้เรียกรับเงินจากผู้เสียหาย และบางส่วนให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งทั้งหมดยังมีอาการเครียด จากการถูกดำเนินคดี และขอต่อสู่คดีในชั้นศาล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
พล.ต.ต.อัฎธพร กล่าวต่อว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.ท.ประวิต พลจังหรีด รอง สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 หนึ่งในผู้ที่อยู่ในชุดจับกุม และถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันก่อเหตุได้ขอเข้าพบพนักงานสอบสวน ฃเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยที่พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวเอาไว้สอบสวนพร้อมกับทั้ง 3 นาย ก่อนหน้านี้
โดยช่วงเช้าวันนี้ พนักงานสอบสวนได้ไปขอศาลออกหมายจับ ร.ต.ท.ประวิต เพิ่มเติม และทั้งหมดจะถูกควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตฯ ฝากขังผัดแรกในช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมกับคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ที่รู้ช่องทางกฎหมาย กลบเกลื่อนร่องรอยพยานหลักฐานได้เป็นอย่างดี แต่ยังสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนได้ถึงวันที่ 23 มีนาคม นี้
ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 1 ราย คือ พ.ต.ต.จิรภัทร บุญนำ สารวัตร กก.สืบสวน บก.ตม.1 ขณะนี้ได้ประสาน ผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายดังกล่าวช่วยประสานให้เข้ามอบตัว แต่ยังไม่มีการติดต่อประสานเข้ามาแต่อย่างใด
พล.ต.ต.อัฎธพร กล่าวอีกว่า ขณะที่ฝ่ายผู้เสียหายชาวจีน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของตำรวจคนเข้าเมืองประสานขอข้อมูล พยานหลักฐานต่างๆ และจะประสานให้ผู้เสียหาย เข้ามาแจ้งความ และให้ปากคำกับตำรวจ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการกรรโชกทรัพย์ ซึ่งหากพยานหลักฐานไปถึง ก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในทุกข้อหา
ส่วนที่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาความผิดเกี่ยวกับทรัพย์นั้น เนื่องจากผู้เสียหายที่มาแจ้งความเป็นล่ามแปลภาษาที่ ไม่ได้ถูกกรรโชกทรัพย์ไป ขณะที่ ผู้เสียหายชาวจีนที่พบว่าอาจมีการสวมบัตรประชาชนคนไทย เป็นความผิดอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งหากพบมีความผิด ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
พล.ต.ต.อัฎธพร กล่าวต่อไปว่า พลเรือนที่ทำหน้าที่ชี้เป้า และติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายนั้น ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่า มีจำนวน 1 หรือ 2 คน แต่ก็เตรียมจะพิจารณาออกหมายจับหลังจากนี้ ส่วนจะมีตำรวจเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ เป็นเรื่องในสำนวน ที่หากพบก็จะมีการเรียกตัวมาแจ้งข้อหาแน่นอน