ผู้คนหลายพันในลอนดอน และเมืองสำคัญ ๆ ของสหราชอาณาจักร เข้าคิวรอรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในวันจันทร์ ( 13 ธันวาคม ) หลังจากที่รัฐบาลประกาศกระตุ้นให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีทุกคนได้เข้ารับวัคซีนเข็มที่ 3 ภายในสิ้นปีนี้
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของสหราชอาณาจักร ได้ประกาศขยายการรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในการปราศรัยทางโทรทัศน์เมื่อคืนวันอาทิตย์ ( 12 ธันวาคม ) โดยเขายังบอกด้วยว่า NHS ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสาธารณสุขแห่งชาติ จะทำงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ โดยจะมีการเพิ่มชั่วโมงการให้บริการที่นานขึ้น ขณะที่ทหารก็จะถูกนำเข้ามาช่วยเหลือด้านการขนส่ง
ในการพูดกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีบอกว่า ตอนนี้เชื้อโอมิครอนมีการระบาดมากในกรุงลอนดอน และส่วนอื่น ๆ ของประเทศ
ชายคนหนึ่งที่บอกขณะรอคิวเข้ารับวัคซีนที่ด้านนอกของโรงพยาบาลเซนต์โธมัสในเวสต์มินสเตอร์ บอกว่าพวกเขาคาดว่าจะต้องรอนานถึง " 2-3 ชั่วโมง" ในขณะที่อีกคนบอกว่าพวกเขาไม่สามารถจองการนัดหมายสำหรับการฉีดวัคซีนได้ จึงตัดสินใจมารอเข้าคิวแบบนี้แทน
ทางตอนใต้ของลอนดอน ร้านขายยาที่เปิดให้บริการฉีดวัคซีนตามการนัดหมายก็ประสบปัญหาการต่อคิวยาวและล่าช้าเช่นกัน เนื่องจากมีการเสนอการให้บริการแบบวอล์กอินในเวลาเดียวกันด้วย
ขณะที่ทางการแนะนำให้ประชาชนพยายามลองจองคิวใหม่ในวันรุ่งขึ้น หรือวันถัดไป
ในส่วนของอุปกรณ์การตรวจหาเชื้อที่บ้านจากแหล่งจองอย่างเป็นทางการของรัฐบาล ตอนนี้ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ขอให้ผู้ต้องการลองจองใหม่ในโอกาสถัดไปเช่นกัน
หน่วยงานด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักรบอกว่ากรณีการติดเชื้อโอมิครอนนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าทุก ๆ 2-3 วัน และมันจะเข้ามาแทนที่เชื้อเดลต้าในฐานะที่เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศภายในอีกไม่กี่วัน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าคลื่นของการระบาด จะถาโถมเข้าใส่ระบบสุขภาพของประเทศหรือไม่
ปัจจุบันมีแค่ 10 คน ที่อยู่ในโรงพยาบาลในสหราชอาณาจักรที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่เกิดจากเชื้อโอมิครอน และเมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีจอห์นสันก็รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายแรกของประเทศที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโอมิครอนดังกล่าว
นักวิทยาศาสตร์ในแอฟริกาใต้ ซึ่งพบเชื้อโอมิครอนเป็นครั้งแรกบอกว่า พวกเขาเห็นสัญญาณว่าเชื้อตัวนี้อาจทำให้เกิดโรคที่ร้ายแรงน้อยกว่าเดลต้า แต่ก็เตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะแน่ใจ ขณะที่หน่วยงานด้านสุขภาพทั่วโลกกำลังจับตาดูสหราชอาณาจักรอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่ากระแสการระบาดของโอมิครอนจะเป็นอย่างไรในประเทศที่มีประชากรสูงอายุมากกว่า และได้รับการฉีดวัคซีนมากกว่าแอฟริกาใต้