18 ตุลาคม 2565 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยความคืบหน้า กรณีเข้าช่วยเหลืออดีตพยาบาล 3 ราย พร้อมลูกๆ อีก 2 ราย ที่ถูกนายฮารุ ฮวังสิริ หลอกให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจและใช้กลอุบายสารพัดกักขังหน่วงเหนี่ยว และอ้างเป็นหนี้กว่า 140 ล้านให้ทำงานใช้หนี้ ก่อนทำร้ายร่างกายด้วยการใช้น้ำร้อนราดจนบาดเจ็บ ภายในคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 8 กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถช่วยเหลือเหยื่อออกมาได้เมื่อวันที่ 16 ต.ค. และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย เมื่อวานนี้(17 ต.ค.) ว่า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตร.บุกช่วย 5 ชีวิตตกเป็นทาส ทำงานใช้หนี้อุปโลกน์นายทุนคลั่งลัทธิ (มีคลิป)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : จับแล้วแก๊งอ้างเป็นนักธุรกิจเกาหลี ลวงเหยื่อลงทุน ก่อนขังเป็นทาส 5 ชีวิต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : พ่อ 2 เด็กเหยื่อเจ้าลัทธิประหลาด ลั่นเอาผิดถึงที่สุด
ขณะนี้ผู้เสียหาย อดีตพยาบาลและลูกๆ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งอดีตพยาบาลมี 1 รายที่บาดเจ็บสาหัส และอีก 2 ราย อยู่ในช่วงการฟื้นฟูสภาพจิตใจ ส่วนผู้เสียหายที่ถูกนายฮารุ ฉ้อโกง เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวานนี้รวม 15 ราย โดยหลังจากนี้จะให้ผู้เสียหายทั้งหมดเข้ามาแจ้งความที่ สน.บวรมงคลในภายหลัง รวมถึงหากมีผู้เสียหายรายอื่นๆที่ถูกนายฮารุ หลอกลวง ฉ้อโกง ก็สามารถมาแจ้งความได้
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวต่อ จากการเข้าตรวจค้นห้องพักที่เกิดเหตุ พบว่า ภายในห้องที่ผู้ต้องหาเช่าไว้กักขังผู้เสียหาย มีการเขียนยันต์ด้วยลายมือของผู้ต้องหาเองติดไว้ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่า เป็นยันต์ที่เรียกว่าอะไร พร้อมตั้งแท่นสำหรับไว้บูชา และมีตำราตามความเชื่อบางอย่างอยู่ภายในห้อง
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่ถูกจับกุม คือ นายฮารุ ฮวังสิริ อายุ 39 ปี และนายตรีเพชรรัตน ณพชร อายุ 20 ปี ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในห้องขัง พบว่ายังไม่มีญาติหรือผู้เกี่ยวข้องเดินทางมาเยี่ยม โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำเพิ่มเติมโดยละเอียด โดยจะมีนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์มาร่วมสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อวิเคราะห์ว่าจะเข้าข่ายข้อหาค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่ และตลอดช่วงเช้าวันนี้(18 ต.ค.) ยังไม่มีกลุ่มผู้เสียหายเดินทางเข้ามาที่สน.เพิ่มเติมเช่นกัน
ขณะที่ เจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสอบถามข้อมูลว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายการบังคับใช้แรงงานหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีการค้ามนุษย์ หากมีการบังคับใช้แรงงาน ขู่ให้กลัว ก็จะเข้าองค์ประกอบการค้ามนุษย์ แต่ทั้งนี้ ต้องสอบร่วมกับสหวิชาชีพเพิ่มเติมด้วย ซึ่งจากการติดตามข่าว เชื่อว่ามีการบังคับ ส่วนแนวทางช่วยเหลือผู้เสียหาย ต้องมีการหารือกับกระทรวงฯอีกครั้ง