บรรยากาศการทำบุญวันสารทเดือนสิบ หรือวันส่งตายาย ที่วัดคูหาภิมุข(พุทธไสยานุสรณ์) หมู่ที่ 1 ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา คึกคักรับงานบุญใหญ่ที่บรรดาพุทธศาสนิกชนชาวยะลาทยอยเดินทางนำบุตรหลานไปวัดเพื่อร่วมทำบุญ โดยแต่ละหมู่บ้านได้ร่วมกันจัดขบวนแห่หมับเข้าวัดพร้อมร่วมกันร้องรำทำเพลงด้วยความครึกครื้น ก่อนจะร่วมตักบาตรทำบุญโดยเฉพาะการนำขนมต้ม ขนมลา ขนมบ้า ขนมเจาะหู ขนมข้าวพอง และขนมเทียน รวมทั้งอาหารคาว ดอกไม้ธูปเทียน ไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อทำบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
นอกจากนั้นขบวนแห่หมับนั้นยังมีการประกวดหมับกันด้วย โดยการทำบุญวันนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารมาร่วมกิจกรรมควบคู่ไปกับการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่พุทธศาสนิกชนทั้งที่ภายในวัด และรอบนอกวัดอย่างเข้มงวด
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนา ก็จะเข้าสู่กิจกรรมการรอคอยที่สร้างความสนุกสนานให้กับพุทธศาสนิกชนที่ร่วมทำบุญเดือนสิบ ซึ่งเรียกว่าการ "ชิงเปรต" โดยแต่ละวัดนั้นจะมีการจัดร้านชิงเปรตเพื่อให้นำขนมที่ใช้ในเทศกาลเดือนสิบไปตั้งวางไว้ที่ร้านเปรต ซึ่งมีเด็ก ๆ แต่งตัวเป็นเปรตคอยรับอาหาร เช่นเดียวกับที่วัดคูหาภิมุข(พุทธไสยานุสรณ์) ที่ได้สร้างร้านเปรตสูงประมาณ 2เมตรเพื่อให้ทุกคนได้ร่วมกันปีนขึ้นไปแย่งชิงอาหารอคาวหวานและสร้างความสนุกสนานเป็นประจำทุกปี
สำหรับ การทำบุญวันสารท หรือ ประเพณีชิงเปรต หรือวันส่งตายาย จะจัดทำบุญ 2 ครั้ง คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 หรือที่เรียกว่าบุญแรก หรือวันรับตายาย และวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 เรียกว่าบุญหลัง หรือ วันส่งตายาย โดยมีความเชื่อว่า พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตายาย และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วโดยเฉพาะผู้ที่ต้องตกนรก หรือ เรียกว่าเปรต นั้น จะได้รับอนุญาตให้มาพบกับญาติของตนในเมืองมนุษย์ได้ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 และกลับไปสู่นรกดังเดิม ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ดังนั้นทั้งสองวันนี้ จะมีการทำบุญของลูกหลาน โดยนำเครื่องอุปโภคและเครื่องบริโภคไปถวายพระเพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล แก่บรรพบุรุษของตน และแสดงความกตัญญูกตเวทีและรำลึกถึงคุณงามความของบรรพบุรุษ รวมทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมให้คงสืบทอดต่อไป อีกด้วย