svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

"บิ๊กโจ๊ก" ฟ้อง 1 ใน ก.ตร. ให้ข่าวใส่ร้าย ชี้นำสังคม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ 

"บิ๊กโจ๊ก" มาตามนัด ยื่นฟ้อง 1 ใน ก.ตร. ให้ข่าวใส่ร้าย ชี้นำสังคม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ จ่อแจ้งเอาผิดเพิ่มอีกราย ยืนยันเดินหน้าใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ใช่การขู่ หรือฟ้องปิดปาก หากได้กลับ สตช. พร้อมอโหสิให้ ไม่คิดกลับล้างแค้น

25 มิถุนายน 2567  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล "บิ๊กโจ๊ก" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายื่นฟ้อง คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ท่านหนึ่ง ยศพลตำรวจเอก และเป็นกูรู ด้านกฎหมาย ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้น เพื่อตรวจสอบประเด็นความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีให้สัมภาษณ์ยืนยันข้อเท็จจริงให้ประชาชนและสื่อมวลชนเข้าใจว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเว็บพนันออนไลน์ หลังศาลอนุมัติหมายจับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ในคดีดังกล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า วันนี้ตนเองเดินทางมาใช้สิทธิตามกฎหมายยื่นฟ้อง คณะกรรมการ ก.ตร. ท่านหนึ่ง ในคดีอาญา ฐานความผิดฐาน หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาหรือใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ซึ่งบุคคลท่านนี่เป็นบุคคลที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นคณะกรรมการสอบสวนความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากพฤติการณ์ของ ก.ตร.ท่านนี้ มีการไปพูดยืนยันข้อเท็จจริงให้ประชาชนให้นักข่าวฟังว่า ตนเองกระทำความผิด จากการที่ศาลได้ออกหมายจับตนเอง ซึ่งตนเองขอ อธิบายว่า การที่ศาลออกหมายจับใครก็ตาม ตามหลักกฎหมายไม่ได้หมายความว่าบุคคลผู้นั่นจะต้องกระทำความผิด เพราะกรณีของตนเองการที่ศาลออกหมายจับ เพราะตนเองไม่ได้ไปรับหมายเรียก ไม่ใช่ว่าตนเองกระทำความผิด
\"บิ๊กโจ๊ก\" ฟ้อง 1 ใน ก.ตร. ให้ข่าวใส่ร้าย ชี้นำสังคม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ 

การที่บุคคลผู้นั่นเป็นคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง เพื่อมาตรวจสอบประเด็นความขัดแย้ง บุคคลผู้นั้นก็จะต้องมีหน้าที่ตรวจสอบประเด็นความขัดแย้ง นายกรัฐมนตรีให้มาสอบสวนรวมรวบพยานหลักฐานประเด็นความขัดแย้งระหว่างตนเอง กับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. แล้วรายงานให้นายรัฐมนตรีทราบ ไม่ได้ให้มาพูดเรื่องคดี มาพิพากษาคดีเอง 

จึงฝากถึงประชาชนว่า การที่ศาลออกหมายจับไม่ได้หมายความว่าจะกระทำความผิด เพราะจะต้องมีกระบวนการไต่สวนของศาลจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาใช้สิทธิชี้แจง เพื่อฟังความทั้งสองส่วนแล้วมาชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาคดี ดังนั้นตราบใดก็ตามที่ศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุดยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย เพราะบ้านเราใช้หลักบริสุทธิ์

ดังนั้นถ้าบุคคลใดเอาเรื่องเหล่านี้ไปแสดงความคิดเห็นในลักษณะวินิจฉัยคดี แสดงความคิดเห็นชี้นำสังคม ทำตัวแทนศาล เหล่านี้จะทำใหตนเองเกิดความเสียหาย และทำให้ประชาชนเชื่อไปแล้ว ว่าตนเองมีความผิดจริงรับเงินเว็บพนันจริง เพราะมีการพูดไปถึงว่า ‘เชื่อว่ามีความผิด’ 

