23 ตุลาคม 2564 จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความ เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 22 ต.ค.64 ว่า "เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ควรทำยังไงคะ หักรถขับเข้ามาชนเราแล้วเรียกเงินเรา 4,000 แต่เราไม่ให้ ก่อนหน้าที่จะถ่ายคลิป เราเลยเอาโทรศัพท์มาถ่ายคลิป ก็เป็นแบบในคลิปเลยค่ะ ปล.รถเขายับทั้งคันโดยเฉพาะข้างขวา #ไม่ยอมให้เราเรียกประกันด้วยค่ะ ช่วยกันแชร์ด้วยนะคะ เผื่อใครโดนแบบนี้"
ที่เกิดเหตุ ถนนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าถนนรัตนาธิเบศร์ หน้าร้านไทยนิยมวัสดุก่อสร้าง ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบ น.ส.นฤมล อายุ 41 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.00 น.ของวันที่ 22 ต.ค. ตนและแฟนได้ขับรถมาพร้อมลูกจ้างอีกหนึ่งคน โดยรถที่ตนขับมาเป็นรถกระบะติดหลังคายี่ห้อ อีซูซุ สีเทา ทะเบียน กทม. เดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานี เพื่อจะไปทำงานที่หมู่บ้านพฤกษ์ภิรมย์ จังหวัดนนทบุรี โดยใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ
ขณะเกิดเหตุตนขับรถอยู่ในเลนกลาง ส่วนรถคู่กรณีนั้นขับอยู่ด้านหน้าตน จากนั้นตนได้ขับแซงขึ้นไปด้านขวา และเห็นว่ารถของคู่กรณีมีแต่รอบยุบรอบคัน เหมือนถูกชนมาหลายครั้ง
จากนั้นเมื่อตนขับเข้ามาที่เลนขวาแล้ว คนขับรถคันดังกล่าวได้มีการมองมาทางรถของตน จากนั้น รถคู่กรณีก็ได้เบี่ยงเข้าเลนซ้ายไป
ต่อมาเมื่อตนเห็นเลนกลางว่าง จึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนจากเลนขวากลับเข้าสู่เลนกลาง แล้วจู่ๆ รถคู่กรณีพอเห็นตนเปลี่ยนเลนจึงได้เร่งเครื่องจากเลนซ้ายที่เขาอยู่เข้ามาเบียดรถของตนที่เลนกลาง
ตอนนั้นรถส่ายไปมาโชคดีที่ตอนเช้ารถของตนบรรทุกพวกปูนกับทรายมาเพื่อจะไปส่งให้ที่ทำงาน จึงทำให้รถหนักบวกกับที่ตนขับมาไม่เร็วมาก จึงไม่เป็นอะไรมาก ตอนนั้นตนยังไม่สามารถนำรถเข้าจอดรถได้ เนื่องจากถูกเบียดแล้วรถกระเด็นกลับไปที่เลนขวา จึงต้องขับประคองไปเรื่อยๆ เพื่อหาจังหวะเข้าซ้ายเพื่อจอดรถ จนเลยไปไกลจากจุดที่ชนกัน
น.ส.นฤมล เล่าต่อว่า เมื่อนำรถเข้าจอดฝั่งซ้ายได้ ฝ่ายคู่กรณี ซึ่งเป็นผู้ชายขับรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าแจ๊ส สีบรอนซ์ ทะเบียน กทม. แผ่นป้ายทะเบียนใช้ลวดผูกติดไว้ เดินลงมาถามว่ารถของตนนั้นมีประกันภัยชั้นหนึ่งไหม ตนจึงตอบไปว่ารถมันเก่าแล้วมีแต่ประกันชั้น3 ฝั่งผู้ชายคู่กรณีจึงถามกลับมาว่า ชั้น 3 บวกไหม ตนก็ตอบไปว่า ชั้น 3 ธรรมดาซ่อมแต่รถคู่กรณี
ฝ่ายชายคู่กรณีก็ถามต่อว่าตนนั้นเสียประกันปีละเท่าไร ตนจึงตอบกลับไปว่า ปีละสามพันกว่าบาทรวม พ.ร.บ.ด้วย
ผู้ชายคู่กรณีก็ได้บอกกับตนว่ารถของเขาทำประกันชั้น1 มา 8 ปีแล้ว ไม่เคยเครมเลย ดังนั้น เขาจะขอเครมเองและขอค่าซ่อมจากตน 4,000 บาท ซึ่งตนก็บอกถ้าจะเอาเงิน 4,000 บาท ตนจะไม่จ่าย ให้เรียกประกันมา ซึ่งฝ่ายผู้ชายคู่กรณีก็มีอาการไม่พอใจ อ้างว่าตนรีบไปทำงานหากไปไม่ทันจะโดนไล่ออก
ตอนแรกยังไม่ได้ถ่ายคลิปก็ได้มีการพูดจากันตามปกติ แต่พอดูเหมือนว่าฝ่ายผู้ชายที่เป็นคู่กรณีเห็นว่าตนไม่จ่ายเงินก็เริ่มโวยวาย จะเอาให้ได้ ตนจึงได้ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มาถ่ายตามที่เป็นคลิป หลังจากคุยกันสักพักฝ่ายผู้ชายที่เป็นคู่กรณีก็บอกว่า งั้นไม่เป็นไรคุณไม่มีน้ำใจเดียวผมไปซ่อมเองก็ได้
จากนั้นผู้ชายคนดังกล่าวก็ได้เดินเข้ามาหาตนแล้วบอกให้ตนลบคลิปที่ถ่ายไว้ พอตนลบฝ่ายผู้ชายคนดังกล่าวก็เดินกลับขึ้นรถพร้อมกับขับรถถอยหลังออกจากจุดเกิดเหตุระยะทางกว่า 200-300 เมตร เพื่อมาออกทางคู่ขนาน ซึ่งทำให้ตนสงสัยเป็นอย่างมาก ว่าทำไมไม่ขับไปข้างหน้า เพราะข้างหน้าก็มีทางออกเช่นกัน แต่ทำไมเลือกที่จะถอยหลังไปในระยะทางไกลขนาดนั้นเพื่อจะออกจากทางขนาน
ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นแก๊งตบทรัพย์ เพราะรถของฝั่งคู่กรณีมีร่องรอยการถูกชนถูกเบียดรอบทั้งคัน ทั้งแผ่นป้ายทะเบียนยังใช้ลวดมัดเอาไว้อีก
น.ส.นฤมล บอกอีกว่า ตอนที่เกิดเหตุนั้นตนกลัวมากแต่ก็พยายามข่มใจไว้ พยายามตั้งสติ และคิดว่าหากมีอะไรแฟนที่อยู่ในรถกับลูกน้องอีกหนึ่งคนคงจะพอช่วยตนได้ จึงอยากฝากไปถึงทุกคนหากเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นพยายามตั้งสติ หรือโทรเรียกใครก็ได้ให้มาอยู่เป็นเพื่อน หรือโทรเรียกประกัน อย่ายอมให้เงินไปโดยเด็ดขาดเพราะตนเชื่อว่า คนกลุ่มนี้อาจจะทำเป็นกระบวนการซึ่งตนเห็นข่าวมาเยอะในลักษณะแบบนี้
เบื้องต้น น.ส.นฤมล จะไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แล้ว