27 พฤษภาคม 2566 จากกรณีเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 66 ได้มีชายชุดดำจำนวนนับสิบคน บุกเข้าไปใช้กำลังทำร้ายพระ ชาวบ้าน ไวยาวัจกร ของวัดหิรัญญาราม หรือ วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย และได้บุกยึดครอบครองวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เจ้าอาวาสที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้อง ยังเข้าวัดไม่ได้มานานกว่า 1 เดือนแล้ว
ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจพิจิตร และตำรวจภูธรภาค 6 สนธิกำลังกันสืบสวน สอบสวน จนสามารถจับผู้กระทำผิดได้จำนวน 21 คน โดยเป็นชาวบ้าน 7 คน ชายชุดดำ 14 คน นำตัวมาสอบสวนและขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นตัวการ-ผู้ใช้จ้างวาน-ผู้สนับสนุน หรืออยู่เบื้องหลังและพบว่า ยังมีชายชุดดำอีก 2 คน ที่ร่วมกระทำผิดในครั้งนั้น ซึ่งจะออกหมายจับ
แต่ในส่วนของ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) นั้น ตำรวจ สภ.โพทะเล และชุดสืบสวนสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 6 ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงพาดพิงไปถึง ส.ว.กิตติศักดิ์ ดังนั้นจึงไปขออำนาจศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตร เพื่อจะขอหมายจับ แต่ศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตร พิจารณาแล้วไม่อนุมัติ แต่ให้ตำรวจไปดำเนินการออกหมายเรียก ส.ว.กิตติศักดิ์ เพื่อมาพบและแจ้งข้อกล่าวหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
27 พฤษภาคม 2566 เมื่อเวลา 10.30 น. นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และนายดุสิต ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอบึงนาราง คนสนิทของนายกิตติศักดิ์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.โพทะเล จ.พิจิตร เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนที่ตำรวจจะทำการออกหมายจับหลังพ้นวันที่ 1 มิถุนายน 2566 นี้
โดยวันนี้นายกิตติศักดิ์เดินทางมาด้วยรถเอนกประสงค์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว โดยหลังจากที่นายกิตติศักดิ์ เดินทางมาถึงสถานีตำรวจและเห็นสื่อมวลชนอยู่ด้านหน้าก็ไม่ยอมลงจากรถ ก่อนแอบเข้าไปด้านหลังสถานีตำรวจ เพื่อมาพบ พ.ต.ท.ประพาส อินถา รองผกก.(สอบสวน) ซึ่งทำหน้าที่พนักงานสอบสวนที่ชั้นล่าง โดยหลังจากที่ใช้เวลาพบพนักงานสอบสวนไม่ถึง 10 นาที นายกิตติศักดิ์ ก็เดินออกมาทางด้านหลังเหมือนเดิม และขึ้นรถโตโยต้า สีบรอนทอง อีกคันขับออกไป
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายกิตติศักดิ์ และนายดุสิต จำนวน 3 ข้อหา คือ 1.ผู้ใช้จ้างวาน 2.บุกรุกเคหสถานร่วมกันทำร้าย 3.ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุได้รับอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ โดยในเบื้องต้นนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และปล่อยตัวนายกิตติศักดิ์ไปเนื่องจากเป็นหมายเรียก และนายกิตติศักดิ์ ก็มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยทางพนักงานสอบสวนระบุว่า มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับนายกิตติศักดิ์ ซึ่งอยู่ในสำนวนการสอบสวน