ครูโภชนาการ รร.ดังบางบัวทอง แจงถูกร้องทำเมนูมาม่าให้เด็กกินวันเว้น

ความคืบหน้ากรณีที่วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้ปกครองโรงเรียนระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาแห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ยื่นร้องเรียนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน เนื่องจากบุตรหลานที่เรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ ได้รับประทานแต่อาหารจำพวกมาม่าเป็นหลัก แบบวันเว้นวันพร้อมกับขนมปีปเพียงไม่กี่ชิ้น และต้องนำเงินค่าขนมส่วนตัวไปซื้อของกินเพิ่มในสหกรณ์ ที่มีครูเป็นผู้ขายเพิ่มในแต่ละวัน (อ่านข่าว)

 

ต่อมาเวลา 14.30 น.  ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่โรงเรียนประสานสามัคคีวิทยา ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยมีนายสุวิทย์ เพียรชนะ รอง ผอ.สพป.นนทบุรี เขต 2 , น.ส.วรัญญา เต็มรัก ปลัดอำเภอบางบัวทอง นายมีศักดิ์ อิทธิธนากุลชัย นายก อบต.ละหาร , และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น โดยมี น.ส.นารี คุ้มขร ครูฝ่ายโภชนาการของโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบอาหารกลางวันนักเรียน ชี้แจงประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

 

น.ส.นารี กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้งบจากกระทรวงศึกษาธิการ สนับสนุนเรื่องงบประมาณค่าอาหารกลางวันให้กับทางโรงเรียน วันละ 21 บาทต่อเด็กหนึ่งคน ซึ่งทางโรงเรียนมีนักเรียนจำนวน 365 คน จึงได้รับค่าอาหารเป็น 7,665 บาทต่อวัน ซึ่งในอัตรา 21 บาทต่อคนนั้นรวมค่าวัตถุดิบ ค่าจ้างแม่ครัว ค่าแก๊ส และค่าเครื่องปรุง การจัดอาหารรวมอยู่ในค่าอาหารกลางวันด้วย  

 

 

น.ส.นารี กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงเรียนได้สอบถามจากเด็กนักเรียนว่า อยากทานอาหารประเภทไหน เพราะเด็กนักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่ จะทานอาหารไม่เหมือนกัน ทานโรงเรียนจึงจัดอาหารเตรียมให้วันละ 2 อย่าง รวมกับขนมและผลไม้ อย่างละหนึ่งอย่าง ส่วนประเด็นเรื่องเมนูเส้นมาม่านั้น เนื่องจากในทุกวันศุกร์ทางโรงเรียนจะทำเมนูก๋วยเตี๋ยวแทนข้าว ซึ่งจะมีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้นักเรียนเลือก แต่เด็กนักเรียนส่วนใหญ่จะเลือกเส้นมาม่าไปรับประทานมากกว่า ไม่ได้มีเมนูมาม่าตามที่ผู้ปกครองร้องเรียนไป

 

หากถามว่าทางโรงเรียนซึ่งได้รับงบค่าอาหารกลางวันที่ 21 บาทต่อนักเรียนหนึ่งคน จะสามารถทำอาหารให้นักเรียนทานเพียงพอหรือไม่นั้น ก็ต้องยอมรับว่าด้วยปัจจัยค่าวัตถุชนิดต่าง ๆ ที่สูงขึ้น ค่าเครื่องปรุง น้ำมันพืช และแก๊สหุงต้ม มีผลกระทบต่อการกับรายการอาหารเช่นกัน ทางโรงเรียนจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนปรับลดเมนูอาหารบางรายการออกไป เพื่อให้สามารถบริหารค่าอาหารกลางวันที่ได้รับมาเท่านี้ ให้โรงเรียนและเด็กนักเรียนประคับประคองต่อไปได้

 

ส่วนเรื่องที่ตักอาหารให้นักเรียนน้อยตามที่ถูกร้องเรียนไปนั้น ตนขอชี้แจงว่า สาเหตุที่ตักอาหารให้ไปน้อยนั้น เป็นต้องต้องการให้นักเรียนรับประทานอาหารที่รับไปให้หมด ไม่ให้เหลือทิ้ง เพราะที่ผ่านมา หากตักให้เยอะไปเด็กนักเรียนก็มักจะรับประทานไม่หมด เหลือทิ้งเป็นจำนวนมากประจำ ทางโรงเรียนจึงต้องปรับมาให้ปริมาณอาหารลดลงเพื่อให้นักเรียนรับประทานอาหารให้หมด ซึ่งถ้าหากรับประทานหมดแล้วแต่ยังไม่อิ่มก็สามารถมาขอรับอาหารเพิ่มเติมได้ทุกครั้ง

 

 

ด้าน น.ส.ซากีเลาะ​ห์ โต๊ะเถื่อน​ อายุ 46​ ปี​ แม่ครัวของโรงเรียน กล่าวว่า ทางโรงเรียนและครูเป็นผู้กำหนดเมนูอาหารในแต่ละสัปดาห์มา ตนเป็นแม่ครัวมีหน้าที่ซื้อวัตถุดิบมาเตรียมพร้อมไว้ทำอาหารในแต่ละวัน ยืนยันว่า วัตถุดิบที่นำมาทำอาหารให้นักเรียนตนได้เลือกมาเป็นอย่างดี ไม่มีของเสียหรือหมดอายุตามที่ถูกร้องเรียน ลูกของตนก็เรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ด้วย แล้วตนจะกล้านำของไม่ดีมาทำอาหารให้นักเรียนกินได้อย่างไร เพราะลูกของตนก็กินอาหารกลางวันที่โรงเรียนนี้ด้วย และทุกวันศุกร์ตนก็จะเตรียมเมนูก๋วยเตี๋ยวตามที่โรงเรียนกำหนดมา มีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้นักเรียนเลือกกิน แต่เด็กก็ชอบกินเส้นมาม่ากับลูกชิ้นมากกว่า ไม่ได้ทำเมนูเส้นหรือมาม่าทุกวันตามที่ผู้ปกครองร้องเรียนไป

 

ขณะที่ นายสุวิทย์ เพียรชนะ รอง ผอ.สพป.นนทบุรี เขต 2 กล่าวว่า วันนี้ได้เข้ามาตรวจสอบพูดคุยกับทาง ผอ.โรงเรียน ครูผู้ดูแล แม่ครัวแล้ว โดยจะมีการตรวจสอบรายการวัตถุดิบและอาหารที่ทำในแต่ละวัน ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบสักพัก ซึ่งทางโรงเรียนก็ไม่ทราบมาก่อนว่า ทางผู้ปกครองจะทำเรื่องร้องเรียนไปยัง ป.ป.ท. อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ ไป ทาง สพป.จะมีการสุ่มตรวจอาหารกลางวันของโรงเรียนแห่งนี้ต่อไป