เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.65 กลุ่มรวมพลังสามัคคีประชาชน นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำกลุ่มกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และเครือข่าย จัดเสวนา ที่ใช้ชื่อว่า ‘"ต่อต้านอเมริกา พาไทยสู่สงคราม" กรณีทำไมรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ มาไทย ครั้งที่ 2
โดยระบุว่า ภายหลังที่พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ จะเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีด้านความมั่นคงให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลังจากที่เข้าร่วมการประชุมแชงกรี-ลาไดอะล็อกที่สิงคโปร์ ในวันที่ 12 - 13 มิ.ย.นี้ โดยมีวิทยากรเข้าร่วม อาทิ นายไพศาล พืชมงคล/นายโสภณ องค์การณ์ โดยการเสวนาได้มีการหยิบยกประวัติศาสตร์ตั้งแต้สมัยรัตนโกสินทร์ที่ล้วนเชื่อมโยงชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ ไว้อย่างชัดเจนไม่มียุคสมัยไหนนำพาความอับเฉามายังประเทศ
ตั้งคำถามว่า สหรัฐอเมริกาเป็นมิตรแท้หรือไม่เพราะ ยุทธศาสตร์อินโด แปซิฟิก คือสิ่งที่กำหนดศัตรูและเป็นประเมินทุกประเทศตามแผนงานความมั่นคงของอเมริกา พร้อมตั้งคำถามว่านายกรัฐมนตรีเพิ่งมีการพบปะกับรมว.กลาโหมสหรัฐ ไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทำไมถึงมีการพบปะกันอีกครั้งในครานี้ พร้อมขอให้ประชาชนติดตามการพบปะในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด ว่าจะมีการเคลื่อนไหวทางทหารหรือไม่ และไทยพร้อมเป็นสนามรบอย่างประเทศยูเครนหรือไม่
นายนิติธร บอกถึงเหตุผลที่อเมริกาก่อสงคราม ขณะนี้ เนื่องจากเกิดภาวะล่มละลายมาแล้วร่วม10ปี และมีประเทศร่วมต่อต้านการใช้อำนาจ และแทบประเทศรัฐเซีย/จีนมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสหรัฐยอมไม่ได้เพราะไม่สามารถขายอาวุธให้กับประเทศใดได้นอกจากไทยต่างจากจีนที่ขายอาวุธควบคู่ไปกับช่วยเหลือประเทศอื่นด้านสาธารณสุข ขณะที่ผู้นำโลกทำให้ยูเครนล่มสลาย และมองว่าอเมริกากำลังย่ำแย่และอยากให้ประเทศไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เพราะไทยมีความพร้อมทุกด้านแต่คนไทยอ่อนแอ ผ่านแผนพัฒนาประเทศฉบับที่1 หมายความว่า อเมริกาได้แทรกแซงและครอบครองโครงสร้างของประเทศทั้งระบบแบบเบ็ดเสร็จ รวมทั้งสั่นคลอนระบบกษัตริย์ด้วย และมองว่าสิ่งที่ไทยทำได้คือปลดฉนวนสงครามที่จะเกิดในภูมิภาคนี้ ถอนตัวจากอินโดแปซิฟิกและไม่ต้อนรับสหรัฐอเมริกาถือเป็นภารกิจของคนทุกสี มองข้ามเรื่องการเมือง
นายจตุพร ได้บอกต่อเนื่อง ว่าประเด็นยุทธศาสตร์อินโด แปซิฟิกคนไทยยังไม่เข้าใจเจตนาของอเมริกา โดยอเมริกาได้แทรกแซงมาทั้งระบบผ่านมาสื่อสาร จนพวกตนถูกดูถูกเหยียดหยามถ้อยค่าอย่างรุนแรงและอันที่จริงในเรื่องนี้ควรพูดในเวทีรัฐสภา เพราะไทยกำลังถูกชักน้ำเข้าลึกชักสึกเข้าบ้าน ในกรณีสงครามเวียดนาม ไทยได้อเมริกาเข้ามาตั้งฐานทัพ นำอาวุธมาไปทิ้งร่มในประเทศเพื่อนบ้านและตั้งแต่วันนั้นไทยได้ถูกยึดมาโดยตลอดจนถึงตอนนี้ และตนเองมองเห็นว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนเองไม่เคยได้อะไรจากสหรัฐด้านเศรษฐกิจกลับมานอกจากการกระทบกระทั่งกับประเทศจีน และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ไม่มีสิทธิ์เอาประเทศชาติบ้านเมืองไม่เสี่ยง
ทั้งนี้เชิญชวนประชาชน รวมตัว ที่สะพานช้างโรงสี กระทรวงกลาโหม ในวันจันทร์ที่ 13 มิ. ย. นี้ เวลา 14.00 น. เพื่อไปแสดงเจตนารมย์ ที่ไม่เห็นด้วยกับ รมว.ของประเทศไทย ซึ่งมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไปลงนามร่วมกับ รมว.กลาโหมสหรัฐ ดังนั้นการกระทำใดๆของพลเอกประยุทธ์ เป็นการกระทำของพลเอกประยุทธ์ ไม่ใช่ของคนไทยทั้งชาติ ดังนั้น หากเกิดสงคราม ก็ขอให้จัดการพลเอกประยุทธ์เพียงคนเดียว และมองว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่ควรเอาประเทศไทยและคนไทยไปเสี่ยง
ดังนั้นจึงต้องแสดงพลังถ่วงดุลรัฐบาล ก่อนที่จะเลอะเทอะแล้วเลยเถิดมากกว่านี้