น.ส.กัลยาณี กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือน ก.ค. 2558 ตนได้ว่าจ้างช่างทราบชื่อเล่นว่าเปา ให้มาปรับปรุงซ่อมแซมบ้านหลังดังกล่าวในราคา 3 แสนบาทซึ่งจ่ายไปหมดแล้ว แต่จู่ๆกลับทิ้งงานหายไป และมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายไปแล้ว ต่อมาเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2558 ได้มีนาวิทยา กันจมา ซึ่งเป็นช่างของผู้รับเหมารายแรกเสนอตัวเข้ามาเพื่อขอดำเนินการซ่อมแซมต่อ
ตนตกลงที่จะให้มาทำต่อโดยช่างวิทยาให้เหตุผลว่ารู้แปลนของบ้านหลังดังกล่าวดี แต่ขอเริ่มตกลงค่าจ้างกันใหม่ทั้งหมด และมีการเข้ามาดำเนินการตามตกลงโดยมีการปรับปรุงเป็นจุดๆ ซึ่งก็จ่ายค่าจ้างไปจำนวน 120,000 บาท เมื่อถึงเวลาส่งงานกลับพบว่าบ้านอยู่ในสภาพใช้งานไม่ได้ ไฟเปิดไม่ติด ประตูโรงจอดรถเปิดลำบาก น้ำรั่วเข้ามาในบ้าน พื้นร่อนเป็นแผ่น ซึ่งเมื่อสอบถามไปยังช่างกลับได้รับคำตอบว่าจะให้ส่งงานเต็ม100 เปอ์เซ็นต์ได้อย่างไรเนื่องจากเข้ามาทำต่อจากเดิม เมื่อตรวจสอบโดยรอบยังพบว่าทรัพย์สินบางอย่างได้หายไป เช่นหลอดไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้าบางอย่าง ซึ่งยังไม่ทราบมูลค่าทรัพย์สินที่หายไป และเมื่ออาทิตย์ก่อนติดต่อไปกลับไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
" อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์หากใครที่คิดจะทำบ้านใหม่ ขอให้เลือกบริษัทหรือช่างที่มีความน่าเชื่อถือ และขอให้ทำสัญญาไว้ให้เรียบร้อย โชคยังดีที่ช่างคนแรกได้ทำสัญญากันไว้ ส่วนคนที่สองไม่ได้ทำสัญญากันเพราะว่าเชื่อใจ อีกทั้งยังอาสาที่จะมาแก้งานให้ และเห็นว่าเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วยกันไม่น่าจะทิ้งงานไปได้ อยากจะฝากถึงช่างว่าถ้าไม่อยากจะทำต่อก็ขอเงินที่จ่ายไปคืน จะได้เอาไปจ้างคนอื่นมาทำต่อ ซึ่งบ้านหลังนี้ตั้งแต่ซื้อมาเป็นเวลากว่า 1 ปี 3 เดือนแล้วแต่ยังไม่ได้เข้ามาอยู่ตอนนี้ต้องไปเช่าคอนโดอยู่ จึงอยากให้เห็นใจบ้างกว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาทมันไม่ใช่เรื่องง่าย และหากตกลงกันไม่ได้ก็จะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม" น.ส.กัลยาณี ระบุ
ต่อมาเวลา 12.30 น. บิว กัลยาณี ได้เปิดบ้านเลขที่ 48/123 ซ.รามคำแหง 174 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ที่ยังแต่งเติมไม่แล้วเสร็จ โดยได้พาสื่อมวลชนเดินสำรวจรอบบริเวณบ้าย พว่าหลายจุดเช่น สายไฟ ประตูลานจอดรถ หลอดไฟ ยังไม่เรียบร้อยและมีความบกพร่องอยู่
ด้านพ.ต.ต.โอสถ กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน โดยหลังจากนี้จะให้ผู้เสียหายไปรวบรวมพยานหลักฐานไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย สลิปการโอนเงิน หรืออื่นๆ ที่สามารถรวบรวมได้มาให้เพื่อประเมินมูลค่าของทรัพย์สิน ทั้งนี้ได้มีการนัดหมายทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาพบในวันที่ 7 ต.ค. นี้เวลา 11.00 น. หากถึงกำหนดแล้วผู้ถูกกล่าวหาไม่มาตามนัดก็จะออกหมายเรียก และหากยังไม่มาพบก็จะออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งในคดีนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นในส่วนที่ทำการซ่อมแซมไม่เสร็จตามข้อตกลงต้องไปเรียกร้องทางแพ่งเอา ส่วนที่ 2 เป็นในส่วนทรัพย์สินที่สูญหายส่วนนี้ต้องมาดูว่าหลักฐานที่จะนำมาให้มีอะไรบ้าง หากพบว่ามีการนำทรัพย์สินไปจริงก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป