กรณี น.ส.วรรณพิชา (สงวนนามสกุล) หรือ น้องดรีม อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย ที่ถูกเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่ง ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลอกขายรถกระมือสอง สภาพไม่พร้อมใช้งาน และได้เข้าร้องเรียนกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และได้แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
12 พฤศจิกายน 2565 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สภ.ปากเกร็ด ทนายเดชา พร้อมด้วย น้องดรีม ผู้เสียหาย ได้นัดหมายฝั่งของเต็นท์รถมือสอง มาตกลงกันที่ สภ.ปากเกร็ด โดยทางฝั่งเต๊นท์รถมือสอง มีนายฤทธิชัย เล่าภากรณ์ ทนายความ มาเป็นตัวแทนในการเจรจา
ทนายเดชา ระบุว่า ทางเต็นท์รถยินดีรับผิดชอบ ในเรื่องการยกเลิกสัญญา โดยยกเลิกแล้วก็ไม่ต้องผ่อน และไปรับรถคืนได้
ขณะที่ น้องดรีม ผู้เสียหาย บอกว่า มีตัวเลขในใจที่ต้องการเรียกค่าเสียหาย แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ค่าเสียหาย เท่ากับราคาค่าตัวรถ 409,000 บาท เพราะปัจจุบันไม่ได้ใช้รถ รวมกับค่าเสียโอกาสในการทำงาน ถึง 3 เดือน ค่าเสียเวลาในการมาเดินเรื่องซึ่งต้องทำให้ขาดงาน และความเสียหายร้านสเต็กริมทางที่ได้พุ่งชนหลังขับออกมาจากเต็นท์แล้วล้อหลุด รวมแล้วกว่า 500,000 บาท
ด้านทนายความของเต็นท์รถมือสอง อธิบายด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เต็นท์กับไฟแนนซ์ยังไม่ได้รับทราบถึงเจตนาที่แท้จริงว่า ผู้เช่าซื้อมีความประสงค์จะยกเลิกสัญญา แต่เมื่อทราบแล้ว วันนี้จึงได้เตรียมเอกสารมาเพื่อทำตามความต้องการในการยกเลิกสัญญาให้ทั้งหมดส่วนค่าเสียหาย และนำรถคืน จะต้องมีการหารือถึงค่าเสียหายที่แท้จริงให้ ซึ่งจะต้องขอดูเอกสารหลักฐานก่อน แล้วจะพิจารณาอีกครั้งว่า ในจำนวน 4 ข้อหลัก ที่ผู้เสียหายเรียกร้องมานั้น จะสามารถชดเชยให้ได้มากน้อยแค่ไหน อย่างกรณีของร้านสเต็ก ก็มีประกันภัยอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายอีก 1 ราย คือ น้องเฟิร์น ที่ซื้อรถไปจากเต็นท์เดียวกัน และไฟแนนซ์เดียวกัน เมื่อเดือนตุลาคม ได้เดินทางมาร่วมเจรจากับทนายความของเต็นท์รถด้วย
น้องเฟิร์น เล่าว่า รถของตนเองมีปัญหา พอออกรถมา พวงมาลัยหนักขวา ล้อรถน็อตจะหลุดตลอดเวลา น้ำมันเกียร์ชำรุด น้ำมันเครื่องก็ไม่มี ซึ่งเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ซึ่งตนเองได้ซื้อมาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม มารู้วันถัดมาว่ารถมีปัญหา ซึ่งยังไม่ได้เริ่มผ่อนทุกงวด เป็นไฟแนนซ์เดียวกัน ทั้งนี้ มีการพูดคุยกับเต็นท์กรณีที่จะขอคืนรถ แต่เต็นท์ให้เรียกทนายมาคุย เพราะมีการทำสัญญาไปแล้ว
ตนเองสนใจมาซื้อรถ โดยเห็นช่องทางโปรโมชั่น ทางหน้าเฟซบุ๊ก ที่ระบุว่า จองรถ แค่ 1,000 บาท ทำให้ตนเองก็ได้ทำการโอนจองไป พอเดินเรื่องเสร็จก็ให้โอนเงินเพิ่ม ค่าแม็กค่ายาง รวมเป็น 5,000 บาท ส่วนราคารถ ราคา 580,000บาท และค่าเสียเวลา ประมาณ 600,000บาท และเมื่อไปรับรถ พอรถไม่ตรงกับที่จอง ก็มีการเสนอการเปลี่ยนประกัน จาก 2 พลัส เป็นชั้น 1 ด้วย ซึ่งตนเองก็ต้องการที่จะให้ทางเต๊นท์ยกเลิกสัญญา และคืนรถ รวมถึงเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินรวมกว่า 600,000บาท เช่นกัน