จากที่มีชาวบ้านจากอำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ เข้าร้องเรียนผ่านรายการ ทนายคลายทุกข์ ว่าถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีวิไล 5 คนเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านพักแล้วไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ขณะที่เจ้าของบ้านเผลอตำรวจ 1 ใน 5 ได้ล้วงธนบัตรของตัวเองมายัดใส่กระเป๋าของผู้เสียหาย หลังจากนั้นก็แจ้งข้อหาค้ายาเสพติดว่าเป็นธนบัตรล่อซื้อ แล้วเรียกเงิน 60,000 บาท พยานหลักฐานชัดเจนขณะกระทำความผิด มีกล้องวงจรปิดร้องเรียนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านมาปีเศษไม่มีความคืบหน้าตำรวจที่กลั่นแกล้งยังอยู่สุขสบายไม่ดีการดำเนินคดีใดๆ ทั้งทางวินัยและอาญา คดีไม่คืบหน้าจึงมาร้องขอความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 7 ก.ย.63 ที่บ้านผู้เสียหาย อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ โดยเจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้เสียหายไม่ยินยอมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยอ้างว่าจะต้องปรึกษาทนายความก่อน เพราะเกรงอาจจะเสียรูปคดี ขณะที่ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ที่อยู่ระหว่างการศึกษาดูงานชี้แจงกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า เบื้องต้น ป.ป.ป.แจ้งข้อหาตำรวจชุดจับกุมทั้ง 5 คน แล้วซึ่งกำลังรอผลคดีอาญา จาก ป.ป.ป. ส่วนการดำเนินทางวินัย ได้ตั้งการสอบสวนคดีวินัยร้ายแรงแล้ว อยู่ระหว่างการสอบสวนทางวินัย และผลการสอบสวนคดีอาญาจาก ป.ป.ป.ขอเรียนว่าประเด็นที่เกิดขึ้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 และผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ให้ความสำคัญกับเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบในเรื่องยาเสพติด ให้ดำเนินการโดยเด็ดขาดทั้งทางอาญาและวินัย เรื่องนี้เบื้องต้นตำรวจชุดจับกุมทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวหาจาก พนักงานสอบสวน ป.ป.ป.ทั้งหมดแล้ว คดีอาญา อยู่ระหว่าง พงส.ป.ป.ป. รวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนการดำเนินการทางวินัย ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ได้ตั้งกรรมการดำเนินการวินัยอย่างร้ายแรงไว้แล้ว
พล.ต.ต.พลัฏฐ์ กล่าวว่า เนื่องจากการดำเนินการทางวินัย เพื่อความรอบครอบชัดเจน ต้องประสานผลการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนในคดีอาญา ประกอบการพิจารณา. ได้เร่งรัดคณะกรรมการสืบสวนคดีวินัยให้เร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว เนื่องจากเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการพิจารณาข้อบกพร่องและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเฉพาะการเรียกรับผลประโยชน์จากการค้ายาเสพติด ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าผู้บังคับบัญชาจะไม่ปกป้องเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำความผิดและกลั่นแกล้งประชาชนโดยเด็ดขาด