นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 62 ตนและคณะได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งประธานศาลฎีกา ได้มอบแจกันดอกไม้และของที่ระลึก รวมทั้งได้พูดคุยเพื่อประสานความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมระหว่าง 2 หน่วยงาน ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันตามธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติ ที่เมื่อมีการเข้ารับตำแหน่งประธานศาลฎีกาคนใหม่ทางรัฐมนตรีจะเข้าไปแสดงความยินดีและแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการทำงานร่วมกันในฐานะฝ่ายบริหารกับฝ่ายตุลาการ ทางประธานศาลฎีกา ได้พูดถึงการใช้ กำไล EM กับผู้ต้องขังเพื่อลดปัญหาความแออัดในเรือนจำ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของตน ส่วนเรื่องสเป็คนั้น ทางศาลจะกำหนดตามมาตรฐานที่ทั่วโลกใช้กัน นอกจากนี้เรื่องปัญหานักโทษยาเสพติดที่เป็นผู้เสพนั้น นายไสลเกษฯ ระบุว่า คนติดยาคือผู้ป่วย ควรนำมารักษาแบบจริงจังดีกว่าปล่อยให้อยู่ในเรือนจำ ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ควรจะเป็น ดังนั้นควรหาวิธีการในการบำบัดผู้ป่วยเหล่านั้นให้เลิกยาและไม่กลับไปเสพอีกไม่ใช่การจับไปขังในเรือนจำ
"นอกจากนี้ทางท่านประธานศาลยังมีการหารือเรื่องการพิจารณาการปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราวหรือการประกันตัวในวันหยุด ทางประธานศาลได้ให้แนวนโยบายว่า ในวันหยุดราชการควรที่จะปล่อยตัวชั่วคราวได้ เพราะจะทำให้ภาระไม่ไปตกกับกรมราชทัณฑ์ เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการลดปัญหาความแออัดในเรือนจำได้ และยังมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยในเรือนจำให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ผู้คุมจะต้องมีความเข้มงวดในการควบคุมผู้ต้องหา ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ชิงตัวนักโทษเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจ เจ้าหน้าที่กระทรวงและเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล บูรณาการร่วมกัน ในการรักษาความปลอดภัย ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงและอันตรายเหมือนที่ผ่านมา"
นายสมศักดิ์ฯ กล่าวอีกว่า ยังมีการหารือถึงสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ในการออกหมายจับหรือหมายค้น อยากให้มีการเน้นย้ำไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ ให้เกิดความรวดเร็วในการออกหมาย เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีความอันตรายและมีความเสี่ยงมาก ดังนั้นจะทำอะไรต้องรวดเร็วเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่