กูรูเหล่านี้เกษียณ เอ้าท์ไปนานแล้ว ควรให้คนใหม่ๆเขาทำหน้าที่ กูรูบางคนก็เคยร้องไห้กับตนเอง อย่างคนที่ร้องไห้ ก็เคยมานั่งร้องไห้ที่โต๊ะม้าหินอ่อนในบ้านป่า ที่อยู่ในเมือง กับตนเอง ซึ่งโต๊ะนี้ก็ยังมีอยู่จริงในบ้านดังกล่าว ว่างๆจะพานักข่าวไปถ่ายรูปได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังบอกอีกว่า หากจะออกมาพูดในลักษณะให้ความรู้สามารถทำได้แต่ไม่ควรชี้นำสังคม และวันนี้ตนเองเดินตามหลักกฎหมาย วันนี้จะฟ้องก่อน 1 คน และวันศุกร์ ที่ 28 มิ.ย.จะฟ้องอีก 1 คน เพื่อไม่ให้ลุแก่อำนาจ และสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องผู้บังคับบัญชาระดับสูงด้วย
\"บิ๊กโจ๊ก\" ฟ้อง 1 ใน ก.ตร. ให้ข่าวใส่ร้าย ชี้นำสังคม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ 

"บิ๊กโจ๊ก" ไม่กังวล ประชุม ก.ตร. พรุ่งนี้
ส่วนการประชุม ก.ตร. ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) ก็ให้เป็นไปตามดุลพินิจของคณะกรรมการ ตนเองไม่ขอแทรกแซง แต่กระบวนต้องถูกต้องและชอบธรรม เคารพสิทธิ์ตนเองด้วย ซึ่งตนเองไม่กังวลว่า จะถูกครหาที่วันนี้ออกมายื่นฟ้องหนึ่งใน ก.ตร. ยืนยันตนเองมาใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่ใช่การขู่หรือฟ้องปิดปาก และไม่ได้ปรามาศใคร และวันนี้ตนเองรับราชการอยู่ต้องไม่พูดในสิ่งที่ผิด

ส่วนหลังจากนี้จะกลับหรือไม่กลับก็ไม่เปนไร แต่ต้องยึดหลักความถูกต้องและชอบธรรม จึงต้องออกมาสู้ตามสิทธิ วันนี้ถูกริดรอนสิทธิ ก็ต้องออกมา เพราะใครไม่โดนแบบตนเองก็คงไม่รู้ และการฟ้องร้องเป็นประเด็นเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท ส่วนจะมีการสกัดตนเองหรือไม่นั้น คงตอบแทนไม่ได้

ส่วนผลการประชุม ก.ตร. หากออกมาเป็นลบกับตนเองนั้น ก็ยังมีช่องทางที่จะเรียกร้องสิทธิ์ฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อได้ ตอนนี้เพียงรอคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)

ระบุ คดีเว็บพนัน ให้ศาลเป็นคนตัดสินผิดหรือถูก 
ทั้งนี้กรณีถูกดำเนินคดีเรื่องพนันออนไลน์นั้น ผิดจริงหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า คดีอาญาทุกเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ก็ขอให้ศาลเป็นคนตัดสิน ผิดก็คือผิดถูกก็คือถูก และถ้าบริสุทธิ์ใจก็ต้องกล้าเผชิญหน้าในการตัดสินคดี และมองว่า เป็นเรื่องดีที่ถือเป็นกระบวนการตรวจสอบให้ตนเองกลับมาทำหน้าที่ 

“เราเป็นผู้รักษากฎหมายเอง จะไปรับเงินเว็บพนันได้อย่างไร ก็คงไม่มียางอาย  ถ้าผมผ่านระบบตรวจสอบนี้ได้ ก็กลับมาทำงานให้ประชาชน” และหากตนเองผิดชัดเจน ก็ถือว่าเกมโอเวอร์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริง โดยเป็นความขัดแย้งหลายระดับตามที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงข่าวจริง 

อีกทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังยืนยันด้วยว่า ถ้าตนเองกลับไป ก็อโหสิให้ทั้งหมด ไม่ได้กลับไปเพื่อการล้างแค้น และมองว่า กระบวนการสกัดกั้นมีอยู่แล้ว ดิ้นต่อไปไม่มีประโยชน์  และวันนี้ความขัดแย้งมันต้องจบตอนนี้เพราะผบ.ตร.จะเกษียณแล้ว

ส่วนกรณีที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม นำรถส่วนตัวไปจอดที่จอดรถประจำตำแหน่งของตนเองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอ้างว่าพูดคุยกับสำนักงานของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์แล้วนั้น ยืนยันว่า ตนเองไม่ทราบเรื่อง ไม่มีการประสานใดๆมา และไม่ได้มีการดีลกันกับทนายตั้มที่ไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