จากกรณี น.ส.วรรณพิชา จารุจินดา ร้องขอความช่วยเหลือจาก ทนายเดชา หลังถูกเต็นท์รถมือสอง หลอกขายรถสภาพไม่ดี จนเป็นเหตุให้รถอุบัติเหตุทั้งทั้งที่เพิ่งออกจากร้านมาได้เพียงไม่กี่ร้อยเมตร
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา น.ส.วรรณพิชา เดินทางไปยัง สถานีตำรวจภูธร อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อเข้าเแจ้งความดำเนินคดีตามที่ทนายเดชาให้คำแนะนำ จากนั้น ผู้เสียหายรายนี้ ได้รับการประสานต่อไปยังตำรวจสายตรวจ ให้นำพาผู้เสียหายไปที่เต็นท์รถดังกล่าว เพื่อเข้าเจรจากับทางเต็นท์
หลังใช้เวลาเจรจานานกว่า 3 ชั่วโมง ยังไม่แล้วเสร็จ โดย น.ส.วรรณพิชา เดินทางออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า จากการเจรจา เบื้องต้น ได้ข้อสรุปว่า วันนี้ ทางเต็นท์รถ จะทำหนังสือนัดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อนำกลับไปให้กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพราะ เจ้าของเต็นท์รถที่เป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจทั้งหมด ไม่อยู่ ติดภารกิจต่างจังหวัด
โดยนัดหมายครั้งต่อไป คือ วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายนนี้ เวลาบ่ายโมง ให้ตนมาพบกับเจ้าของเต็นท์และมีตัวแทนของทางธนาคารเจ้าของสินเชื่อ รวมถึงพนักงานสอบสวน และ ทนายเดชา เข้าร่วมเจรจาหาข้อสรุป
เบื้องต้น ตนแจ้งความประสงค์ไว้ว่า ต้องการคืนรถคันดังกล่าว ไม่ขอรับการเปลี่ยน และขอยกเลิกสัญญาการเช่าซื้อกับทางธนาคาร เนื่องจากไม่รู้สึกปลอดภัย หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่อาจไว้วางใจในตัวเต็นท์รถแห่งนี้ เกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นในภายหลัง หากต้องใช้รถที่มาจากเต็นท์รถแห่งนี้
น.ส.วรรณพิชา กล่าวถึงบรรยากาศการเจรจาในวันนี้ว่า ตนเองรู้สึกว่า คู่เจรจาที่เป็นตัวแทนเต็นท์รถมือสอง เซลล์ มีท่าทางและใช้คำพูดที่ไม่ดี
"ตนและสามี ต่างตั้งใจซื้อรถคันนี้มาใช้ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ต้องแบกภาระหนี้สิน เกือบ 400,000 บาท แต่กลับไม่สามารถใช้งานได้ เพราะรถมันไม่ความปลอดภัย ซ้ำกลับต้องมาเจอกับคำพูดของเซลล์ และตัวแทนของเต็นท์"