"ทรัมป์" ยืนยันจะใช้กำลังทหาร เนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่

ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โพสต์คำเดียวสั้น ๆ ในแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียลของตัวเองในวันจันทร์ (19 พฤศจิกายน) ว่า “จริง” เพื่อยืนยันเรื่องที่ทอม ฟิตตัน ประธานกลุ่ม Judicial Watch โพสต์ว่า ทรัมป์จะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ และใช้สรรพกำลังของกองทัพเพื่อดำเนินการเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่

ก่อนหน้านี้เขาเคยให้สัญญาหาเสียงไว้ว่า จะระดมกองกำลังป้องกันประเทศเพื่อสนับสนุนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร หรือ ไอซีอี ที่รับผิดชอบการเนรเทศผู้อพยพ

ส่วนคำยืนยันล่าสุดมีขึ้นหลังจากมีคำถามมากยิ่งขึ้นว่าเขาจะเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ อย่างไร เขาย้ำหลายครั้งว่าจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2568

แต่ถึงแม้รัฐบาลจะสามารถดำเนินการตามแผนได้โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย ก็ยังต้องเผชิญความท้าทายด้านโลจิสติกส์ ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสงสัยว่า จำนวนเจ้าหน้าที่ 20,000 คนของไอซีอี และทีมสนับสนุนจะเพียงพอติดตามและเนรเทศผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารหลายล้านคนได้ อีกทั้งยังต้องใช้งบจำนวนมาก ขณะที่ทรัมป์ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า สิ่งเหล่านี้ไม่อาจขัดขวางความพยายามของเขาได้

ทรัมป์ได้เลือกคนที่ภักดีต่อเขาให้รับผิดชอบเรื่องตรวจคนเข้าเมืองและเนรเทศผู้อพยพแล้ว ซึ่งรวมถึง คริสตี โนม ที่จะคุมกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และทอม โฮแมน อดีตหัวหน้าไอซีอี ที่จะเป็น ซาร์คุมพรมแดน

ที่ผ่านทีมทรัมป์ให้รายละเอียดน้อยมากเกี่ยวกับแผนเนรเทศผู้อพยพ แต่ทรัมป์เคยบอกว่าจะประกาศภาวะฉุกเฉิน ที่จะให้อำนาจเขาระดมทหารบนแผ่นดินสหรัฐฯ ได้ และโฮแมน เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า เขาจะพบกับทรัมป์ที่ฟลอริดาในสัปดาห์นี้เพื่อสรุปแผน ซึ่งรวมถึงบทบาทของกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับโครงการนี้

ภายใต้ 4 ปี ในสมัยทรัมป์มีการเนรเทศผู้อพยพราว 1.5 ล้านคน ทั้งที่มาจากพรมแดน และภายในสหรัฐฯ ส่วนสมัยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เนรเทศ 1.1 ล้านคนแล้ว