เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2563 พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการดูแลและป้องกันเว็บไซต์พนันออนไลน์ ว่า นอกเหนือจากผู้ให้บริการ ISP และ โอเปอเรเตอร์มือถือทุกรายแล้ว ควรมีการขอความร่วมมือกับทางผู้ดำเนินธุรกิจชุมสายอินเตอร์เน็ต (IXC: Internet Exchange ) ซึ่งจะครอบคลุมทั้ง 2 ประเภท คือ 1.ถ้าเป็นเว็ปพนันออนไลน์ที่มี Server ตั้งอยู่ในประเทศควรจะต้องมีการขอความร่วมมือกับผู้ดำเนินธุรกิจชุมสายอินเตอร์เน็ตที่ให้บริการกับ ISP ที่ต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในประเทศหรือที่เรียกว่า NIX (National Internet Exchange)
2. ถ้าเป็นเวปพนันออนไลน์ที่มี Server ตั้งอยู่ในต่างประเทศควรจะต้องมีการขอความร่วมมือกับผู้ดำเนินธุรกิจชุมสายอินเตอร์เน็ตที่ให้บริการกับ ISP ที่ต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับภายนอกประเทศหรือที่เรียกว่า IIG (International Internet Gateway)
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวอีกว่า ข้อดีของการประสานกับทาง NIX และ IIG เพื่อบล็อกหมายเลข IP address ของเว็ปพนันออนไลน์ จะสามารถติดตามผลการดำเนินการได้สะดวกว่า เพราะจำนวนผู้ให้บริการ NIX กับ IIG รวมกันแล้วจะ มีจำนวนน้อยกว่าผู้ให้บริการ ISP เป็นจำนวนมาก เพราะความเป็นจริงถ้าไม่มีกระบวนการตรวจสอบว่า ISP รายใดทำการบล็อกเว็ปพนัน ตามวันเวลาที่ตกลงกันไว้ จะทำให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบทางธุรกิจ เช่น ISP รายนี้บล็อก รายนั้นไม่บล็อก รายโน้นปิดไปแล้ว อีกรายดำเนินการอย่างเชื่องช้า การประสานงาน NIX และ IIG ที่มีจำนวนน้อยกว่า ISP มาก จะทำให้การดำเนินการของผู้เล่นเหล่านี้ถูกกำกับดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทำการปิดกั้นเว็ปพนันได้พร้อมเพรียงกัน
"เท่าที่รู้ทุกวันนี้จะมีประกาศทาง กสทช. แจ้งไปหา ISP ให้ปิดกั้น URL เวปที่ไม่เหมาะสมอยู่แล้วเกือบทุกวัน คงต้องเรียกมาระดมความเห็นร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ เพราะประเด็น ISP จำนวนมาก ถ้ากำกับดูแลไม่ดี ก็จะเกิดอาการลักลั่น เลยมีข้อเสนอไปกำกับดูแลด้วยมาตรการเข้มข้นกับ NIX และ IIG เพื่อทำให้เว็ปพนันออนไลน์ถูกปิดกั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว
ขณะที่ น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ.ดีอีเอส) กล่าวว่า กมธ.ดีอีเอสให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และได้เรียกประชุมโดยเชิญ กสทช. โอเปอเรเตอร์ บริษัทไลน์ประเทศไทย เข้ามาชี้แจงตั้งแต่เดือน ก.พ. แล้วเพราะปัญหาเว็ปพนันเกิดขึ้นมากมายส่งผลให้เกิดปัญหากับเยาวชน และประชาชน เสียหายในทางเศรษฐกิจ กมธ.ฯไม่ได้นิ่งนอนใจ และขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการว่าจะมีแนวทางอย่างไร แนวทางที่ให้โอเปอร์เรเตอร์มีส่วนร่วมในการปิดการเข้าถึงเว็ปไซต์พนันออนไลน์ ทาง กมธ.ดีอีเอส จะนำเข้าสู่การประชุมอีกครั้ง โดยจะเชิญ กสทช. โอเปอร์เรเตอร์ทุกเครือข่าย ผู้ให้บริการ IPS รวมถึงบริษัทไลน์ และผู้ดำเนินธุรกิจอินเตอร์เน็ตชุมชน และเว็ปพนันออนไลน์ที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเข้ามาหารือและเป็นการขอความร่วมมือ หาแนวทางที่ชัดเจนร่วมกันว่าจะทำอย่างไรในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับพนันออนไลน์ รวมถึงสื่อลามกอนาจาร และสื่ออื่นๆด้วย จะเชิญมาหารือในเร็วๆนี้ น.ส.กัลลา กล่าวอีกว่า มองว่าการที่ให้โอเปอร์เรเตอร์สามารถปิดเว็ปไซต์ได้เลยนั้น จะทำให้เว็บพนันลดลง แต่ในช่วงแรกๆ อาจจะยาก เพราะเป็นเพียงการขอความร่วมมือ ไม่ได้เป็นกฎหมายบังคับ แต่อาจจะทำให้ลดลง และเบาลงได้ ดีกว่าไม่ได้ขับเคลื่อนอะไร และทุกส่วนควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพราะมีผลต่อเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ไม่ใช่แค่การปิดเว็ป การขอความร่วมมือเครือข่ายต่างๆที่จะทำให้เว็บพนันลดน้อยลงได้แล้ว สิ่งสำคัญคือจะต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง ครู สถานศึกษา แบะทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความรู้กับเด็กให้รู้เท่าทันสื่อ เพราะถ้าเด็กมีภูมิคุ้มกันและเข้าใจการดูสื่ออย่างพิจารณา หากมีเว็ปไซต์พนันออนไลน์ส่งเข้ามาก็จะไม่มีผล จะไม่เปิดเข้าไป แต่หากรู้ไม่เท่าทันสื่อ เมื่อมีอะไรที่น่าสนใจเข้ามาเป็นสิ่งเร้าก็จะเกิดการอยากรู้ อยากลอง และเกิดผลเสียในอนาคต